ปตท.ลงนามเอกชนจีนศึกษาค้าร่วมแอลเอ็นจี

กรุงเทพฯ 2 ก.ย. – ปตท.จับมือเอกชนจีนศึกษาตลาดแอลเอ็นจีทางจีนตอนใต้ เตรียมพร้อมเป็นเทรดเดอร์แอลเอ็นจีในภูมิภาคอาเซียน



ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 37 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือ  AMEM  (ASEAN Ministers on Energy Meeting and Associated Meetings: 37th AMEM)  ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 2-6 กันยายนนี้ หนึ่งในแผนการประชุม คือ เรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับขนส่งก๊าซธรรมชาติและกระทรวงพลังงานผลักดันให้ประเทศไทย โดย บมจ.ปตท.เป็นศูนย์กลางค้าแอลเอ็นจีในภูมิภาคนี้


นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ปตท.เตรียมแผนความพร้อม เนื่องจากไทยเป็นผู้ใช้ก๊าซฯ รายใหญ่และมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับทั้งสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลวหรือแอลเอ็นจีที่ จ.ระยอง ที่มีจำนวน 2 แห่ง และตามแผนจะเกิดเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง ส่วนสิงคโปร์และมาเลเซีย แม้จะมีสถานีแอลเอ็นจีแต่ปริมาณการใช้ในประเทศมีน้อยกว่า ดังนั้น ไทยจึงเป็นประเทศที่ตั้งเหมาะสมในการค้าแอลเอ็นจีทั้งในอาเซียนและจีนตอนใต้ โดยล่าสุด ปตท.ได้ร่วมลงนามข้อตกลงเบื้องต้นกับเอกชนของจีนในการศึกษาลู่ทางการขนส่งแอลเอ็นจีและการทำตลาดร่วมกัน โดยจีนตอนใต้เป็นตลาดที่ใหญ่ความต้องการใช้ไฟฟ้ามีปริมาณสูงและปัจจุบันมีความใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อม   และลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งก๊าซฯ จึงเป็นทางเลือกที่้เหมาะสม 

นายวุฒิกร กล่าวว่า แนวทางการขนส่งก๊าซแอลเอ็นจีจะเป็นทั้งรูปแบบการขนส่งผ่านเรือเล็กจากสถานีของไทยไปประเทศอื่นที่เรียกว่าระบบรีโหลด (Re Load) โดย ปตท.จะใช้เรือเล็กทดสอบระบบนี้เร็ว ๆ นี้ จากสถานีมาบตาพุด รวมทั้งมีความพร้อมในการขนส่งทางรถ เพื่อไปใช้ในรูปแบบโรงไฟฟ้าเคลื่อนที่ ( Mobile Unit) ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในไทยและเพื่อนบ้าน เพื่อให้มีความคล่องตัวมากที่สุดและสามารถผลิตไฟฟ้าแบบกระจายศูนย์ โดยที่ผ่านมา ปตท.ได้ทดลองระบบ โดยส่งแอลเอ็นจีไปยังพื้นที่ภาคใต้ในช่วงปิดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ เจดีเอ ทำให้ไม่เกิดปัญหาขาดแคลนเอ็นจีวีแต่อย่างใด


นอกจากนี้ การขนส่งยังสามารถส่งผ่านทางท่อก๊าซ โดย ปตท.เตรียมแผนศึกษาการก่อสร้างท่อก๊าซใหม่ 2 ท่อ เพื่อรองรับฮับอาเซียน ได้แก่ โคราช-ขอนแก่น-น้ำพอง และเส้นพระนครใต้-บางปะกง ซึ่งขึ้นอยู่กับกระทรวงพลังงานจะเห็นชอบหรือไม่

สำหรับการประชุม  AMEM (เอเมม) มีเป้าหมายที่จะผลักดันแผนปฏิบัติการอาเซียน เช่น การซื้อขายไฟฟ้าแบบพหุภาคีระหว่างกัน แผนส่งเสริมพลังงานทดแทน เพิ่มขึ้นเป็นระดับร้อยละ 23 ภายในปี 2568 จากปัจจุบันที่อยู่ระดับร้อยละ 14  การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีถ่านหินสะอาด การผลักดันประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน เพื่อลดความเข้มการใช้พลังงานให้ได้ร้อยละ 20 ภายในปี 2563 อย่างไรก็ตาม พบว่าประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีกว่าแผน โดยเมื่อปี 2560 สามารถทำได้ร้อยละ 21.7 ซึ่งที่ประชุมจะมีการวางเป้าหมายที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ไทยจะมีการหารือกับกัมพูชาในเรื่องการพัฒนาปิโตรเลียมในพื้นที่ืทับซ้อนทางทะเลอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สุดตระการตา รับประเพณียี่เป็ง

ยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ ประดับประดาด้วยแสงไฟรับประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนถนนท่าแพ มีการสร้างซุ้มประดับไฟเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 14 ซุ้ม ยาวกว่า 200 เมตร.

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมรีดทรัพย์ รับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพื่อขายงาน

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากดิไอคอน ยอมรับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพราะต้องการขายงาน

คุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง เจ้าตัวเงียบรีบเดินขึ้นรถตู้

ตำรวจกองปราบคุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง ผู้ต้องหาปัดตอบสื่อ ด้านพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี