สสส.ชวน ร่วมกิจกรรม“หยุดซิ่ง…มาวิ่งกันเถอะ”

สสส.10ก.ย.-กลุ่มผู้เสียหายทางถนน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธิเมาไม่ขับ สสส. จับมือเครือข่ายความปลอดภัยทางถนน ชวนคนไทยวิ่งวันรำลึกเหยื่อโลก 17 พฤศจิกายนปีนี้ หวังลดเหยื่อรายใหม่ทางถนนที่มีมากกว่า 60,000 คน ต่อปีทั้งเสียชีวิตและพิการ


กลุ่มผู้เสียหายทางถนน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธิเมาไม่ขับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายภาคประชาชน ที่ร่วมกันจัดกิจกรรม แถลงข่าวกิจกรรม “หยุดซิ่ง…มาวิ่งกันเถอะ” (Run for Road Traffic Victims)   นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค  กล่าวว่า กิจกรรม หยุดซิ่ง…มาวิ่งกันเถอะ เกิดขึ้นเพราะผู้เสียหายจากอุบัติเหตุทางถนนในบ้านเรามีความรุนแรงติดอันดับโลก โดยในแต่ละปีประเทศมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากกว่า 2 หมื่นคน และอีก  4 หมื่นคนต้องเป็นผู้พิการรายใหม่  ทุกๆปีมีผู้ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุกว่า 2 แสนคน ทั้งครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้พิการ และผู้เสียหายเหล่านี้ ต้องผจญกับการต่อสู้คดี ช่วยตัวเอง แนวโน้มความรุนแรงลดลงน้อยมาก  ทุกคนมีโอกาสเป็นเหยื่อ ปัญหาความปลอดภัยบนท้องถนนที่แก้ไขอย่างช้าๆ ทุกคนมีโอกาสเป็นเหยื่อ เป็นเรื่องที่ผู้บริโภค ประชาชนต้องมาช่วยกันทำงาน ทำให้การเยียวยาความเสียหายรวดเร็วขึ้น และหาทางเร่งรัดให้มีบริการขนส่งมวลชนที่มีคุณภาพรถและความปลอดภัยมากขึ้น เพื่อลดและหยุดเหยื่อรายใหม่ และร่วมกันผลักดันจัดตั้งกองทุนผู้เสียหายจากอุบัติเหตุทางถนนเพื่อให้ผู้เสียหายเป็นคนทำงานเรื่องโดยตรงนี้มากขึ้น


ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส.และภาคีเครือข่ายมีเป้าหมายร่วมกันในการลดอุบัติเหตุ ลดอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตบนท้องถนน สนับสนุนการมีระบบขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพ พร้อมกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของความปลอดภัยทางถนน และอีกบทบาทหนึ่งที่ สสส. ให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือการส่งเสริมให้คนไทยมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ เช่น การเดิน-วิ่ง ปัจจุบันกระแสการวิ่งยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง พิจารณาได้จากงานวิ่งเพื่อสุขภาพที่ถูกจัดขึ้นไม่ต่ำกว่า 19 งานต่อสัปดาห์ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมวิ่งเพิ่มขึ้นกว่า 5 ล้านคน ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีนักวิ่งในประเทศไทยกว่า 16 ล้านคน ในปี 2561 หวังว่างานนี้จะช่วยทำให้ทุกคนทุกฝ่ายเห็นความสำคัญของการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย จะได้ไม่ต้องมีเหยื่อหรือผู้สูญเสียรายต่อไปอีก ซึ่งมิใช่จะมีแค่ผู้พิการหรือเสียชีวิตเท่านั้น แต่ยังมีผู้ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุที่เกิด อาทิ ครอบครัวที่ต้องทนต่อความสูญเสีย


นายสุรสิทธิ์ ศิลปงาม ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับ  กล่าวว่า คนไทยต้องสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเฉลี่ยวันละ 60 คน เป็นสถิติการเสียชีวิตที่มากกว่าโรคภัยร้ายแรง ขณะที่ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2559 มีจำนวนราว 1.35 ล้านคน ที่ผ่านมาองค์การสหประชาชาติจึงประกาศให้วันอาทิตย์ที่  3  ของเดือนพฤศจิกายน เป็นวัน “รำลึกผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน” (World Day of Remembrance for Road Traffic Victims) ซึ่งมูลนิธิเมาไม่ขับได้จัดกิจกรรมเพื่อรำลึกถึงผู้สูญเสียมาโดยตลอดร่วมกับเครือข่ายต่างๆ และในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน จึงกำหนดให้กิจกรรมวิ่งมีขึ้นในวันดังกล่าว เพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้สูญเสียและหยุดผู้สูญเสียรายใหม่จากอุบัติเหตุทางถนน

