อำนาจเจริญ 9 ส.ค.-กลุ่มผู้ปกครองร้องผู้ว่าฯ อำนาจเจริญ ย้าย ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง หลังมีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมทำร้ายร่างกายนักเรียน ด้าน ผอ.ยืนยันไม่ได้กระทำตามที่ถูกกล่าวอ้าง
นักเรียนและผู้ปกครองโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจิรญ ร่วม 300 คน เดินทางมายื่นหนังสือต่อ นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ ผู้ว่าฯ อำนาจเจริญ ที่ศาลากลางจังหัดอำนาจเจริญ เพื่อให้พิจารณาสั่งย้าย ผู้อำนวยการโรงเรียน โดยก่อนหน้านี้เคยหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและศูนย์ดำรงธรรมแล้ว แต่เรื่องกลับเงียบหาย เรื่องดังกล่าวสร้างความหวาดกลัวให้กับเด็กนักเรียน ถึงขั้นเด็กนักเรียนต่างพากันไม่ยอมไปโรงเรียน เนื่องจากกลัวว่าจะถูกลงโทษเช่นเดียวกับเด็กนักเรียนชั้น ป.5 จนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ทั้งนี้ หนังสือ ดังกล่าว ระบุถึงพฤติการณ์ ผอ.ที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ โดยทำร้าย ด.ญ. ชั้นป. 5 ซึ่งป่วยเป็นโรคโลหิตจาง เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้ ได้รับบาดเจ็บและได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ทาง ผอ.โรงเรียน ไม่ได้มาดูแลหรือรับผิดชอบในการกระทำแต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พนักงานสอบสวน สภ.ปทุมราชวงศาได้นัดคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเข้าไกล่เกลี่ยและยอมความ แต่ ผอ.โรงเรียน ไม่ยอมรับว่าเป็นผู้ทำร้ายร่างกายนักเรียน แต่จะยอมจ่ายค่าเสียหายให้และยอมจ่ายค่าปรับให้กับตำรวจ อีกทั้งยังได้ใช้วาจาในทำนองดูถูกเหยียดหยามผู้ปกครองและชาวบ้าน ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ปกครองอย่างมาก หนึ่งในผู้ปกคอง กล่าวว่า เนื่องจากชาวบ้านทนไม่ได้ที่เห็นลูกหลานไม่ยอมไปโรงเรียน เนื่องจากเกรงกลัวว่าจะถูก ผอ.โรงเรียนดังกล่าวทำร้าย เด็กบางคนถึงขั้นกับขอพ่อแม่ให้ย้ายไปเรียนที่อื่น ทำให้ผู้ปกครองหลายคนรู้สึกเป็นห่วงและวิตกกังวล จึงร่วมตัวกัน มายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ช่วยติดตามและดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยต้องการให้ย้าย ผอ.โรงเรียนออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า ขณะนี้ศูนย์ดำรงธรรมได้ทำหนังสือไปยังสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาอำนาจเจริญ ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดแล้ว และอยู่ในระหว่างการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จ โดยรับปากจะติดตามเร่งรัดความคืบหน้าและจะแจ้งให้กับผู้นำหมู่บ้านได้ทราบโดยเร็วที่สุด และขอยืนยันว่าหาก ผอ.รายนี้ กระทำผิดจริง จะต้องได้รับการลงโทษ ทั้งทางวินัยและทางกฏหมายอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อทางโทรศัพท์ ไปยัง ผอ.โรงเรียน ยังยืนยันว่า ไม่ได้ตบหรือตีเข้าที่หลังนักเรียนคนดังกล่าวแต่อย่างใด สาเหตุเนื่องจากวันที่เกิดเรื่องนั้น มีเด็กนักเรียนกลับก่อนเวลา ทั้งที่วันดังกล่าวมีกิจกรรมให้เด็กนักเรียนทุกคนเข้าร่วมเพื่อทำกิจกรรม แต่มีเด็กนักเรียนจำนวนหลายคนไม่เข้าร่วม พอเช้าวันต่อมาตนจึงได้เรียกเด็กนักเรียนกลุ่มดังกล่าวมา เพื่อสอบถามเรื่องราว ที่บริเวณหน้าเสาธง ซึ่งเด็กนักเรียนกลุ่มดังกล่าวก็ยอมรับผิดและจะทำไม่อีก จากนั้นตนจึงได้ให้เด็กนักเรียนแยกย้ายกลับเข้าห้องเรียนตามปกติ โดยไม่ได้มีการลงโทษหรือตบตีอย่างใดตามที่ชาวบ้านร้องเรียน ซึ่งตนเองเคยติดต่อขอพูดคุยกับพ่อแม่ของเด็กหลายครั้งแล้ว แต่ทางด้านพ่อแม่ของเด็กไม่ยอมฟัง มีแต่จะดำเนินคดีกับตนเพียงใดเดียว ตนเองไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน และยืนยันอีกครั้งว่าไม่เคยลงโทษ.-สำนักข่าวไทย