รร.เซนทรา ศูนย์ราชการ 6 ก.ย.-อธิบดีดีเอสไอ งดตอบโต้ ‘ชัยวัฒน์’ ย้ำชัดยังไม่ออกหมายจับ หากหลักฐานไม่ครบ เผยส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวเข้าพื้นที่หาพยาน หลักฐานคดี ‘บิลลี่’ หลายรูปแบบ รอผลตรวจชิ้นส่วนกระดูกที่เหลือจากนิติวิทยาศาสตร์คาด 3 เดือนสรุปสำนวนคดีได้
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฆาตกรรมนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง และเป็นการเก็บรวบรวบพยานหลักฐานมาตั้งแต่เกิดเหตุ แต่อาจไม่ได้เป็นข่าว รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานที่มีอยู่ในคดีเดิมเพื่อดูความเชื่อมโยงว่าส่วนใดบ้างที่ขาดหายไป
ส่วนพยานหลักฐานบุคคลมีอยู่บางส่วนแล้วและกำลังหาเพิ่มเติม หากใครมีเบาะแสให้แจ้งมาได้ที่สายด่วนดีเอสไอ 1202 โดยเจ้าหน้าที่จะปกปิดข้อมูลเป็นความลับ
อย่างไรก็ตามในส่วนของคดีมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นในทุกส่วนๆ แต่ไม่ได้แถลงสังคมให้รับทราบ เนื่องจากเป็นรายละเอียดในสำนวนคดี
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ระบุว่า ที่ผ่านมาคนในพื้นที่ไม่เคยพบว่ามีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอลงพื้นที่ทำคดีเลย อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บข้อมูลในหลายรูปแบบ มีการแผงตัวเข้าไปและเข้าพื้นที่มาอย่างต่อ เนื่อง ทั้งเข้าไปในรูปแบบชาวบ้านเพื่อเก็บข้อมูลจากคนในพื้นที่ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาเชื่อมโยงกับข้อมูลเดิมที่เคยมีอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี ออกมาระบุว่าจุดที่มีการทิ้งถังน้ำมันและกระดูกบิลลี่ไม่ใช่พื้นที่ปิดและการให้ข่าวของดีเอสไอกระทบต่อภาพ ลักษณ์ขององค์กรนั้น พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ไม่ขอตอบโต้ในเรื่องนี้แต่จะขอให้ดูตามพยานหลักฐานที่จะปรากฏในคดี เพราะการทำคดีต้องพิสูจน์กันตามพยานหลักฐานและมีผลพิสูจน์ทางดีเอ็นเอที่ชัดเจนอยู่แล้ว โดยหลักการในการทำคดีต่างๆ มีพยาน 3 ส่วนคือ พยานเอกสาร พยานบุคคลและพยานวัตถุที่จะนำไปสู่การระบุตัวผู้กระทำผิด ซึ่งดีเอสไอจะรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด
ส่วนจะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กรหรือไม่นั้น ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริง เพราะการทำคดีดีเอสไอจะทำในรูปแบบคณะกรรมการมีหลายฝ่ายเข้าร่วม ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และมีที่ปรึกษาเป็นอัยการฝ่ายสอบสวน ดังนั้นการจะทำอะไรแต่ละอย่างไม่ได้ทำเพียงหน่วยเดียวแต่จะทำในรูปคณะกรรมการทั้งหมดทุกขั้นตอน หากเป็นเรื่องไม่จริงคณะกรรมการก็ไม่มีทางเซ็นยินยอมซึ่งทุกตอนขั้นตอนการทำงานของดีเอสไอ ตรวจสอบได้
“จริงๆพยานหลักฐานมีอยู่แล้วแต่ต้องการให้มีความรอบคอบเพิ่มขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็สั่งการให้ทำเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา รวดเร็วและให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งขณะนี้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ขอเวลาอีก 1เดือนตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนกระดูกที่เหลือ คาดว่าภายใน 2-3 เดือนจะสามารถสรุปสำนวนคดีได้ แต่ระหว่างที่หลักฐานที่ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์จะยังไม่มีการออกหมายจับ” อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าว.-สำนักข่าวไทย