ระดมตัดยอดน้ำเข้าทุ่งบางระกำป้องกันเมืองสุโขทัย

กรุงเทพฯ 4 ก.ย. – รมว.เกษตรฯ ระบุสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำยมมีแนวโน้มคลี่คลาย น้ำจากแพร่ไหลมาสุโขทัยน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ชลประทานระดมเครื่องจักร-เครื่องมือและเจ้าหน้าที่แบ่งน้ำที่อำเภอศรีสัชนาลัยตลอดทั้งคืน ตัดยอดน้ำเข้าทุ่งบางระกำ ปกป้องเทศบาลเมืองสุโขทัยพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญไว้ได้ เตรียมรายงานสถานการณ์นายกรัฐมนตรีวันนี้


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า บ่ายวันนี้ (4 ก.ย.)  จะเดินทางร่วมกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดพิษณุโลกและสุโขทัย โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานประชุมพิจารณาการช่วยเหลือและแก้ไขอุทกภัยภาคเหนือที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลกก่อน 

ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทานว่าอำเภอเนินมะปราง ฝนตกหนักตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้น้ำจากแม่น้ำชมพูล้นตลิ่งท่วมพื้นที่เกษตรไหลลงมาท่วมอำเภอบางกระทุ่ม ก่อนที่น้ำจะไหลลงสู่แม่น้ำน่านที่อำเภอเมือง จังหวดพิจิตรนั้น ขณะนี้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนอำเภอวังทอง ซึ่งแม่น้ำวังทองที่ไหลผ่านมีระดับสูงขึ้นจนล้นตลิ่งเนื่องจากฝนตกหนักในเทือกเขาเพชรบูรณ์ซึ่งเป็นต้นน้ำและตกหนักในอำเภอวังทองด้วย ขณะนี้ระดับน้ำลดลงแล้ว หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 2-3 วัน จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางไปมอบถุงยังชีพและให้กำลังใจผู้ประสบภัยที่บ้านดงพลวง หมู่ที่ 7 ตำบลวังพิกุล อำเภอวังทอง รับฟังสภาพปัญหาของพื้นที่และมอบนโยบายการแก้ไขและป้องกันอุทกภัย 


นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีจะเดินทางทางไปตรวจแนวทางการป้องกันน้ำท่วมอำเภอเมืองสุโขทัย ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ แต่มีปัญหา คือ ลำน้ำยมที่ไหลผ่านตัวเมืองมีลักษณะแคบรับน้ำได้ไม่เกิน 550 ลูกบาศก์เมตร (ลบ. ม.) /วินาที แต่ปริมาตรน้ำสูงสุดที่ไหลมาจากจังหวัดแพร่ ซึ่งมาถึงอำเภอศรีสัชชนาลัยช่วงบ่ายวานนี้ (3 ก.ย.) มีปริมาตร 980 ลบ. ม./วินาที สำนักงานชลประทานที่ 4 ได้ควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านประตูระบายน้ำ (ปตร.) บ้านหาดสะพานจันทร์ในอัตรา 560 ลบ. ม./วินาที โดยได้ผันน้ำเข้าระบบชลประทานฝั่งซ้ายเป็นหลัก ได้แก่ ผันเข้าคลองผันน้ำสวรรคโลก-พิชัย (ยม-น่าน) ผ่านปตร.หกบาทในอัตรา 340 ลบ. ม./วินาที แยกไปลงแม่น้ำน่าน ผ่านปตร.น้ำยม-น่านในอัตรา 110 ลบ. ม./วินาที และไปลงแม่น้ำยมสายเก่าผ่านทาง ปตร.ยมเก่าในอัตรา 230 ลบ. ม. /วินาที ส่วนน้ำที่ไหลผ่าน ปตร.บ้านหาดสะพานจันทร์ไปแล้วได้ส่งน้ำเข้าคลองเล็กฝั่งซ้าย-ขวาในอัตรารวมกันประมาณ 120 ลบ. ม./วินาที ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอเมืองสุโขทัยในอัตราประมาณ 512 ลบ.ม./วิ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ขนาดของแม่น้ำยมที่ไหลผ่านเมืองสุโขทัยรับได้ โดยเจ้าหน้าที่ได้บริหารจัดการน้ำตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา อีกทั้งระดับน้ำแม่น้ำยมมีแนวโน้มลดลงแล้ว ทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชนเมือง

