อธิบดีกรมชลฯ ลงพื้นที่แก้วิกฤติน้ำท่วมอุบลฯ

กรุงเทพฯ 13 ก.ย. – รมว.เกษตรฯ สั่งอธิบดีกรมชลประทานบัญชาการศูนย์บรรเทาและแก้ไขอุทกภัย จ.อุบลราชธานี คาดระดับน้ำสูงสุดบ่ายวันนี้ 4 เมตร ชี้ท่วมหนักสุดในรอบ 21 ปี ล่าสุดเมื่อคืนฝนตกหนักอำเภอเมืองอุบลราชธานี จึงระดมเครื่องผลักน้ำมาติดตั้งเพิ่ม เร่งระบายน้ำให้หมดภายในสิ้นเดือนนี้ 


ล่าสุดกรมชลประทานรายงานว่าสำหรับพื้นที่ประสบภัยในลุ่มน้ำชี-มูลขณะนี้มี 80 อำเภอใน 8 จังหวัดได้แก่ กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ มหาสารคาม อำนาจเจริญ มุกดาหาร ยโสธร และอุบลราชธานี พื้นที่รวม 1,479,519 ไร่ โดยในลุ่มน้ำชีนั้น ภาวะน้ำหลากทุ่งดีขึ้นตามลำดับ บางพื้นที่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ยกเว้นพื้นที่ลุ่มต่ำมาก คาดว่าตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนเป็นต้นไป ประชาชนที่ต้องอพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงจะเริ่มกลับมาพักอาศัยในบ้านเรือนของตนเองได้ตามปกติ ส่วนลุ่มน้ำมูลที่อุบลราชธานีนั้น จะเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังอยู่ให้หมดภายในสิ้นเดือนนี้

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ห่วงใยสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งครั้งนี้ระดับน้ำสูงกว่าปี 2545 นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทานรายงานผลการคาดการณ์ว่าระดับน้ำจะสูงสุดช่วงบ่ายวันนี้ (13 ก.ย.)  ทำให้น้ำที่ท่วมฝั่งอำเภอวารินทรชำราบขยายวงกว้างขึ้น ส่วนฝั่งเทศบาลนครอุบลราชธานีแม้ตลิ่งสูง แต่ต้องเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้น้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ จึงสั่งการให้อธิบดีกรมชลประทานไปบัญชาการที่ศูนย์บรรเทาและแก้ปัญหาอุทกภัยส่วนหน้าที่จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมกับระดมเครื่องจักร-เครื่องมือ และกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการผลักดันน้ำออกแม่น้ำโขงให้เร็วที่สุด โดยย้ำว่าให้เร่งระบายน้ำจนสถานการณ์คลี่คลายก่อนสิ้นเดือนนี้ เพื่อลดความเดือดร้อนประชาชน


“ขอให้ประชาชนอุ่นใจว่ากรมชลประทานทำงานเต็มที่ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชน แต่ที่เป็นห่วง คือ มีฝนตกในพื้นที่ที่น้ำท่วมจากหย่อมความกดอากาศต่ำ เพราะยังไม่สิ้นสุดฤดูฝน แม้จะมีฝนตกลงมาได้ย้ำอธิบดีกรมชลประทานระบายน้ำออกให้หมดก่อนสิ้นเดือนนี้” นายเฉลิมชัย กล่าว

ด้านนายทองเปลว กล่าวว่า ตั้งแต่เวลา 18.00 -24.00 น.วานนี้ (12 ก.ย.) ระดับน้ำไหลผ่านอำเภอเมืองอุบลราชธานีทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง เมื่อเวลา 01.00 น.จนถึง 04.00 น.วันนี้ มีฝนตกในอำเภอเมืองอุบลราชธานีวัดได้ 75 มิลลิเมตรเป็นปริมาณมาก เป็นผลให้ระดับน้ำกลับสูงขึ้นอีก โดยตั้งแต่เวลา 02.00 น.จนถึงเช้านี้ระดับน้ำสูงขึ้นชั่วโมงละ 1 เซนติเมตร อัตราการไหลเมื่อเวลา 06.00 น.วัดได้ 5,265 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 3.97 เมตร แต่ยังคงคาดว่าเมื่อปริมาตรน้ำสูงสุดไหลมาถึงสถานี M 7 บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตยเวลา 11.00 – 13.00 น. อัตราการไหลจะอยู่ที่ 5,300 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 4 เมตร ทั้งนี้ สำนักชลประทานที่ 7 และโครงการชลประทานอุบลราชธานีเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ ขณะนี้มีน้ำลอดท่อระบายน้ำขึ้นมาในฝั่งเทศบาลนครอุบลราชธานีบางจุดแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับสถานการณ์ มอบหมายให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ โดยกรมชลประทานเตรียมเครื่องสูบน้ำไว้พร้อม หากทาง ปภ. ต้องการให้นำไปติดตั้งบริเวณใดจะดำเนินการทันที


ขณะนี้ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำตลอดลำน้ำชีและมูล รวมถึงลำน้ำสาขา อีกทั้งติดตั้งเพิ่มเติมบริเวณแก่งสะพือ อำเภอพิบูลมังสาหารเพิ่มอีก 30 เครื่องเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา รวมเป็น 60 เครื่อง เพื่อเร่งให้น้ำไหลไปยังอำเภอโขงเจียม ซึ่งแม่น้ำมูลจะไหลออกแม่น้ำโขง โดยอำเภอโขงเจียมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 60 เครื่องตั้งแต่เมื่อวานนี้ ล่าสุดระดมเครื่องผลักดันน้ำมาเพิ่มอีกอยู่ระหว่างสำรวจบริเวณที่เหมาะสมเพื่อติดตั้งในอำเภอพิมูลมังสาหารและโขงเจียม ทำให้การผลักดันน้ำออกแม่น้ำโขงทำได้รวดเร็วขึ้น 

นายทองเปลว กล่าวว่า เมื่อปริมาตรน้ำสูงสุดไหลมาถึงอำเภอเมืองอุบลราชธานีวันนี้ ระดับน้ำทรงตัวประมาณ 1 สัปดาห์ เนื่องจากน้ำจากแม่น้ำชีและแม่น้ำมูลตอนบนมีมาก รวมทั้งยังมีน้ำค้างทุ่งไหลลงสู่ลำน้ำตลอดเวลา หลังจากนั้นระดับน้ำจะลดลงตามลำดับ จนน้ำหลากจะไหลลงสู่ลำน้ำในอีก 1 สัปดาห์ เมื่อน้ำอยู่ในลำน้ำแล้วจะทำให้การบริหารจัดการทำได้ง่ายขึ้น ส่วนน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำจะใช้เครื่องสูบน้ำเร่งสูบออก โดยจะดำเนินการตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีเกษตรฯ คลี่คลายอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูลให้ได้ภายในสิ้นเดือนนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย