กรุงเทพฯ 17 ก.ย. – ธนาคารกรุงศรีอยุธยาหั่นจีดีพีปีนี้เป็นครั้งที่ 3 เหลือโตร้อยละ 2.9 ส่งออกหดตัวร้อยละ 2.8 ประเมินความตึงเครียดตะวันออกกลางเป็นผลกระทบระยะสั้น
นายสมประวิณ มันประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด กล่าวว่า เหตุโจมตีโรงงานน้ำมันในซาอุดีอาระเบียไม่น่าจะมีผลรุนแรงต่อเศรษฐกิจไทย เพราะสถานการณ์แตกต่างจากสงครามอิรัก เนื่องจากปัจจุบันปริมาณน้ำมันสำรองมีมากเพียงพอประมาณ 1 เดือน การผลิตน้ำมันยืดหยุ่น และทางซาอุดีอาระเบียคาดว่าจะกลับมาผลิตน้ำมันได้ภายใน 1 สัปดาห์ ดังนั้น คาดว่าราคาน้ำมันจะปรับขึ้นแรงแค่ระยะสั้น คาดราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 66.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ดังนั้น แรงกดดันต่อเงินเฟ้อจึงมีไม่มาก
นายสมประวิณ กล่าวว่า ปัจจัยที่น่าเป็นห่วง คือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจากความไม่แน่นอนของสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ดังนั้น ธนาคารได้ปรับลดประมาณการการเติบโตของจีดีพีปีนี้เป็นเติบโตร้อยละ 2.9 จากร้อยละ 3.2 เป็นการปรับลดลงติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3
ขณะที่การส่งออกของไทยปีนี้ คาดว่าติดลบร้อยละ 2.8 โดยครึ่งแรกของปีส่งออกลดลงร้อยละ 2.9 จำนวนอุตสาหกรรมที่มีการส่งออกลดลงคิดเป็นร้อยละ 87 ของอุตสาหกรรมที่มีการส่งออกทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดใหญ่หรือบริษัทต่างชาติ และการหดตัวของส่งออกครึ่งปีแรกส่งผลต่อร้อยละ 66 ของอุตสาหกรรมไทย ผลกระทบรุนแรง ได้แก่ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ ส่วนผลกระทบปานกลาง คือ กลุ่มยานยนต์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ ส่วนการจ้างงานในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบคิดเป็นร้อยละ 80 ของแรงงานทั้งหมด โดยแรงงานที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่มีค่าจ้างต่อเดือนต่ำกว่า 15,000 บาท
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นตัวไตรมาส 4/2562 เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน ( กนง.) จะลดดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการใช้มาตรการทางการเงินก่อนมาตรการการคลัง เนื่องจากการพิจารณาอนุมัติงบประมาณปี 2563 มีความล่าช้า .-สำนักข่าวไทย