บุรีรัมย์ 10 ก.ย.- สัตวแพทย์ผ่าพิสูจน์ซากลูกหมีป่า หลังชุดลาดตระเวนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่-บุรีรัมย์ บนนตายอยู่ริมห้วย พบในกระเพาะอาหารมีผักหนามจำนวนมาก คาดสาเหตุสารโนจิไกลโคโซด์ในผักดิบ
กรณีชาวบ้าน ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ถูกหมีป่าตะปบบาดเจ็บขณะเข้าไปกรีดยางบริเวณป่าดงใหญ่ เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอประสานกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ช่วยกันลาดตระเวนเพื่อต้อนหมีให้กลับเข้าป่า กระทั่งพบลูกหมีป่า เพศเมีย อายุประมาณ 1 ปี นอนตายอยู่ริมห้วย ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ได้ประสานสัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) มาตรวจพิสูจน์
สพ.ญ.พรรณราย ว่องวัฒนกิจ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบบาดแผลตามร่างกาย ไม่มีรอยฟกช้ำ ส่วนการผ่าชันสูตรพบว่าน้ำในช่องท้องเป็นสีแดงขุ่น กล้ามเนื้อหัวใจหนาตัว มีเลือดคั่งในหัวใจห้องบน ตับมีผิวขรุขระเป็นเม็ดเล็กๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 มิลลิเมตร ลักษณะแข็งกระจายอยู่ทั่วเนื้อตับ นอกจากนี้ ยังพบผักหนามในกระเพาะอาหารจำนวนมาก อาจเป็นสาเหตุของการตายจากสารไซยาโนจิไกลโคโซด์ในผักดิบ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเป็นสารพิษที่ส่งผลต่อกระบวนการหายใจและทำให้เนื้อเยื่อร่างกายได้รับออกซิเจนไปเลี้ยงไม่เพียงพอ และตายในที่สุด
นายสมส่วน รักสัตย์ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ระบุว่า หมีคงกินผักหนามที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในธารน้ำ ซึ่งในผักหนามหากสัตว์กินเข้าไปจำนวนมากจะเกิดสารพิษทำให้สัตว์ตายได้ สันนิษฐานว่าลูกหมีตัวนี้คงพลัดหลงกับแม่แล้วหาโพรงเพื่อหลบซ่อนตัว ส่วนหมีที่ตะปบชาวบ้านนั้น น่าเกิดจากสัญชาตญาณของสัตว์ที่เมื่อเจอคนเข้าใกล้ก็จะโถมใส่เพื่อป้องกันตัว อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ได้จัดชุดลาดตระเวนเฝ้าระวังและป้องกันสัตว์ออกนอกเขตป่าอย่างต่อเนื่อง แต่พื้นที่ป่าดงใหญ่ค่อนข้างกว้าง เจ้าหน้าที่มีน้อย อาจมีสัตว์ป่าเล็ดลอดออกมาบ้าง จึงขอความร่วมมือชาวบ้านหากพบเห็นสัตว์ป่าทุกชนิดออกนอกเขตให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อผลักดันกลับเข้าป่าธรรมชาติ เพื่อความปลอดภัยทั้งคนและสัตว์.-สำนักข่าวไทย