เพิ่มโทษจำคุก “บุญทรง” คดีระบายข้าวจีทูจี อีก 6 ปี เป็น 48 ปี

ศาลฎีกา 6 ก.ย.- อุทธรณ์คดีระบายข้าวจีทูจี ศาลฎีกาฯ พิพากษาแก้เพิ่มโทษจำคุก “บุญทรง” อีก 6 ปี รวมจำคุก 48 ปี ขณะที่กลุ่มโรงสีเจอโทษให้จำคุก-ปรับ 6 ราย แต่รอลงอาญา 3 ปี จากเดิมให้ยกฟ้อง ด้านลูก “บุญทรง” เผยพ่อช็อก หลังฟังคำพิพากษา แต่ต้องยอมรับ


องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา 9 คน ใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง อ่านคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ คดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี จำนวน 200 หน้า ก่อนพิพากษาจำคุกนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพิ่มขึ้นอีก 6 ปี จากเดิมมีกำหนดจำคุก 42 ปี รวมเป็น 48 ปี เนื่องจากโจทก์ยื่นขอเพิ่มโทษในกรณีการสั่งให้ทำสัญญาซื้อขายข้าวเพิ่มอีก 1 กระทง เนื่องจากสัญญาซื้อขายข้าวดังกล่าวมี 2 ฉบับ จึงให้ลงโทษฉบับละ 6 ปี ส่วนกรณีที่ให้แก้สัญญาการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐเท่าเดิมฉบับละ 18 ปี ขณะที่พยานหลักฐานที่นายยบุญทรง อ้างว่าดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ศาลพิพากษาแล้วฟังไม่ขึ้น


ศาลฎีกายังให้ลงโทษกลุ่มบริษัทโรงสี ได้แก่ นายปกรณ์ ลีศิริกุล กรรมการบริษัท จำเลยที่ 26 และนางประพิศ มานะธัญญา กรรมการบริษัท จำเลยที่ 28 จากเดิมที่ยกฟ้องให้จำคุกคนละ 4 ปี พร้อมปรับ 25,000บาท นอกจากนี้ ยังให้ปรับนิติบุคคลซึ่งเป็นโรงสี อีก 4 ราย คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีกิจทวียโสธร บริษัท กิจทวียโสธรไรซ์ จำกัด โดยนายทวี อาจสมรรถ กรรมการบริษัท เค.เอ็ม.ซี. อินเตอร์ไรซ์ (2002) จำกัด และบริษัท เจียเม้ง จำกัด อีกรายละ 25,000 บาท โดยที่การกระทำของนายทวี อาจสมรรถ หุ้นส่วนผู้จัดการ เป็นความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษ 2 กะทง รวมจำคุกจำนวน 8 ปี และปรับ 50,000 บาท โดยที่พฤติการณ์ของกลุ่มโรงสี เห็นสมควรให้รอลงอาญาไว้คนละ 3 ปี จากเดิมที่กลุ่มเอกชนนี้ ถูกศาลแรกยกฟ้อง

นอกจากนี้ ยังให้กลุ่มโรงสีจำ แบ่งเป็นโรงสีกิจทวียโสธร และนายทวี อาจสมรรถ กรรมการ ชดใช้เงิน 27 ล้านบาท ให้กระทรวงคลัง, นายปกรณ์ และบริษัท เค.เอ็ม.ซี. อินเตอร์ไรซ์ (2002) จำกัด รวมกันชำระเงิน 15 ล้านบาท และบริษัท เจียเม้ง จำกัดและนางประพิศ ให้ร่วมกันชดใช้เงิน 55 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ได้มีการกำหนดในคำพิพากษานี้ตามที่อัยการสูงสุด โจทก์ ยื่นอุทธรณ์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามที่ศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษา ทั้งนี้ ผลจากคดีโจทก์เป็นผู้ยื่นเพิ่มโทษจำเลย ในคดีนี้ทั้งหมดรวมทั้งผู้ที่ศาลเคยยกฟ้อง


โดยวันนี้องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุดของจำเลย แต่ละคนตามคำพิพากษาแล้ว พร้อมออกคำบังคับการชดใช้ค่าเสียหายในส่วนแพ่งให้กระทรวงการคลังตามคำพิพากษาด้วย


ลูกเผย “บุญทรง” ช็อก หลังฟังคำพิพากษา


นายเดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ บุตรนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา ว่า นายบุญส่ง ค่อนข้างช็อกกับผลคำพิพากษา เพราะเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน แต่ต้องยอมรับ ถือว่าได้โอกาสในการพิสูจน์ตัวเองครั้งที่ 2 แล้ว ซึ่งก็ดีมากแล้ว

ส่วนสุขภาพของนายบุญทรง หลังจากผ่าตัดไป 1 รอบ ก็ดีขึ้น แต่ยังเหลือผ่าหลัง ซึ่งอาการชาที่ขายังไม่หาย มีปัญหาเรื่องการเดินเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม พ่อย้ำว่า ได้ทำหน้าที่ทางการเมืองให้ดีที่สุดตามที่ตั้งใจ และมีความเข้มแข็ง ซึ่งพ่อเคยเตือนตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาทำการเมืองแล้ว วันนี้ตนมาให้กำลังใจ แต่ไม่ได้พูดอะไรกันมาก ส่วนด้านกฎหมายถือว่าคดีสิ้นสุดเพียงเท่านี้ คงไม่สามารถทำอะไรเพิ่มเติมได้อีก ส่วนเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษก็เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่จะดำเนินการต่อไป.-สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

สงกรานต์เชียงใหม่ชุ่มฉ่ำทั้งเมือง

ประเพณีปี๋ใหม่เมือง หรือสงกรานต์ล้านนา วันนี้เรียกว่าเต็มไปด้วยสีสันวัฒนธรรมและเหล่าสาวงาม ขณะที่การเล่นน้ำสงกรานต์ก็ชุ่มฉ่ำไปทั้งเมือง โดยเฉพาะรอบคูเมือง และอุโมงค์น้ำแห่งแสงสีเสียง ที่ถนนท่าแพ ยิ่งค่ำยิ่งคึกคัก

สงกรานต์ภูเก็ตคึกคัก คาดสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 8,200 ล้าน

บรรยากาศสงกรานต์ที่ จ.ภูเก็ต ปีนี้สุดคึกคัก นักท่องเที่ยวสนุกกันสุดเหวี่ยงตั้งแต่เช้าเป็นต้นมา และคาดว่าบรรยากาศแห่งความสนุกสนานนี้จะยังคงดำเนินต่อเนื่องไปแบบข้ามวันข้ามคืน