ร.ร.กรุงเทพคริสเตียน 11 ก.ย..-องค์กร SAVE BCC ยกระดับการต่อสู้ ชะลอการชำระค่าเทอมภาคเรียนที่ 2
องค์กร SAVE BCC พร้อมด้วยตัวแทนผู้ปกครองโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน รวมตัวแถลงข่าวยกระดับข้อเรียกร้องต่อ สภาคริสตจักรในประเทศไทย นำโดย นางอรวรรณ พยุหนาวีชัย ตัวแทนผู้ปกครอง กล่าวว่า หลังจากที่ องค์กร SAVE BCC ที่เป็นการรวมตัวกันของเครือข่ายผู้ปกครอง ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน ของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ออกมาเรียกร้อง และมอบแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ให้แก่ประธานคณะกรรมการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และรักษาการผู้อำนวยการโรงเรียน เรียกร้องให้สภาคริสตจักรในประเทศไทย และคณะกรรมการโรงเรียนฯ ชี้แจง และขอทวนคำสั่งผู้มาดำรงตำแหน่งรักษาการให้เป็นที่ยอมรับของครู และนักเรียน กรณี ที่ สภาคริสตจักรฯได้กล่าวโทษ นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และ นายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ผู้จัดการ ว่ามีการบริหารงานผิดพลาดไม่ปฏิบัติตามกฏตามธรมนูญแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย และสภาคริสตจักรในประเทศไทยได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นโดยยังไม่ปรากฏฐานความผิดตามข้อกล่าวหาที่ชัดเจน และคณะกรรมการสภาคริสจักรในประเทศไทยได้ดำเนินการออกคำสั่งย้าย นานศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการ และ นายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ผู้จัดการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยไปปฏิบัติงานประจำสำนักงานพันธกิจศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ โดยคำสั่งดังกล่าวให้มีผลทันทีในวันที่ออกคำสั่งเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น
ครั้งแรกที่ยื่นข้อเรียกร้องก็ยังไม่มีความคืบหน้า จึงเป็นที่มาของการเรียกร้องครั้งที่ 2 ที่นอกจากจะยืนตามข้อเสนอเดิมแล้ว ยังยกระดับการเรียกร้องเพิ่มด้วยการ ขอให้รักษาการผู้อำนวยการ และขอให้ประธานคณะกรรมการบริหารโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ออกจากทุกตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนทันทีเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และขอให้มีการเปลี่ยนแปลงประธานกรรมการสอบสวนที่ไม่เป็นกลางโดยให้ตัวแทนของหน่วยงานภาครัฐเข้ามาร่วมสอบสวนในกรณีนี้ด้วย
แต่ทั้งสองครั้ง ก็ยังไม่มีการตอบรับและปล่อยให้เรื่องเงียบ จึงเป็นที่มาของการยกระดับการเรียกร้องครั้งที่ 3 คือการชะลอการชำระค่าเทอมในภาคเรียนที่ 2 ออกไปจนกว่าคณะกรรมการจะออกมาชี้แจงประเด็นที่ยังคงมีข้อสงสัยต่อสังคม โดยระยะเวลาชะลอการจ่าย ตามกฎของโรงเรียนสามารถชะลอจ่ายได้ถึงก่อนสอบภาคเรียนที่ 2 คือไม่จ่ายได้จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า (2563)
ส่วนมาตรการการชะลอการจ่ายเงินค่าเทอมเนื่องมาจากคณะผู้บริหารนำเงินในส่วนที่จะต้องนำไปใช้จ่ายในโรงเรียนและไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นในทางที่ไม่โปร่งใสและยังไม่มีการชี้แจงหรือบอกกล่าวกับผู้ปกครองซึ่งถือเป็นเจ้าของเงิน ที่ผ่านมารักษาการตามโรงเรียนได้แสดงพฤติกรรมที่น่าสงสัยหลายประการทั้งเรื่องของการตัดงบประมาณ รวมถึงยกเลิกกิจกรรมของเด็ก ด้วยการให้เหตุผลที่ไม่มีน้ำหนัก เช่นโครงการแข่งขันขับร้องประสานเสียงที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งนักเรียน 100,000 มาเป็นแต่ทางรักษาการผู้อำนวยการโรงเรียน สั่งยกเลิกด้วยการให้เหตุผลว่าเด็กอยู่ในช่วงวัยเสียงแตกหนุ่ม
นางอรวรรณ กล่าวอีกว่า มาตรการนี้มีผู้ปกครองหลายคนกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อเด็กนักเรียนหรือไม่ เรื่องนี้ทางด้านองค์กร ได้ปรึกษาคณะคุณครูในโรงเรียนแล้วทุกท่านยืนยันว่าจะดำเนินการเรียนการสอนอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผลการเรียนของเด็กเด็กขอให้ผู้ปกครองสบายใจได้ รวมทั้งเพื่อให้องค์กรสามารถดำเนินการทวงถามความโปร่งใสได้อย่างเต็มที่ เป้าหมายที่วางไว้จะขอความร่วมมือจากผู้ปกครองชะลอการจ่ายค่าเทอมให้ได้ร้อยละ 90 (จากเด็กทั้งหมด 7,000 คน ค่าเทอมเฉลี่ยนคนละ 50,000 บาท)ซึ่งในขณะนี้จากการสอบความเห็นมีผู้ยินดีเข้าร่วมมาตรการนี้แล้วอย่างน้อยร้อยละ 80 ทั้งนี้หากยังไม่มีการชี้แจงจากบอร์ดบริหารทางผู้ปกครองจำเป็นจะต้องดำเนินการฟ้องร้องตามกฏหมายต่อไป
ส่วนหลักฐานการนำเงินของโรงเรียนไปใช้ในทางที่ส่อไปในทางทุจริต ตอนนี้มีเอกสารหลักฐานยืนยันชัดเจนแต่ยังไม่สามารถนำออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้เนื่องจากเป็นเอกสารภายในหากนำออกมาเผยแพร่ก่อนจะเกิดปัญหาตามมาได้ แม้ว่าตอนนี้สังคมจะเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องของปัญหาภายในโรงเรียน แต่พฤติกรรมของผู้บริหารที่เป็นอยู่ในขณะนี้กำลังจะส่งผลกระทบในวงกว้างหากยังไม่ได้รับการแก้ไขเป็นลักษณะการทุจริตเชิงนโยบาย ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้ามาดูแลปรับปรุงแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดกับหน่วยงานอื่นหรือโรงเรียนอื่นๆต่อไปพร้อมกับยืนยันว่าการออกมาเรียกร้องในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการจ้องทำร้ายสคริสตจักรแห่งประเทศไทย แต่ต้องการปกป้องให้สภาฯรอดพ้นจากะบบการบริหารที่เต็มไปด้วยความไม่โปร่งใสนี้ออกไป.-สำนักข่าวไทย
