รู้ผลเย็นนี้ ‘คำพร-ญาหยี’ สองเยาวชนไร้สัญชาติดูงานญี่ปุ่น

ก.มหาดไทย 17 ก.ย.-มีความหวัง!!! เยาวชนไร้สัญชาติจากเชียงใหม่ ที่ได้รางวัลเดินทางไปญี่ปุ่น มีโอกาสได้ไป หลังกระทรวงมหาดไทย รับเรื่องส่งให้ปลัดพิจารณา คาดเย็นนี้ทราบคำตอบ

นายหม่อง ทองดี อดีตเยาวชนไร้สัญชาติ เจ้าของแชมป์เครื่องบินกระดาษพับ ในฐานะผู้จัดทำโครงการโรงเรียนสีขาว เพื่อพี่น้องคนไร้สัญชาติ พร้อมด้วย นายนครินทร์ น้อยปุก ครูผู้ประสานงานการแข่งขันของ ด.ญ.ญาหยี แซ่ฉี่ ร.ร.บ้านอรุโณทัย เดินทางมายังกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เพื่อยื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย หลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เซ็นหนังสือรับรองเรื่องการขอคำร้องขอออกนอกเขตพื้นที่ควบคุมคนต่างด้าว ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย

เพื่อขอโอกาสให้กับเยาวชน 2 คน จาก จ.เชียงใหม่ คือน.ส.คำพร ติยะ โรงเรียนบ้านบ่อแก้ว อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ และด.ญ.ญาหยี แซ่ฉี่ โรงเรียนบ้านอรุโณทัย ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ที่สามารถคว้ารางวัลความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ดีเด่น สิ่งประดิษฐ์รักษ์โลก โครงการพลังเล็กเปลี่ยนโลกปี 7 โดยรางวัลปีนี้ จะพาเด็กเยาวชนเดินทางไปศึกษาดูงาน ที่ประเทศญี่ปุ่น กำหนดเดินทางวันที่ 5-9 ต.ค.62 นี้ แต่เพราะเด็กถือบัตรไร้สัญชาติ ทำให้ติดปัญหาเรื่องเอกสารเดินทางคนต่างด้าว (Travel Document for Aliens -TD) เพื่อเดินทางออกนอกประเทศ โดยมีนายเกรียงศักดิ์ มิตรประกอบโชค ผู้อำนวยการส่วนประสานราชการ(สปส.) และนายชินณ์ธนัตถ์ ทันอินทรอาจ หัวหน้ากลุ่มงานคนเข้าเมือง  เป็นตัวแทนรับเรื่อง 

นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยพร้อมดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพราะเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ โดยกระทรวงมหาดไทย ได้รับการประสานจากทางจังหวัดเชียงใหม่ และทำเรื่องรอตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อรอเอกสารตั้งเรื่องโดยได้รับแฟกซ์เอกสารมาเมื่อวานนี้ และวันนี้ได้รับเอกสารตัวจริงแล้ว จะรีบดำเนินการเดินเรื่องเอกสารให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยพิจารณา คาดว่าภายในเย็นวันนี้จะได้รับคำตอบ 

ด้านนายนครินทร์ กล่าวว่า หลังได้ยื่นหนังสือและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รู้สึกดีใจและมีความหวังว่าน้องทั้งสองคน จะได้รับโอกาสที่ที่สุดในชีวิตที่จะได้ไปเปิดโลกกว้างส่วนที่ต้องเดินทางมาเองเพราะหากรอขั้นตอนทางเอกสารราชการจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน ซึ่งอาจจะไม่ทันที่ทางผู้จัดกำหนดให้ยื่นเอกสารการเดินทางวันสุดท้ายคือวันที่ 19 ก.ย.นี้ จึงได้รับคำแนะนำให้มายื่นที่กรมการปกครองเอง ตนในฐานะที่ดูแลเด็กๆ มาตั้งแต่ต้น อยากให้เด็กได้รับโอกาสจึงรีบเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา และประสานน้องหม่อง เดินทางมายื่นหนังสือด้วยกัน 

ส่วนตัวรู้สึกมีความหวังว่าน้องทั้งสองคนจะได้รับโอกาส เพราะเห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมยื่นมือมาช่วยเหลืออย่างเต็ม สามารถเดินเรื่องได้อย่างรวดเร็ว นำน้องไปถ่ายรูป ทำเอกสารวันศุกร์(13 ก.ย.) และหนังสือได้รับเซ็นรับรองจากผู้ว่าฯเชียงใหม่เมื่อวานนี้(16 ก.ย.) วันนี้จึงรีบมายื่นด้วยตัวเอง แต่ก็เผื่อใจไว้เหมือนกันว่าอาจจะได้รับคำตอบที่ไม่ตรงกับใจ จึงได้ประสานกับทีมผู้จัดว่าขอขยายเวลาการยื่นเอกสารของน้องทั้งสองออกไปเป็นสิ้นเดือนนี้ เพราะมั่นใจว่าเอกสารทุกอย่างจะเสร็จสมบูรณ์ได้ก่อนสิ้นเดือนแน่นอน

ขณะที่นายหม่อง กล่าวว่า เห็นเอกสารและท่าทีการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่มหาดไทยรู้สึกดีไจแทนน้องๆ น่าจะมีคำตอบที่ดี ที่น้องๆจะได้มีโอกาสไปเปิดโลกและทำชื่อเสียงให้ประเทศไทย ส่วนตัวเห็นถึงปัญหามาตั้งแต่สมัยเรื่องของตัวเองที่ไช้เวลานานกว่า 9 ปีกว่าจะได้สัญชาติไทย มองว่าปัญหาแบบนี้ที่ยังคงเกิดต่อเนื่องหลายกรณี อาจเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอาจจะยังไม่มีความเข้าใจที่ตรงกันจึงทำให้ยังเกิดปัญหาต่อเนื่อง จึงอยากฝากผู้ใหญ่มอบหมายหรือสั่งการให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันในการช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ ที่พร้อมจะทำชื่อเสียงให้ประเทศชาติ.-สำนักข่าวไทย