ด้านนายทองเปลว  กล่าวว่า ได้ยพร่องน้ำแก้มลิงทุ่งทะเลหลวง เพื่อตัดยอดน้ำก่อนเข้าตัวเมืองลงท้าย ปตร.ยางซ้าย ประมาณไม่เกิน 80 – 100 ลบ. ม./วินาที ปิดการส่งน้ำจากโครงการท่อทองแดงที่ส่งน้ำไปอำเภอคีรีมาศ ผันน้ำเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งบางระกำ ซึ่งสามารถรับน้ำได้ประมาณ 550 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งปัจจุบันมีน้ำในทุ่ง 70 ล้าน ลบ.ม. ตามแผนบริหารจัดการน้ำบางระกำโมเดลที่กำหนดให้พื้นที่ลุ่มต่ำบางระกำเป็นที่รับน้ำหลากป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ทางตอนล่างของลุ่มน้ำยม

สำหรับการแก้ปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืนจังหวัดพิษณุโลกจะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นโครงการที่ชาวพิษณุโลกต้องการ ได้แก่ โครงการสร้างอ่างเก็บน้ำคลองชมพู ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง ความจุ 90 ล้าน ลบ. ม. ซึ่งจะสามารถบรรเทาภัยน้ำท่วมในอำเภอเนินมะปรางและบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก รวมทั้งอำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร งบประมาณ 2,000 ล้านบาท ส่วนโครงการพัฒนาลุ่มน้ำวังทอง ซึ่งจะสร้างอ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยระเบย ความจุ 40 ล้าน ลบ. ม. งบประมาณ 1,550 ล้านบาทและอ่างเก็บน้ำห้วยแยง ความจุ 40 ล้าน ลบ. ม. เช่นกันที่ตำบลบ้านแยง อำเภอนครไทย สำหรับบรรเทาอุทกภัยในอำเภอวังทองและบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก รวมทั้งอำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร งบประมาณ 846 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 3,996 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถบรรเทาปัญหาอุทกภัยซ้ำซากในพื้นที่ดังกล่าวได้


สำหรับจังหวัดสุโขทัยมีแผนงานปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำทั้งระบบของแม่น้ำยม โดยมีเป้าหมายให้สามารถรองรับน้ำที่ไหลผ่านอำเภอศรีสัชนาลัยได้สูงสุด 1,400 ลบ. ม./วินาที ประกอบด้วยก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลางในลำน้ำสาขาและประตูระบายน้ำแม่น้ำยมในพื้นที่ลุ่มน้ำยมตอนบนและตอนกลางเพื่อเก็บกักน้ำในลำน้ำสาขาของแม่น้ำยม ลดยอดน้ำของแม่น้ำยมตอนบนและตอนกลางที่จะไหลลงพื้นที่แม่น้ำยมตอนล่าง ปรับปรุงคลองผันน้ำและประตูระบายน้ำเพื่อให้สามารถผันน้ำเลี่ยงเขตเศรษฐกิจเมืองสุโขทัยออกทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำยม จากเดิมเคยรองรับน้ำได้ศักยภาพสูงสุดประมาณ 250 ลบ.ม./วินาที เพิ่มเป็นศักยภาพสูงสุดประมาณ 500 ลบ.ม./วินาที ลงสู่คลองยมน่าน 300 ลบ.ม./วินาที และลงสู่แม่น้ำยมสายเก่า 200 ลบ.ม./วินาที ปรับปรุงคลองระบายน้ำฝั่งขวาที่รับจากน้ำจากประตูระบายน้ำฝั่งขวาเหนือประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ให้สมบูรณ์ทั้งระบบเพื่อให้สามารถรองรับปริมาณน้ำได้ 100 ลบ. ม./วินาที และเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำเข้าสู่คลองธรรมชาติทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาที่เชื่อมกับแม่น้ำยมเพื่อผันน้ำเข้าสู่ทุ่งและแก้มลิงธรรมชาติ จากเดิมที่สามารถตัดยอดน้ำได้ 130 ลบ. ม./วินาทีเพิ่มเป็นศักยภาพสูงสุดประมาณ 250 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างปี 2563.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้