รัฐสภา 16 ก.ย.-วุฒิสภารับทราบรายงานความคืบหน้าการปฏิรูปประเทศ ตามรัฐธรรมนูญ หลัง ส.ส. , ส.ว.ติงยังไม่คืบหลายด้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวุฒิสภา วันนี้ (16 ก.ย.) มีวาระสำคัญในการพิจารณารายงานความคืบหน้าการปฏิรูปประเทศ ตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญ ในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนรัฐบาล ได้ชี้แจงความคืบหน้า ยอมรับว่า การปฏิรูปประเทศในแต่ละด้านยังมีความล่าช้า ส่วนการรายงานควมคืบหน้าครั้งก่อน ที่ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. เห็นว่ายังไร้ตัวชี้วัด รายงานไม่มีความสมบูรณ์นั้น สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มีการปรับปรุงให้มีความชัดเจนขึ้นแล้ว พร้อมปรับปรุงกิจกรรมการดำเนินการปฏิรูปประเทศให้สอดคล้องกับการปฏิรูปมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ส.ส. และ ส.ว. มองว่าบางกิจกรรมการดำเนินการนั้นไม่ใช่การปฏิรูป เพราะถือว่าเป็นงานประจำที่ข้าราชการต้องดำเนินการ คณะกรรมการปฏิรูปก็ได้มีการปรับแก้แล้วเช่นกัน
ขณะที่สมาชิกวุฒิสภาส่วนหนึ่งยังคงมองว่าการปฏิรูปประเทศช่วงเดือนเมษายน ถึงเดือนมิถุนายน ยังไม่มีความคืบหน้า อาทิ นายวันชัย สอนสิริ ส.ว.ที่มองว่าการปฏิรูปการเมือง ยังไม่มีความคืบหน้า แม้จะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าปฏิรูปให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริต ยุติธรรม มีธรรมาธิปไตยได้ ก็จะทำให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลง พร้อมฝากให้รัฐบาลติดตามการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นให้เป็นไปอย่างสุจริต เพราะหากรัฐบาลทำได้ จะทำให้การปฏิรูปการเมืองเป็นรูปธรรมได้
ด้าน นายตวง อันทะไชย ส.ว.มองการปฏิรูปการศึกษาว่า เป็นรายงานความคืบหน้า ที่ยังไม่มีความคืบหน้า รัฐบาลชุดก่อน มีการออกกฎหมายปฏิรูปการศึกษา 4 ฉบับ ก็ไม่ปรากฏความคืบหน้าว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ได้บ้างหรือไม่
ทั้งนี้ นายตวง ได้แนะนำการแก้ไขปัญหาอาหารกลางวันเด็กนักเรียน ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากการออกประกาศสำนักงานากรัฐมนตรี เมื่อปี 2544 ที่เป็นนโยบายจากรัฐบาล ให้ครูปฏิบัติตาม ดังนั้นจึงจะต้องมีการออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีมาแก้ไข ไม่ใช่ให้ครูมารับผิดเพียงอย่างเดียว และการปฏิรูปการศึกษานั้น จะต้องกลับไปฟังหัวใจของครูด้วยเพื่อพลิกฟื้นความเชื่อมั่นต่อวิชาชีพความเป็นครู เพราะครู ถือเป็นประตูสำคัญของการศึกษา
ทั้งนี้ เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีเคยรายงานความคืบหน้าการปฏิรูปประเทศช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม ต่อวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร มาแล้ว ซึ่งทั้ง 2 สภาฯ มีความเห็นตรงกันว่าการปฏิรูปประเทศนั้น ยังไม่มีความชัดเจน และไม่มีความคืบหน้า โดยเฉพาะด้านการเมือง และการศึกษา โดยหลังจากนี้สมาชิกวุฒิสภาจะรวบรวมความเห็นของสมาชิกส่งไปยังคณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแก้ไขการดำเนินการต่อไป
ส่วนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรนั้น คาดว่าจะมีการบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมในสมัยสามัญประจำปี 2562 ครั้งที่ 2 ที่จะมีการเปิดสมัยประชุมในเดือนพฤศจิกายนนี้.-สำนักข่าวไทย