ขอนแก่น 2 ก.ย.-ฝนยังคงตกหนักต่อเนื่องทำให้น้ำยังคงท่วมขังถนนและชุมชนในพื้นที่ ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น ขณะที่โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดขอนแก่น ต้องประกาศหยุดเรียนให้ผู้ปกครอง เดินทางมารับบุตรหลานกลับบ้าน
ที่ถนนมะลิวัลย์ช่วงปากทางเข้าโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดขอนแก่น ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ได้นำรถแบ๊กโฮ มาขุดร่องเกาะกลางถนน เพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังผิวจราจรถนนมะลิวัลย์ขาเข้าเมืองขอนแก่น ให้ระบายลงบึงหนองโคตร ทำให้ระดับน้ำได้ลดลง รถยนต์สามารถผ่านได้ 1 ช่องทางจราจร
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ และกลุ่มออฟโร้ดขอนแก่น ได้ช่วยนำครูและนักเรียนเคลื่อนย้ายออกจากโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดขอนแก่น หลังจากที่ทางโรงเรียนได้ประกาศหยุดเรียน เนื่องจากมีน้ำท่วมในเขตโรงเรียน และโดยรอบ จนไม่สามารถเข้าออกโรงเรียนได้ เพื่อความปลอดภัยจึงได้ประกาศหยุดการเรียนการสอน ให้ผู้ปกครองเดินทางมารับนักเรียน ส่วนนักเรียนที่พักกับทางโรงเรียน ได้นำนักเรียนขึ้นไปยังชั้นที่ 2 ของอาคารที่พัก
นางปัทมาวดี โหมกทุมมา ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า บ้านของตนอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ดังนั้นฤดูฝนของทุกปีได้มีการวางแผนรับมือน้ำที่จะท่วมบ้าน โดยได้มีการสร้างชั้นลอยที่หน้าบ้าน แต่น้ำท่วมปีนี้น้ำเยอะในรอบหลายปี เพราะมวลน้ำที่มาจากทางชุมชนค่ายกองพันทหารราบที่ 8 มีปริมาณมาก อีกทั้งยังมีการเร่งระบายน้ำลงบึงหนองโคตร จึงทำให้หลีกเลี่ยงน้ำที่จะท่วมบ้านไม่ได้ ซึ่งตนเองได้เรียนรู้การอยู่อาศัยบ้านในช่วงฤดูฝนไว้แล้ว จึงไม่ได้เครียดอะไรมาก
ส่วนความคืบหน้า เหตุไฟฟ้าช็อตนายสราวุธ จันโทแพง อายุ 20 ปี เสียชีวิตขณะเข้าช่วยเหลือเพื่อนบ้านที่ถูกน้ำท่วมในบ้านไผ่เก่าพัฒนา อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่31 ส.ค.ที่ผ่านมา วันนี้นายสมลักษณ์ กิ่งมาลา รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ภาค 2 เดินทางไปที่บ้านของนายเกษม จันโทแพง พ่อของนายสราวุธ มอบเงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต เบื้องต้นเป็นเงิน 5 แสนบาท พร้อมทั้งเป็นเจ้าภาพในพิธีบำเพ็ญกุศลศพ พร้อมกับบอกว่าพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต เช่นเดียวกับทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนที่เหลือจะต้องมีการเจรจาพุดคุยกับทางญาติอีกครั้งหลังเสร็จพิธีการงานศพ เพื่อให้เป็นการดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตให้ดีที่สุด และขณะนี้การไฟฟ้าได้เร่งดำเนินการจ่ายไฟฟ้าให้ครอบคลุมมากที่สุด ในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ ซึ่งยังคงเหลือ 3 ชุมชนที่ยังไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าให้ได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง และเสี่ยงอันตราย ทั้งนี้หากตรวจสอบแล้วพบว่าพื้นที่มีความปลอดภัยก็จะเร่งดำเนินการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้เร็วที่สุด-สำนักข่าวไทย