นายเจษฎา แย้มสบาย ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ กล่าวว่า ย้อนไปเมื่อปี 2544 ระหว่างเดินทางกลับบ้าน ตอนนั้นจอดรถรอไฟแดงอยู่ตรงสี่แยกอยุธยา มองไปที่กระจกหลังก็เจอรถเก๋งสีดำวิ่งเข้ามาชนท้าย ทำให้ผมกระเด็นลอยขึ้นไป ตอนนั้นคิดว่าตัวเองไม่เป็นอะไรมากและคงไม่ถึงกับพิการ แต่ระหว่างรักษาตัวอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าตัวเองกลายเป็นคนพิการตั้งแต่หน้าอกลงไปตลอดชีวิตสิ่งที่เหลือไว้จากอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้น คือ ความทุกข์ของคนที่ยังอยู่ หลายครอบครัวไม่ได้จบแค่การสูญเสียญาติพี่น้องที่จากไป ขณะที่ยังมีผู้พิการจากอุบัติเหตุทางถนนอีกมากที่ขาดโอกาสจากสังคม โดยเฉพาะการเดินทางซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์ ยังมีคุณภาพไม่เพียงพอที่จะทำให้ผู้พิการสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ รวมทั้งโอกาสในการประกอบอาชีพเพื่อพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่มีคุณภาพ

นายประทีป ทองประเทือง บิดาของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถตู้โดยสาร กล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงลำบากที่สุดของชีวิตของคนที่ยังอยู่ ไม่มีวันไหนเลยที่จะไม่คิดถึงลูกสาวที่ต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถตู้เพราะคนขับที่หลับใน หลังเกิดเหตุชีวิตเราเหมือนตายทั้งเป็น สูญเสียลูกสาวก็หนักพอแล้วยังต้องมาฟ้องคดีกับรถตู้เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายต่อศาลอีก ต้องสู้กันถึงสามศาล จนวันนี้คดีอยู่ในชั้นศาลฎีกาก็ไม่รู้คดีจะจบเมื่อไหร่ พวกเราเจ็บและเหนื่อยกันมามากพอแล้ว และก็ไม่อยากให้ใครต้องมาพบเจอกับเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรให้ความสำคัญกับการชดเชยเยียวยาผู้ประสบเหตุทุกคน ควรมีกองทุนช่วยเหลือให้กับผู้เสียหายทั้งคนบาดเจ็บหรือทายาทผู้เสียชีวิต ที่ไม่ควรต้องให้มาขึ้นศาลฟ้องคดีกันอีก

สำหรับกิจกรรม หยุดซิ่ง…มาวิ่งกันเถอะ “Run for Road Traffic Victims” แบ่งการวิ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ เดิน-วิ่งระยะสั้น Fun Run 5 กิโลเมตร และวิ่งมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2562 เวลา 04.00 – 10.00 น. ณ สวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติศรีนครเขื่อนขันธ์ (สวนบางกระเจ้า) อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ  ผู้สนใจสามารถซื้อบัตรเข้าร่วมกิจกรรมได้ในราคา 500 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทางเว็บไซต์ https://rtv.regist.co และ FB: safethaibus หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 089-764-9153 / 098-002-7388.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

สาวใจเด็ด โดดจยย.รับจ้าง วิ่งตามรถตัวเองหลังตามหา 1 ปี

กทม. 18 พ.ค. – สาวใจเด็ด โดดลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งไล่รถตัวเอง หลังตามหาและผ่อนกุญแจเปล่ามานานกว่า 1 ปี พบเพื่อนสนิทนำรถไปค้ำประกันกับเจ้าหนี้ จากกรณีคลิปที่มีการแชร์ในโซเซียล ขณะผู้หญิงใส่เสื้อลายกำลังวิ่งไล่ตามรถเก๋งสีขาว พร้อมตะโกนให้คนช่วย จนพลเมืองดี ช่วยกันเข้ามารายล้อมรถและคนขับรถเก๋งต้องเลี้ยวเข้าซอย เพื่อลงมาเคลียร์ ก่อนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ล่าสุดทีมข่าวเปิดใจ สาวที่ปรากฏในคลิป เล่าถึงสาเหตุที่ต้องเข้าไปขวางรถยนต์คันนี้ เพราะว่าเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2567 ตนเองได้ซื้อรถเก๋งคันนี้ ทะเบียนขอนแก่น และนำรถไปฝากจอดไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นห้องของแฟนเพื่อนสนิท แต่หลังจากที่นำรถไปฝาก ก็ไม่เคยได้พบรถตัวเองอีกเลย โดยเพื่อนสนิท อ้างว่าแฟนเอาไปขับ ทุกครั้งที่ทวงถามหารถ จะมีการบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา จนในที่สุด ตนเองก็เข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหารถ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี ก็ยังตามหาไม่ได้ ตนเองจึงต้องผ่อนกุญแจเปล่า มาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม […]

ข่าวแนะนำ

เร่งช่วยคนพลัดตกหลุมก่อสร้างรถไฟฟ้า ลึกกว่า 10 ม.

กทม. 19 พ.ค. – เร่งช่วยคนพลัดตกหลุมลึกกว่า 10 ม. โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม เกิดเหตุคนพลัดตกลงไปในหลุมซึ่งกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า ใกล้เคียงซอยหลานหลวง 8 ขนาดความลึกประมาณ 15-19 เมตร ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างช่วยเหลือ โดยโรยตัวลงไปช่วยผู้ติดอยู่ภายในหลุม สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เบื้องต้นคาดว่าอุบัติเหตุน่าจะเกิดระหว่างขั้นตอนก่อสร้าง ซึ่งเป็นช่วงที่ดันปลอกเหล็กขึ้นลงเพื่อขุดดินก่อสร้างสถานีหลานหลวง ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดต้องตรวจสอบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

คุมตัวกรรมการบริษัท ว. และสหายฯ ส่งศาลฝากขัง

บางซื่อ 19 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวกรรมการบริษัท ว. และสหายฯ ไปฝากขังศาลอาญาแล้ว พร้อมคัดค้านประกันตัว ส่วนนิติบุคคลบริษัท ตำรวจปล่อยตัวชั่วคราว ช่วงบ่ายวันนี้ (19 พ.ค.68) พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ควบคุมตัวนายพลเดช กรรมการบริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด ขึ้นรถตู้ตำรวจไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก บรรยากาศระหว่างเจ้าหน้าที่คุมตัวนายพลเดช ออกมาจากห้องสอบสวน บริเวณชั้น 1 ของโรงพัก เจ้าหน้าที่ได้พานายพลเดช เดินขึ้นไปยังชั้น 2 ก่อนจะพาเดินอ้อมไปอีกฝั่งหนึ่งของโรงพัก แล้วพาเดินลงมาขึ้นรถตู้ของ สน.บางซื่อ โดยระหว่างการควบคุมตัวขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า กังวลหรือไม่เรื่องการยื่นขอประกันตัว และสอบถามอีกว่า ปฏิเสธข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่นายพลเดช ไม่ได้ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด มีสีหน้าค่อนข้างกังวล ก่อนจะขึ้นรถตู้ของ สน.บางซื่อ ขณะที่นายพฤหัส มหาวรรณ ทนายความ เดินตามมาทีหลัง ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่า นายพลเดช ให้การว่าอย่างไรบ้าง ปฏิเสธหรือยอมรับข้อกล่าวหา […]

นายกฯ แพทองธาร เปิดทำเนียบต้อนรับ ปธน.อินโดนีเซีย

ทำเนียบ 19 พ.ค.- นายกฯ แพทองธาร เปิดทำเนียบต้อนรับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เดินทางเยือนประเทศไทยในรอบ 20 ปี พร้อมสานต่อความสัมพันธ์ 75 ปี ยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกันในทุกมิติ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ นายปราโบโว ซูบียันโต (H.E. Mr. Prabowo Subianto) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) ในรอบ 20 ปี ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-อินโดนีเซีย นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และนายกรัฐมนตรี เชิญประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ถ่ายภาพร่วมกัน ณ บันไดโถงกลาง ตึกไทยคู่ฟ้า และประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ลงนามในสมุดเยี่ยมและชมของที่ระลึก ณ ห้องสีงาช้าง (ด้านนอก) ตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นผู้นำทั้งสอง หารือข้อราชการเต็มคณะ ภายใต้กลไก Leaders’ Consultation ครั้งแรก […]

สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8%

กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ขณะที่ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8% ชี้มองตามสถานการณ์จริงไม่ได้มองในแง่ร้ายเกินไป ลุ้นเงินดิจิทัลเฟส 3 – มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงประชุมวันนี้ พร้อมเตือนผู้ประกอบการฯ เตรียมรองรับความผันผวนทางการค้า ส่วนประชาชนใช้จ่ายให้มีความรอบคอบมากขึ้น นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 1/68 ขยายตัว 3.1% ต่อเนื่องจากร้อยละ 3.3 ในไตรมาส 4/2567 ปัจจัยหลักมาจากการผลิตภาคเอกชนชะลอลง ขณะที่ภาคเกษตรเร่งขึ้น ด้านการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน และรัฐบาล การนำเข้าสินค้าและบริการ และการสะสมทุนถาวรเบื้องต้นชะลอลง ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการขยายตัวในเกณฑ์สูง 12.3% โดยเร่งขึ้น 11.5% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม สภาพัฒน์ฯ ได้ปรับคาดการณ์ GDP ปี 68 ลงเหลือเติบโต 1.3-2.3% หรือช่วงกลางของคาดการณ์ที่ 1.8% […]