อนาคตใหม่ ชี้รัฐบาลสอบตก 4 เรื่องสถานการณ์น้ำท่วม

พรรคอนาคตใหม่ 16 ก.ย.-โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ชี้รัฐบาลสอบตก 4 เรื่อง แจ้งข้อมูลสถานการณ์น้ำกระจัดกระจาย ทำประชาชนสับสน  


น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท้วมหลังลงพื้นที่ ว่า เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ตน พร้อมด้วยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อเยี่ยมและรับฟังปัญหาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ซึ่งถือว่าที่รุนแรงที่สุดในรอบ 41 ปีของ จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำสูงกว่า 5-6 เมตร

น.ส.พรรณิการณ์ กล่าวว่า โดยข้อสุรปหลังรับฟังปัญหาของชาวอุบลราชธานี คือ รัฐบาลมีเรื่องสอบตก 4 เรื่องและมีเรื่องต้องสอบซ่อม 4 เรื่อง เรื่องที่สอบตก มีดังนี้ 1.ขาดการเตือนภัยพิบัติที่ชัดเจนแน่นอน เมื่อครั้งที่น้ำท่วม จ.มหาสารคาม และ จ.ร้อยเอ็ด คนที่อุบลราชธานีก็เตรียมพร้อมแล้วว่าน้ำจะท่วมในอีก 2 สัปดาห์ คนในพื้นที่บอกกับตนว่าเก็บข้าวของไม่ทัน ได้มาเพียงเอกสารสำคัญติดตัวเท่านั้น เป็นที่น่าสงสัยว่าเหตุใดจึงเก็บของไม่ทัน ซึ่งชาวบ้านบอกว่าการเตือนภัยของหน่วยงานรัฐ แตกกระจายไม่รวมศูนย์ โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกอีกทาง โฆษกรัฐบาลบอกไปอีกทาง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ก็ให้ข้อมูลอีกทางหนึ่ง ซึ่งสุดท้ายแล้วเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แต่ประชาชนเลือกที่จะเชื่อข้อมูลจากรัฐบาล เพราะเป็นหน่วยงานที่เหนือกว่า ทำให้เกิดความเข้าใจผิดแก่ประชาชน


น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า 2.การขาดการช่วยเหลือที่กระจายอำนาจ ทำให้การช่วยเหลือล่าช้า คนที่เข้ามาช่วยเหลือส่วนมากมาจากภาคเอกชน เช่น นักธุรกิจในพื้นที่อุบลราชธานี และประชาชนทั่วประเทศ แต่ความจริงความช่วยเหลือต้องมาจากรัฐบาลเป็นหลัก หมายความว่ารัฐบาลรวมศูนย์ในสิ่งที่ไม่ควรจะรวมศูนย์ และกระจายในสิ่งที่ไม่ควรกระจาย เช่น การกระจายการเตือนภัยที่สร้างความวุ่นวาย สับสน แต่การส่งความช่วยเหลือกลับทำแบบรวมศูนย์ ตนคิดว่าในภาวะภัยภิบัติไม่ควรใช้ระบบราชการที่ยืดเยื้อเช่นนี้

โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวอีกว่า 3.การขาดการบริหารจัดการน้ำในระยะยาวอย่างไม่มีประสิทธิภาพ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำมีหลายกรม หลายกระทรวง ขนาดมีการตั้งหน่วยงาน เช่น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะคอยสั่งการ ที่มีความตั้งใจที่จะนำปัญหาการบริหารจัดการน้ำมารวมอยู่ที่เดียว น้ำท่วมที่อุบลราชธานีครั้งนี้เป็นข้อพิสูจน์ว่า สทนช. ทำงานล้มเหลว ทั้งการบริหารจัดการน้ำท่วมและน้ำแล้ง และ 4.การบริหารจัดการขวัญกำลังใจของประชาชน แน่นอนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถอยู่กับประชาชนได้ทุกที่ แต่ในห้วงเวลาที่เกิดภัยพิบัติ นายกรัฐมนตรีไม่ได้สร้างความรู้สึกว่านายกรัฐมนตรีสนใจหรือใส่ใจประชาชนมากพอ สิ่งที่ต้องทำ คือ จะเยียวยาและช่วยเหลือประชาชนอย่างไร แต่รัฐบาลไม่มีทีท่าที่จะทำเรื่องนี้

