รัฐยันไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาใต้

รัฐสภา 4 ก.ย.- สภาประเดิมข้อบังคับใหม่ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาครั้งแรกโดยไม่แจ้งคำถามล่วงหน้า สงสัยเหตุ”อับดุลเลาะ”เสียชีวิตในค่าย ขณะที่รมว.กลาโหม ยืนยันรัฐบาลไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาใต้ และหากพบจนท.คนใดเกี่ยวข้อง จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม โดยภายหลังเปิดให้สมาชิกหารือเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนแล้ว เป็นการตั้งกระทู้ถามสด ด้วยวาจาเป็นครั้งแรกตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรใหม่ ซึ่งเพิ่งมีผลบังคับใช้  

นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ถามประเดิมกระทู้ถามสดด้วยวาจาแรก  โดยไม่ต้องแจ้งให้รัฐบาลทราบคำถามล่วงหน้า  โดยตั้งถามถึงกรณีนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง เสียชีวิตในขณะถูกควบคุมตัวภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ทั้งที่มีร่างกายแข็งแรงดี พร้อมถามถึงมาตรการช่วยเหลือเยียวยา และการพิจารณายกเลิกประกาศใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่ 


พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม  ตอบกระทู้ถามสดแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง กลาโหม ว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในภาคใต้ แต่ได้ยึดหลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนในการดำเนินการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลให้ความยุติธรรม หากพบว่าเจ้าหน้าที่ทำการละเมิดสิทธิ์ ก็จะต้องดำเนินคดีอาญาและทางวินัยอย่างเป็นธรรม ซึ่งเรื่องนี้ญาติผู้เสียชีวิตสามารถใช้สิทธิ์ร้องอาญาหรือแพ่งได้ 

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม  ยังกล่าวถึงมาตรการเยียวยาช่วยเหลือว่า แม้นายอับดุลเลาะจะเป็นผู้ต้องสงสัย แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา จึงถือเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ อยู่ในเงื่อนไขที่จะได้รับความช่วยเหลือเยียวยา จำนวน  532,500 บาท พร้อมพิจารณาความช่วยเหลือด้านอื่นๆ เช่น การมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรทั้งสองคนของนายอับดุลเลาะ  การช่วยเหลือด้านอาชีพ  และยังคงยืนยันความจำเป็นในการประกาศใช้กฎหมายพิเศษ เพราะผู้ก่อเหตุมีการเตรียมการอย่างดี ไม่สามารถใช้กฎหมายปกติได้ ขอยืนยันว่ารัฐจะใช้ตามความจำเป็น เพื่อไม่ให้กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยมีการทบทวนผลการบังคับใช้ตามระยะเวลา 3  เดือน  6 เดือน ที่ผ่านมารัฐมีการลดระดับการบังคับใช้กฎหมายลงด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]