แนะ สมช. ชง ครม.ขอสำรวจบุคคลไร้สัญชาติ

สำนักทะเบียนกลาง 12 ก.ย.-ผอ.สำนักทะเบียน กระทรวงมหาดไทย ชี้กรณีเด็กเก่งไร้สัญชาติ ได้รางวัลตามโครงการพลังเล็กเปลี่ยนโลก จัดโดย ปตท.ร่วมกับ อสมท ไม่สามารถไปทัศนศึกษาที่ญี่ปุ่นได้ แนะ สมช.ควรชง ครม.ขอสำรวจบุคคลไร้สัญชาติ


นายวีนัส สีสุข ผู้อำนวยการสำนักบริหารการทะเบียน กระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีเด็กไร้สัญชาติที่มีความสามารถ แต่ไม่สามารถเดินทางเพื่อไปแข่งขันงานวิชาการ หรือทัศนศึกษายังต่างประเทศได้ ว่า ขณะนี้มีเด็กไร้รัฐ ไร้สัญญาชาติหลักแสนคน ซึ่งปัญหาคือควรแยกกลุ่มว่าเป็นเด็กที่เกิดในประเทศไทย เกิดนอกประเทศ และกลุ่มที่มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องแก้สถานะเด็กไร้สัญชาติ หากเป็นกลุ่มที่มีมติ ครม.และดำเนินการตามกระบวนการสำรวจในการทำทะเบียน จะสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ เช่น กรณีของนายหม่อง ทองดี เพราะได้รับการสำรวจกรณีเด็กนักเรียนตามยุทธศาสตร์ตามมติ ครม.ปี 2548 โดยมีกฎหมายคนเข้าเมืองคุ้มครองที่อนุญาตให้อาศัยอยู่ในประเทศไทยได้ ใช้เขตจังหวัดเป็นตัวกำหนดพื้นที่อยู่อาศัย เมื่อมีเหตุจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ ก็จะอนุญาตผ่านปลัดกระทรวงมหาดไทย เช่นเดียวกับกรณีของ น.ส.น้ำผึ้ง ปัญญา จ.เชียงราย และ น.ส.ยลฤดี ปิยะทัต จ.ระนอง เป็นกลุ่มเด็กที่เข้าสู่กระบวนการสำรวจตามมติ ครม. จึงทำเรื่องขอเดินทางไปต่างประเทศได้

นายวีนัส กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีเด็กที่ไม่มีมติ ครม.รองรับ ต้องไปตรวจสอบว่าเข้าเมืองมาถูกต้องหรือไม่ หรือเกิดในประเทศไทยหรือไม่ หากเข้าเมืองมาโดยไม่ถูกต้องตามบิดา มารดาเข้ามา แม้จะเข้ามาอาศัยอยู่นาน สถานะก็ยังเป็นผู้หลบหนีเข้าเมือง หน่วยงานที่ดูแลเรื่องคนเข้าเมืองก็ไม่สามารถอนุญาตให้เข้าออกเมืองได้


นายวีนัส กล่าวด้วยว่า หากจะแก้ไขปัญหานี้ ต้องมาดูข้อเท็จจริงว่าเด็กและเยาวชนในประเทศไทยที่หลุดรอดจากการสำรวจตาม มติ ครม.มีกลุ่มใดบ้างเหล่านี้ต้องจำแนก เช่น เป็นกลุ่มเดียวกันกับคนที่เคยเข้าสู่กระบวนการสำรวจแล้วแต่ตกสำรวจ หรือเพิ่งเข้ามาในประเทศไทย จากนั้นนำมาพิจารณาจัดกลุ่มให้ชัดเจนและใช้รูปแบบคณะทำงาน หรือคณะกรรมการเพื่อดูว่าจะจัดการอย่างไร และให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปแก้ไขปัญหาเชิงนโยบาย ผลักดันให้เกิดมติ ครม. ซึ่งอาจกำหนดเนื้อหาที่เสนอเข้า ครม.ว่าจะให้อยู่ในประเทศไทยได้ จะให้สิทธิ์อย่างไร จะให้เดินทางไปต่างประเทศได้หรือไม่ อย่าเพิ่งไปมองกลุ่มเด็กที่เพิ่งเข้าประเทศไทย หรือกลุ่มที่เข้ามาเรียนแบบเช้าไปเย็นกลับ อาจไม่ให้สิทธอาศัยแต่ไม่ปิดกั้นเรื่องการศึกษา ดังนั้นเรื่องที่เป็นปัญหา คือ การติดเงื่อนไขว่าเด็กเหล่านี้ไม่เข้าข่ายที่รัฐดูแล

นายวีนัส กล่าวว่า กรณีเด็กไร้สัญชาติ คือ ด.ญ.ญาหยี แซ่ฉี่ นักเรียนโรงเรียนบ้านอรุโณทัย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ น.ส.คำพร ติยะ นักเรียนโรงเรียนบ้านบ่อแก้ว อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับรางวัลความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ดีเด่น จากโครงการพลังเล็กเปลี่ยนโลก จัดโดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และได้รับรางวัลทัศนศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น แต่เด็กไม่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร์  ส่วนกรณีของ น.ส.คำพร เกิดในประเทศไทย มีบัตรประจำตัวเลขศูนย์ศูนย์ เป็นกลุ่มแรงงานมาในสถานะผู้ติดตามบิดา มารดา ขึ้นทะเบียน จึงได้เลข 13 หลัก เพราะเกิดในประเทศไทย และผู้ปกครองรายงานตัวต่อเนื่อง  แต่ ด.ญ.ยาหยี เป็นเด็กไร้สัญชาติไม่มีบัตรอะไรเลย ไม่มีหลักฐานราษฎร แต่เมื่อเข้ารับเรียนนโยบายด้านการศึกษาจะปฏิเสธการเข้าเรียนของเด็กไม่ได้ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการจึงกำหนดเลข 13 หลัก คือ GI สำหรับให้เด็กเข้ารับการศึกษาได้ เป็นการกำหนดเลขประจำตัว 13 หลักเป็นตัวอักษร เพื่อให้จัดกลุ่มสำหรับของบประมาณด้านการศึกษาได้ แต่ไม่ใช่เลข 13 หลักตามทะเบียนราษฎร ทางแก้ คือ ถ้าข้อเท็จจริงเกิดในต่างประเทศ เข้ามาผิดกฎหมาย ให้สามารถได้เลข 13 หลัก ไปทำทะเบียนประวัติ เป็นอำนาจนายทะเบียนอำเภอ และนายทะเบียนจังหวัดแก้ปัญหาเรื่องการไร้รัฐ แต่จะไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องสถานะบุคคล 

“ดีที่สุดคือ มติ ครม.ให้สถานะเป็นคนเข้าเมืองโดยชอบ เพื่อให้ขอใบถิ่นที่อยู่ได้ เมื่อได้รับรอง ก็เท่ากับอยู่ประเทศไทยเป็นการถาวรได้ เมื่อมีใบถิ่นแล้ว ก็จะเข้าสู่กระบวนการแปลงสัญชาติ เหมือนชนกลุ่มน้อยทั่วไป หากมองไปตามบริบทแล้วเป็นเรื่องยากที่ทั้งสองคนจะเดินทางไปต่างประเทศ” ผู้อำนวยการสำนักบริหารการทะเบียน กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย