น้ำท่วม จ.อุบลราชธานี เริ่มดีขึ้น ระดับน้ำแม่น้ำมูลลด 1 ซม.

อุบลราชธานี 14 ก.ย.- สถานการณ์น้ำแม่น้ำมูล วันนี้มีข่าวดี หลังระดับน้ำลดลง 1 เซนติเมตร แต่ต้องใช้เวลาอีกพอสมควรจึงจะระบายน้ำให้เท่ากับตลิ่งที่ยังสูงกว่าเกือบ 4 เมตร ล่าสุด นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยชาวอุบลราชธานี


“แม้จะเริ่มมีสัญญาณบวก แต่น้ำท่วมที่เผชิญยังอยู่ในระดับวิกฤติ ต้องใช้เวลาคลี่คลาย ตอนนี้อยู่ในพื้นที่เทศบาลเมืองวารินชำราบ จะเห็นได้ว่า มวลน้ำยังท่วมถนนสายหลักเชื่อมตัวอำเภอวารินชำราบกับตัวเมืองอุบลราชธานีเกือบ 2 กิโลเมตร ประชาชนบางส่วนจึงยังต้องใช้บริการรถใหญ่ข้ามฟากที่ภาครัฐจัดให้”

พื้นที่เทศบาลเมืองวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ถูกมวลน้ำจากแม่น้ำมูลที่ล้นตลิ่งตั้งแต่วันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ทะลักเข้าท่วมถึง 14 ชุมชน จากทั้งหมด 28 ชุมชน ถนนสายหลักอุบลฯ-วารินฯ ถนนทางหลวงชนบท และตามตรอกซอกซอย เชื่อมชุมชนห้างร้านต่างๆ เป็นจำนวนมาก ขณะที่ภาพรวมของทั้งอำเภอถูกท่วมทั้งหมด 32 หมู่บ้าน ต้องอพยพกว่า 9,000 คน ล่าสุดมีสัญญาณบวกจากระดับแม่น้ำมูล ที่ทรงตัวอยู่ที่ 10 เมตร 97 เซนติเมตร มาตั้งแต่ 06.00 น.เมื่อวานจนถึง 04.00 น.ที่ผ่านมา หรือ 22 ชั่วโมง ขณะนี้ลดลง 1 เซนติเมตร แต่ด้วยมวลน้ำที่ยังล้นตลิ่งอยู่เกือบ 4 เมตร เจ้าหน้าที่จึงคาดการณ์ว่าต้องใช้เวลาถึงช่วงปลายเดือนนี้ จึงจะสามารถระบายน้ำให้เหลือเท่าระดับตลิ่ง 7 เมตร


ขณะที่สมเด็จพระมหาธีราจารย์ ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ มหาเถรสมาคม และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม ถวายกัปปิยภัณฑ์ หรือสมณบริโภคแด่พระสงฆ์ สามเณร และมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบอุทกภัย ชาวบ้านท่ากกแห่และบ้านภูเดื่อ ตำบลแจระแม อำเภอเมือง อุบลราชธานี จากนั้นล่องเรือตรวจดูสภาพน้ำท่วม และเข้าเยี่ยมพระสงฆ์ภายในวัดท่ากกแห่ ตำบลแจระแม อำเภอเมือง อุบลราชธานี ขณะนี้น้ำยังท่วมสูงจนพระสงฆ์และชาวบ้าน ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก แม้จะสามารถอยู่บนพื้นที่สูงได้ แต่ก็มีหลายครอบครัวต้องออกมาอาศัยอยู่ด้านนอก เหลือเพียงคนที่จำเป็นต้องอยู่เพื่อดูแลทรัพย์สินภายในบ้าน นอกจากนี้ ทางคณะยังไปตรวจเยี่ยมเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบภัยชาวตำบลคำน้ำแซบ อำเภอวารินชำราบ รวมทั้งเยี่ยมครัวพระราชทาน เทศบาลเมืองวารินชำราบด้วย

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่ามีวัดในจังหวัดอุบลราชธานีได้รับผลกระทบถึง 97 วัด พระสงฆ์ สามเณรกว่า 700 รูป ในภาพรวมรัฐบาลจะเร่งบริหารจัดการน้ำท่วมให้คลี่คลายเร็วที่สุด จากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการสำรวจความเสียหาย เพื่อเร่งเยียวยาต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]