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่รัฐบาลต้องสอบซ่อม คือ 1.เยียวยาฟื้นฟูหลังน้ำลด เช่น จ.ร้อยเอ็ด และ จ.มหาสารคาม รัฐบาลได้ให้ความชัดเจนกับประชาชนหรือยังว่าจะแก้ไขและเยียวยาอย่างไร 2.การส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่น้ำขังในระยะยาว จ.อุบลราชธานีจะท่วมต่ออีกประมาณ 1 เดือนแน่นอน ในภาวะน้ำท่วมระยะยาวเช่นนี้จะเกิดโรคระบาดและขาดแคลนน้ำดื่ม อาหาร และยารักษาโรค รัฐบาลต้องแสดงออกที่จะช่วยเหลือให้ชัดเจน 3.การวางแผนบริหารจัดการน้ำและการวางแผนผังเมืองใหม่ เพื่อป้องกันน้ำท่วม เพราะน้ำท่วม จ.อุบลราชธานี ชาวบ้านบอกตรงกันว่าพื้นที่ที่เคยท่วมเล็กน้อย กลับท่วม 2-3 เมตร สาเหตุมาจากมีการถมที่ และสร้างเมืองขวางทางน้ำ ซึ่งเกิดขึ้นแบบนี้ในหลายพื้นที่ และ 4.พื้นที่ที่น้ำท่วมไปแล้วยังมีสิทธิท่วมอีกรอบ และพื้นที่ที่ยังไม่ท่วมอาจจะเกิดน้ำท่วมได้ รัฐบาลต้องเตรียมรับมืออีกครั้ง ทั้งการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนแก่ประชาชน และการตั้งศูนย์อพยพที่จะไม่ต้องย้ายซ้ำซ้อน ตนเชื่อว่าประชาชนคนไทยทั้งประเทศกำลังรอตรวจข้อสอบและวิธีการแก้ไขปัญหาจากรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตร.ไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์

บช.สอท. 29 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์ ด้วยข้อความภาษาอังกฤษ พร้อมติด #TruthFromThailand ร่วมกันสื่อสารให้โลกได้รับรู้ว่าเราไม่ได้เริ่ม แต่เราจะไม่ยอมแพ้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่สถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมีรายงานข่าวจากหลายสำนักและบทวิเคราะห์ของนักวิชาการนานาชาติ ที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างความขัดแย้งดังกล่าวกับปฏิบัติการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ และการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ขอชี้แจงว่า ภารกิจสำคัญของเราคือ การปกป้องประชาชนไทยจากภัยคุกคามทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอาชญากรรมที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายข้ามชาติ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ เครือข่ายฟอกเงิน โดยจับกุมผู้ต้องหาที่เข้ามาทางด่านสระแก้วจัมผู้ต้องตามหมายจับ 13 ราย เป็นคดีที่หลอกลวงพี่น้องประชาชน อีก 7 ราย มีร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาหลอกลวงพี่น้องประชาชน และจะมีกลับเข้ามีอีก 200 กว่านายจะเดินทางกับเข้ามา แต่เมื่อ สถานการณ์ไม่น่ากลัวและทราบว่าจะมีการหยุดยิงจึงไม่เดินทางกับ แต่ยังมีการหลอกลวงทั้งในและต่างประเทศ โดยตลอดปีที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีต่อเครือข่ายเหล่านี้อย่างจริงจัง ภายใต้กรอบของกฎหมายภายในประเทศ และการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในต่างประเทศ เพื่อสกัดกั้นเส้นทางการเงิน การดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย และการใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มทุนสีเทา พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนในหลายคดีที่ผ่านมา พบความเชื่อมโยงกับ กลุ่มผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกัมพูชา […]

ทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด

29 ก.ค.- โฆษกทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด ยังนัดหมายพบปะกันไม่ได้ แต่พยายามอยู่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายไทย พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และฝ่ายกัมพูชา พล.อ.โปว เฮง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 และ พล.อ.แอก ซอมโอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ทั้ง 2 ฝ่ายยังนัดหมายพบปะไม่ได้ เลื่อนไป ยังไม่มีระบุเวลา (เดิมเวลา 10.00 น.) แต่ยังพยายามอยู่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร​” ไม่แปลกใจ กัมพูชาไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ทำเนียบ 29 ก.ค.- “แพทองธาร​” ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษของ “กัมพูชา” หลังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ชี้ต้องฟ้อง ปท. ที่เข้ามาเป็นพยานด้วย บอก​ จะถาม “ภูมิธรรม” ให้ ต้องออกแถลงการณ์โต้หรือไม่​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม​ กล่าวถึงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลง​หยุดยิง ว่า​ เมื่อสักครู่​ ได้อัปเดตกับทางทีมงาน​ มีการพูดคุยกันว่า​ ถ้าเป็นแบบนี้​ ก็ต้องมีการแจ้งให้ประเทศที่เข้ามาเป็นพยานได้ทราบด้วย​ ว่า​ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น​ แต่ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว​ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะต้องมีการออกแถลงการณ์อีกครั้งหรือไม่​ หลังจากกัมพูชาไม่หยุดยิง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เดี๋ยวอันนั้นจะสอบถามนายภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​.-315 -สำนักข่าวไทย

กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล

29 ก.ค.- กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชน หลังกัมพูชาจงใจละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทำลายความเชื่อมั่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดทางสู่สันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุกองทัพไทย ได้รับการยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด หยุดยิงทุกพื้นที่ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้ไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลังจากกำหนดหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่ จงใจละเมิดข้อตกลง และบ่อนทำลายความเชื่อมั่น ที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพไทย ขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา และขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยมิได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน “เมื่อเราหยุด แต่เขาไม่หยุด…โลกต้องได้รับรู้ว่า กัมพูชาคือผู้ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นฝ่ายที่ไม่เคารพกติกาสากล ไม่ยึดถือข้อตกลงระหว่างประเทศใด ๆ ที่ได้ประกาศไว้ในเวทีระดับโลก และเป็นภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก” การยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ เท่ากับเปิดช่องให้ความอยุติธรรมกลายเป็นบรรทัดฐานในระบบระหว่างประเทศ […]