ครม.เห็นชอบตั้งกองทุนหมุนเวียน 4 กองทุน

ทำเนียบฯ 9 ส.ค.-ครม.เห็นชอบจัดตั้งกองทุนหมุนเวียน รองรับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน , กองทุน กบช. , กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ  กองทุนอาหารกลางวัน 


นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการตั้งกองทุนหมุนเวียน  4 กองทุน รองรับภารกิจด้านต่างๆ ของรัฐบาล ประกอบด้วย 1.กองทุนหมุนเวียนสนับสนุนการตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์)  เพื่อรองรับการจ่ายเงินให้กับนักลงทุนผู้ซื้อหน่วยลงทุน ซึ่งได้ประกันผลตอบแทนร้อยละ 2-3 ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณานำโครงการที่มีอยู่แล้วนำมาระดมทุน เช่น มอเตอร์เวย์หมายเลข 7,9 กรุงเทพฯ-ชลบุรีและกรุงเทพฯ-บางปะอิน เมื่อระดมทุนได้แล้วจะได้นำเงินมาพัฒนาด้านต่างๆเพิ่มเติม ขณะนี้กำลังเสนอแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติม เพื่อนำเงินจากการจัดเก็บเงินค่าผ่านทางมาจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุน

2.การตั้งกองทุนหมุนเวียนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อต้องการใช้เงินจากกองทุนมาใช้ร่วมทุนกับผู้ประกอบการ Start Up รวมทั้งกำหนดแนวทางการการคืนผลตอบแทนให้กับกองทุนเมื่อธุรกิจมีผลกำไร เพื่อนำเงินใช้ไปร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการรายอื่นที่มีศักยภาพ  และสนับสนุนการนำงานวิจัยมาพัฒนาให้เกิดผลในเชิงพาณิชย์ 3.การเปลี่ยนกองทุนหมุนเวียน โครงการอาหารกลางวัน จากเดิมอยู่ในการดูแลของกระทรวงการคลังให้เปลี่ยนไปอยู่ในการดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ โดยกำหนดให้จัดสรรอาหารกลางวันสำหรับเด็กอนุบาล นักเนียนในระดับภาคบังคับ และครอบคลุมให้กับนักเรียนที่มีปัญหาด้านโภชนาการ


 

  1. การตั้งกองทุนหมุนเวียน รองรับการตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) เพื่อให้เป็นกองทุนภาคบังคับให้บริษัทเอกชน องค์กรอิสระ องค์การมหาชน ส่วนราชการ ต้องจัดตั้งกองทุน กบช. เพื่อนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนเป็นรายเดือน โดยมีกลุ่มเป้าหมายประมาณ 11.4 ล้านคน และขณะนี้ไทยกำลังก้าวสู่สังคมวัยชรา เนื่องจากไทยกำลังก้าวสู่สังคมวัยชรา 20 ล้านคนภายใน 5 ปี ข้างหน้า ทั้งนี้เพื่อต้องการให้คนไทยได้สะสมเงินสมทบเข้ากองทุนพร้อมนายจ้างและส่วนราชการ หวังให้มีรายได้ใช้ในยามเกษียณอายุทำงาน โดยกองทุนทั้งหมดจะใช้เงินงบประมาณเข้าไปสมทบเบื้องต้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการหรือในขั้นกรรมาธิการของสภา สนช. คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ ส่วนร่าง พ.ร.บ.กองทุน กบช.คาดว่ากระทรวงการคลังจะเสนอ ครม.พิจาณาภายในเดือนสิงหาคมนี้.-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”