กทม.สุ่มตรวจจุดจับ-ปรับผู้ขับขี่รถบนทางเท้า

กทม.17ก.ย.-รองผู้ว่าฯกทม.สุ่มตรวจจุดจับ-ปรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า หลังยังพบผู้กระทำผิดต่อเนื่อง แม้จะเริ่มโทษปรับอัตราใหม่เป็น 2 พันบาท โดยเดือน ส.ค.62 มียอดปรับ 2.5 ล้าน และก.ย.ได้ค่าปรับแล้ว 1.5 ล้านบาท วันเดียวกันลงพื้นที่กวดขันจุดจัดระเบียบทางเท้า ยังพบผู้ค้าตั้งแผงค้าบนทางเท้ารุกล้ำทางสาธารณะ



วันนี้(17ก.ย.)นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (รองผู้ว่าฯ กทม.) ลงพื้นที่ตรวจจุดจับ-ปรับ ผู้จอดหรือขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้าและกวดขันการจัดระเบียบทางเท้า ในพื้นที่สำนักงานเขตกลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ(เขตจตุจักร) และสำนักงานเขตกลุ่มเขตกรุงเทพกลาง (เขตดินแดง เขตห้วยขวาง) โดยมีนายสมศักดิ์ ชาติสุขศิริเดช ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯกทม.นายศุภกฤต บุญขันธ์ รองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักเทศกิจ สำนักงานเขตพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่


รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า วันนี้เป็นการลงพื้นที่เพื่อตรวจความเรียบร้อยพื้นที่การจัดระเบียบทางเท้าบริเวณจุดจับ-ปรับ ผู้จอดหรือขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้าและกวดขันการจัดระเบียบทางเท้าในพื้นที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ โดยลงพื้นที่ซุ่มตรวจทุกจุดในบริเวณถนนรัชดาภิเษก ถนนลาดพร้าว และอีกหลายจุดในบริเวณใกล้เคียง   จุดแรก คือจุดจับ-ปรับผู้จอดหรือขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า บริเวณแยกรัชดาภิเษก-ลาดพร้าว ตรงข้ามตลาดสวนลุมไนท์บาร์ซาร์ ซึ่งเป็นจุดที่พบผู้กระทำความผิดบ่อยครั้ง จากการตั้งจุดจับ-ปรับดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 07.00 – 09.45 น. พบผู้กระทำความผิดขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้าแล้วจำนวน 5 ราย  

ทั้งนี้ ตั้งแต่ กทม.เริ่มโทษปรับอัตราใหม่เป็น 2,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 62 มียอดปรับในเดือนส.ค.62 ประมาณ 2.5 ล้านบาท ส่วนในเดือนก.ย.62 ได้ค่าปรับแล้วประมาณ 1.5 ล้านบาท โดยสามารถจับปรับได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้นำเรียนพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ให้ทราบถึงผลการดำเนินการแล้ว 

รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากทม.ได้ดำเนินการตามกระบวนการทุกขั้นตอนแล้ว แต่ในภาพรวมยังไม่เป็นที่น่าพอใจ จึงสั่งการให้ฝ่ายเทศกิจในแต่ละพื้นที่ดำเนินการกวดขันอย่างต่อเนื่องโดยให้เปลี่ยนจุดจับ-ปรับไปเรื่อยๆ และแบ่งเจ้าหน้าที่เป็นชุดย่อยเวียนไปตามจุดต่างๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการหาผู้กระทำผิด   

ส่วนการที่มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เรียกร้องให้สร้างทางพิเศษเพื่อรถ จักรยานยนต์ในอุโมงค์และสะพานต่างๆเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุนั้น จากการหารือร่วมกับนักวิชาการ เบื้องต้นคาดว่าต้องใช้งบประมาณกว่า 1.5 พันล้านบาท ซึ่งจะได้หารือกับผู้เชี่ยวชาญในการก่อสร้างถึงความเป็นไปได้ในการก่อสร้างทางลักษณะดังกล่าว เนื่องจากอุโมงค์และสะพานในกรุงเทพฯ ได้ออกแบบมานาน ไม่สามารถขยายได้แล้ว หากอนุญาตให้รถจักรยานยนต์ใช้เส้นทางดังกล่าวก็จะเกิดอันตราย อย่างไรก็ดีจะหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงความเป็นไปได้และวิธีแก้ไขปัญหาในอนาคตต่อไป 

หลังจากนั้นรองผู้ว่าฯกทม.ลงพื้นที่จุดที่ 2 บริเวณทางเท้าหน้าตลาดนัดเมืองไทยประกันชีวิต ถนนรัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง พบผู้ค้าตั้งแผงค้าบนทางเท้ารุกล้ำทางสาธารณะประมาณ 5 ราย จึงให้เจ้าหน้าที่เทศกิจตักเตือนถึงการกระทำผิด 

จุดที่ 3 บริเวณทางเท้าถนนรัชดาภิเษก ช่วงระหว่าง Big C Extra กับ บริษัท ไทยประกันชีวิต (มหาชน) เขตดินแดง พบผู้ค้าหาบเร่-แผงลอยตั้งแผงค้าบนทางเท้ารุกล้ำทางสาธารณะ จำนวน 5 ราย ซึ่งมีจำนวนน้อยลงและจุดสุดท้าย บริเวณทางเท้าโดยรอบตลาดห้วยขวาง เขตดินแดง เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางสัญจรและการจราจรบริเวณโดยรอบติดขัด 

จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้ค้าหาบเร่-แผงลอย และผู้ประกอบการร้านค้า ตั้งวางแผงค้ากีดขวางทางสัญจรและรุกล้ำทางสาธารณะเล็กน้อย จึงมอบ หมายเจ้าหน้าที่เทศกิจในพื้นที่ดำเนินการตักเตือน จัดระเบียบ ตรวจตรา กวดขันให้ผู้ค้าถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการค้าขายในพื้นที่ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้มีการตั้งวางแผงค้าและอุปกรณ์การค้ากีดขวางทางสัญจรของประชาชน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในการสัญจรบนทางเท้า .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น-อีสานอุณหภูมิลดลงอีกเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยในภาคอีสาน ส่วนภาคเหนือตอนบน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก

พาชมเรือใบอิตาลีจอดเทียบท่าภูเก็ต

เมื่อ 2 วันก่อน สำนักข่าวไทยเก็บภาพของเรืออเมริโกเวส ปุชชี่ ขณะกำลังจะเข้าจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ตให้ได้ชมไปแล้ว วันนี้คุณเพลินพิศ ชูเสน จะพาไปทำความรู้จักเรือลำนี้ให้มากขึ้นพร้อมกับพาไปเยี่ยมชมภายในตัวเรือ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว