fbpx

กินยาแก้ปวดไมเกรน ถึงขั้นตัดแขนตัดขา

6 ก.ย.-แพทย์เตือนใช้ยา “เออร์กอต” หรือยาแก้ปวดไมเกรน ด้วยความระมัดระวังสูงสุด ผลข้างเคียงร้ายแรงสุดอาจต้องตัดแขนตัดขาทิ้ง


ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์สาขาประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha เป็นภาพมือและเท้าของคนไข้ที่ดำคล้ำน่ากลัว พร้อมระบุถึงอันตรายจากยา “เออร์กอต” หรือยาแก้ปวดไมเกรน


นพ.ธีระวัฒน์กล่าวว่า อันตรายจากการกินยา “เออร์กอต” ชื่อการค้ามีหลายชื่อ ที่ใช้ในการแก้ปวดหรือบรรเทาปวดหัวไมเกรน เป็นยาที่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังสูงสุดเพราะถ้ามีโรคประจำตัวหัวใจ เส้นเลือดตีบ หรือใช้ยาตัวอื่นๆ อยู่ รวมทั้งยาฆ่าเชื้อรา ยารักษาโรคเอดส์ จะทำให้ยาแก้ปวดตัวนี้ออกฤทธิ์มากขึ้นและทำให้เส้นเลือดหัวใจสมองที่ปลายมือปลายเท้าแขนขาหดตัวอย่างรุนแรง ขาดเลือด หัวใจวาย อัมพฤกษ์ จนกระทั่ง ถึงกับต้องถูกตัดแขนขาไป

นพ.ธีระวัฒน์ เตือนถึงอันตรายของยาเออร์กอตมาอย่างต่อเนื่องหลายปี เนื่องจากเป็นยาที่มีฤทธิ์รุนแรงและอันตราย แต่ที่เห็นวางขายอยู่ตามร้านขายยาต่างๆ ได้ตามปกติ เพราะหากใช้อย่างถูกวิธีจะไม่เป็นอันตรายใดๆ เพียงแต่ผู้ป่วยหลังได้รับยาเออร์กอตจากแพทย์แล้ว อาจไปซื้อเองในภายหลัง หรือเภสัชกรเองอาจไม่สามารถทราบถึงประวัติการรักษาของผู้ป่วยได้โดยละเอียด จึงขายยาตัวนี้ให้ผู้ป่วยไป 


มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า คาเฟอร์กอต จะขับออกทางตับ ยาที่ไปชะลอการขับออกของยา จะทำให้อันตรายจากคาเฟอร์กอตมากขึ้น โดยยาที่ใช้บ่อยๆ คือ 1. ยาปฎิชีวนะ เช่น คลาริโทรมัยซิน อีริโทรมัยซิน 2.ยาต้านเชื้อรา เช่น คีโตโคนาโซล 3.ยาหัวใจ เช่น คอดาโรน 4.ยาความดัน เช่น ดิลไทอะเซม  และยาต้านเชื้อ HIV หลายๆ ตัว และห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์ หรือให้นมบุตร โรคหัวใจ โรคตับ เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีโรคหลอดเลือดตีบอยู่แล้วห้ามใช้เด็ดขาด

แพทย์แนะนำว่า เมื่อมีอาการสงสัยให้หยุดยา งดสูบบุหรี่ กาแฟ และพบแพทย์โดยด่วน เพราะจะต้องรีบให้ยาขยายหลอดเลือด หากไม่ทันกาล อวัยวะขาดเลือดจนตาย ลงเอยด้วยการตัดทิ้ง

เรืออากาศโท นพ.กีรติกร ว่องไววาณิชย์ อายุรแพทย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ไมเกรนเป็นโรคปวดศีรษะชนิดหนึ่ง เป็นโรคทางระบบประสาทที่พบในทุกเพศทุกวัย แต่พบบ่อยในวัยทำงาน (อายุประมาณ 30-40 ปี) และไมเกรนสัมพันธ์กับโรคเส้นเลือดสมอง

ประมาณการว่าในประเทศไทยมีผู้ป่วยไมเกรนมาถึง 12 ล้านคน ผู้หญิงจะเป็นไมเกรนมากกว่าผู้ชายประมาณ 3 เท่า เนื่องมาจากปัจจัยทางด้านพันธุกรรมและฮอร์โมนเพศ เชื่อว่าปัจจัยของพันธุกรรมมีส่วนทำให้ระบบประสาทมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ และร่วมกับปัจจัยจากภายนอก เช่น สิ่งแวดล้อม ฮอร์โมน  การพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมถึงความเครียด ปัจจัยเหล่านี้ล้วนกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะแบบไมเกรนขึ้นได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด