ตลท. 8 ส.ค. – นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุน บุคคล บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงทิศทางตลาดหุ้นไทยหลังประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่า นักลงทุนเชื่อมั่นมากขึ้น รัฐบาลมีกรอบบริหารประเทศมากขึ้น โดยเศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี หลังจากนี้คงต้องติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ มองว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวไตรมาส 3 และ 4 จากเม็ดเงินลงทุนของภาครัฐ รวมถึงการลงทุนของภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับนักท่องเที่ยวจะกลับมาขยายตัวสูงขึ้นในช่วงปลายปี
สำหรับปัจจัยเสี่ยง คือ ความล่าช้าในการเลือกตั้ง หากเลือกตั้งล่าช้าออกไปจะส่งผลต่อการลงทุน รวมถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศอาจจะส่งผลต่อตลาดหุ้น ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังผันผวน และแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังส่งผลต่อตลาดหุ้นไทย
นายปรเมศร์ ทองบัว ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.บัวหลวง กล่าวว่า ผลการลงประชามติเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ คาดว่าตลาดหุ้นไทยไม่น่าจะขยายตัวมากกว่านี้ ปัจจัยเสี่ยง คือ การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนระยะยาว คงติดตามผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ว่าจะมาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือพรรคการเมือง เพราะถ้ามาจาก คสช.ก็จะสานต่อนโยบายที่วางไว้โอกาสเศรษฐกิจจะเติบโตต่อเนื่อง ถ้ามาจากพรรคการเมืองอาจจะวางนโยบายใหม่ ทำให้เศรษฐกิจสะดุด.-สำนักข่าวไทย