ทำเนียบฯ 12 ก.ย.-รองนายกฯ ยืนยัน “พล.อ.ประยุทธ์” และ ครม.ยังคงไปชี้แจงต่อสภาฯ ในการอภิปรายทั่วไป แต่ ส.ส.ต้องระวังการวิจารณ์ศาล ชี้ “พ.ต.ท.ไวพจน์” ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ จนกว่าศาลจะอ่านคำพิพากษาและตัดสินว่ามีความผิด
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านยังคงยืนยันจะอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติกรณีนายกรัฐมนตรีกล่าวคำถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องแล้ว ว่า การอภิปรายจะต้องมีขอบเขต ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อบังคับการประชุม ส่วนจะวิพากษ์วิจารณ์ความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญ ต้องระวังหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้อยู่ในข้อบังคับของสภาฯ แต่อยู่ในกฎหมายวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ และคนอภิปรายต้องระมัดระวัง
“ในเมื่อเรื่องนี้บรรจุเป็นวาระแล้ว ก็เดินหน้าต่อไป ซึ่งสมาชิกรัฐสภาก็เสียโควต้าตามสิทธิ์ ในการขอเปิดอภิปราย ไปหนึ่งครั้ง เพราะญัตติตามมาตรานี้ได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น” นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีสามารถที่จะส่งใครไปชี้แจงได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดไปขนาดนั้น เพราะได้เตรียมการไว้พร้อมแล้ว และอย่าสงสัยในตัวนายกรัฐมนตรี เพราะไปชี้แจงแน่นอน แม้ว่าในวันดังกล่าว นายกรัฐมนตรีมีภารกิจเป็นประธานการประชุมใหญ่ของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เกี่ยวกับการทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับต่อไป นายกรัฐมนตรี อาจจะไปร่วมในพิธีเปิดและกลับมาประชุมที่รัฐสภา
เมื่อถามว่า วันเดียวในการอภิปรายเพียงพอหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อยู่ที่คนถามมากหรือไม่ รัฐบาลเป็นเพียงคนตอบและให้ความเห็น คำถามข้อใหญ่ คือ การถวายสัตย์ปฏิญาณตน และแหล่งที่มาของรายได้
“ใน 2 ข้อใหญ่อาจมีแตกเป็นข้อย่อย และถึงเวลาอาจเบรคไม่อยู่ จึงเป็นเหตุผลที่ ครม.ต้องไปทั้งคณะ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อถามถึงพายุใต้ฝุ่น แล้วมันจะพาดไปโดนใครบ้าง และส่วนใหญ่จะโดนคนที่ไม่ไป” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภารัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ว่า เมื่อศาลฎีกา ยังไม่ได้อ่านคำพิพากษาโดยนัดจะอ่านในวันที่ 31 ตุลาคม ดังนั้น ตำรวจจะไม่สามารถมาจับกุมได้ แต่จะสามารถควบคุมตัวไปฟังคำพิพากษาได้ แต่หากศาลมีคำตัดสินในวันดังกล่าวว่า พ.ต.ท.ไวพจน์ มีความผิด ถึงจะพ้นสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. และจะไม่ได้รับการคุมกัน เพราะเป็นการอ่านคำพิพากษา.-สำนักข่าวไทย