กรมสุขภาพจิต 4 ก.ย.-กรมสุขภาพจิต ส่งทีมสุขภาพจิตเอ็มแคทลงพื้นที่ดูแลจิตใจประชาชนหลังเกิดพายุโพดุล ที่อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิตของประชาชนจากการได้รับผลกระทบพายุโพดุล ว่า กรมสุขภาพจิตมีความห่วงใยประชาชนเนื่องจากสถานการณ์ภัยพิบัติจากพายุ อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพจิตใจ เกิดสภาวะเครียด ซึมเศร้า วิตกกังวลและมีปัญหาสุขภาพจิตได้นั้น ว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางกรมสุขภาพจิตได้ส่งทีมสุขภาพจิตเอ็มแคท (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team : MCATT) ประกอบด้วย ทีมสหวิชาชีพของโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และศูนย์สุขภาพจิตที่ 7 ร่วมลงพื้นที่ช่วยเหลือเยียวยาจิตใจประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยพายุโพดุล
โดยได้รับรายงานจากทีมสุขภาพจิตเอ็มแคทที่ลงพื้น ที่อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พบมีศูนย์พักพิงทั้งหมด 7 แห่ง ไม่นับรวมเต็นท์พักพิงชั่วคราวที่จัดตั้งริมถนน ประมาณการผู้ได้รับผลกระทบไม่น้อยกว่า 2,000 ครัวเรือน แม้เข้าสู่ช่วงน้ำลดแล้ว แต่ยังคงมีฝนตกในพื้นที่ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง
ทีมสุขภาพจิตเอ็มแคท ได้จัดบริการตั้งรับปฏิบัติงานที่ศูนย์บัญชาการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ อ.บ้านไผ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลสนาม ล้อมรอบด้วยศาลาประชาคม โรงเรียนและวัด ซึ่งถูกจัดให้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว และจัดบริการดูแลสุขภาพจิตเชิงรุก โดยการลงพื้นที่เยี่ยมคนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่บ้านหนองน้ำใส ต.หนองน้ำใส บ้านกุดเปล่ง ต.บ้านไผ่ และบ้านดอนชาติ ต.หนองน้ำใส อ.บ้านไผ่
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า มีจำนวนผู้มารับบริการคัดกรองปัญหาด้านสุขภาพจิต ทั้งหมด 80 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้ต้องได้รับการติดตามต่อเนื่อง ร้อยละ 8.75 และมีผู้ที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจจากสถานการณ์น้ำท่วม ร้อยละ 1.25 โดยทีมสุขภาพจิตเอ็มแคทได้วางแผนประสานการทำงานร่วมกับทีมสุขภาพจิตรพ.บ้านไผ่ ในการดูแลอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ขณะลงพื้นที่ในเขตที่มีน้ำท่วมได้แจกจ่ายถุงยังชีพของกรมสุขภาพจิตแก่ประชาชนด้วย พร้อมกันนี้แนะนำให้ช่วยดูแลสภาพจิตใจกันและกันของคนในครอบครัว คนรอบข้างและเพื่อนบ้าน โดยใช้หลัก 3 ส.ในการปฐมพยาบาลทางใจ คือ 1.สอดส่องมองหา (Look) ขอให้ช่วยกันสังเกต มองหาผู้ประสบภัยที่ต้องการความช่วยเหลือ เช่น ผู้มีความโศกเศร้าเสียใจ เครียด วิตกกังวล กินไม่ได้ นอนไม่หลับ 2.ใส่ใจรับฟัง (Listen) ให้เข้าไปพูดคุยให้กำลังใจ พร้อมรับฟังอย่างเข้าใจ เพื่อช่วยให้ผู้ประสบภัยได้พูดระบายคลายความทุกข์ในใจออกมา และ3.ส่งต่อ (Link) หากอาการยังไม่ดีขึ้น เช่น มีอาการซึมเศร้าอย่างรุนแรง ให้ติดต่ออาสาสมัครสาธารณสุขภายในหมู่บ้านหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้าน เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและสามารถโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย