เกษตรฯ สั่งกรมชลฯ เร่งช่วยเหลือประชาชน 12 จังหวัด

กรุงเทพฯ 31 ส.ค. – รมว.เกษตรฯ  สั่งกรมชลประทานเร่งช่วยเหลือประชาชนประสบอุทกภัยจากพายุโพดุล 12 จังหวัด จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ ด้านกรมชลประทานระดมเครื่องจักร-เครื่องมือเร่งสูบและเปิดทางน้ำเพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังทั้งในพื้นที่เกษตร ถนนหนทาง รวมทั้งป้องกันพื้นที่ชุมชน-พื้นที่เศรษฐกิจทั่วประเทศ


นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่งการด่วนที่สุดให้กรมชลประทานบูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยให้รายงานสถานการณ์น้ำและผลการปฏิบัติการทุก 3 ชั่วโมงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย จังหวัดที่ประสบอุทกภัยมี 12 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก ยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี อุดรธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร สกลนคร สระแก้ว ชุมพร และระนอง 


ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) สรุปสถานการณ์จังหวัดพิษณุโลกมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 1 อำเภอ คือ ตำบลบ้านมุงและวังยาง อำเภอเนินมะปราง ซึ่งได้เร่งสูบน้ำออก คาดว่าหากปริมาณฝนลดน้อยลง สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 7 วัน จังหวัดยโสธรเกิดฝนตกหนักในพื้นที่บริเวณอำเภอป่าติ้ว ทำให้น้ำจากลำเซบายล้นตลิ่งเข้าท่วมที่ลุ่มต่ำและพื้นที่การเกษตรที่บ้านกุดสำโรง ตำบลศรีฐาน ชุมชนบ้านโพธิ์ไทร ตำบลโพธิ์ไทร และบ้านแซซ่ง ตำบลเชียงเพ็ง คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 7 วัน จังหวัดกาฬสินธุ์มีพื้นที่ผลกระทบน้ำท่วมที่บ้านพรมสว่าง ตำบลกุดสิมคุ้มใหม่ อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ 200 ไร่ และบ้านหนองห้าง ตำบลภูแล่นช้าง อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ 120 ไร่ โครงการชลประทานกาฬสินธุ์เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่เกษตร

จังหวัดร้อยเอ็ดมีพื้นที่น้ำท่วมด้านฝั่งซ้ายของลำน้ำยังที่ความสูงประมาณ 1.78 เมตร พื้นที่ได้รับผลกระทบประมาณ 6,300 ไร่ บ้านโนนเชียงหวาง บ้านหนองบุ่ง ตำบลโคกกกม่วง อำเภอโพนทอง และบ้านนาวี ตำบลศีวิลัย บ้านดงแจ้ง บ้านหนองจอก บ้านหนองผักตบ ตำบลเหล่าน้อย อำเภอเสลภูมิ และฝั่งด้านในคันพนังกั้นน้ำกม. 6+600 บริเวณบ้านท่าทางเกวียนได้รับผลกระทบน้ำท่วม 300 ไร่ โครงการชลประทานร้อยเอ็ดนำเครื่องสูบน้ำ 15 เครื่องเร่งสูบน้ำออก พร้อมนำรถแบ็คโฮ 2 คันเปิดทางน้ำ นอกจากนี้ ปริมาณน้ำในลำน้ำยังที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้มีน้ำล้นข้ามพนังกั้นน้ำบริเวณ กม. 12+000 ก่อนที่พนังกั้นน้ำจะทรุดตัวและขาดลงเมื่อช่วงเช้า ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำยังที่สถานี E.92 ใกล้จุดที่พนังขาดสูงกว่าระดับคันพนังกั้นน้ำประมาณ 2.64 เมตร ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านช่องที่ขาดนี้ จะไหลลงไปสมทบกับน้ำในพื้นที่ลงสู่ตอนล่าง ก่อนจะไหลลงสู่ลำน้ำยังและแม่น้ำชีตามลำดับ 


สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำสะพานแบลี่มาติดตั้งเพื่อให้ประชาชนใช้สัญจรชั่วคราว จากนั้นจะดำเนินการซ่อมแซมภายหลัง สำนักเครื่องจักรกลได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 8 เครื่อง บริเวณสะพานข้ามลำน้ำยังที่บ้านกุดเรือ ตำบลนางาม อำเภอเสลภูมิ เพื่อเร่งอัตราการไหลของน้ำให้ไหลลงสู่แม่น้ำชีให้เร็วขึ้น พร้อมกันนี้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งสูบระบายน้ำออกจากบึงเกลือเพื่อรองรับน้ำจากการตัดยอดน้ำในลำน้ำยังที่จะไหลลงมาเพิ่มเติม ขณะที่เขื่อนยโสธร จังหวัดยโสธรและเขื่อนธาตุน้อย จังหวัดอุบลราชธานียกบานประตูน้ำพ้นน้ำทุกบานแล้ว เพื่อให้น้ำในแม่น้ำชีไหลได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้ขุดเปิดคันพนังกั้นน้ำท้ายสะพานบ้านบาก เพื่อเร่งระบายน้ำที่ล้นจากบึงเกลือให้ไหลลงสู่แม่น้ำชีเร็วที่สุด เพื่อป้องกันความเสียหายจากการขยายตัวของพื้นที่น้ำท่วมและป้องกันคันพนังกั้นน้ำลำน้ำยังไม่ให้ขาดได้อีก 

ส่วนในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ฝนที่ตกหนักมากทำให้น้ำท่วมถนนสูง 50-120 เซนติเมตร รถเล็กผ่านไม่ได้ ต้องปิดการสัญจรชั่วคราว โดยน้ำท่วมถนนข้าวหอมมะลิติดกับบึงพลาญชัยตั้งแต่ประตูสาเกตนครเป็นต้นไปและท่วมทางวิ่งออกกำลังกายของประชาชนรอบบึงพลาญชัยสูงกว่า 1 เมตร ถนนเพลินจิตรมีน้ำท่วมด้านข้างไปรษณีย์จังหวัด ถนนสุริยะเดชบำรุงหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองร้อยเอ็ด รวมทั้งตรอกซอกซอยมีน้ำท่วมสูง มีปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมโรงเรียนอนุบาลโพนทอง อำเภอโพนทองซึ่งกำลังเร่งสูบน้ำออก คาดว่า จะระบายน้ำได้หมดใน 1-2 วัน

จังหวัดอุดรธานีน้ำท่วมบริเวณโรงเรียนบ้านหมากแข้งและบริเวณสะพานคลองผันน้ำ อำเภอเมือง น้ำกัดเซาะทำให้คอสะพานฝั่งขวาชำรุด รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ โครงการชลประทานอุดรธานี นำรถแบ็คโฮ 2 คัน มาเปิดทางน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำลงอ่างเก็บน้ำหนองสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี น้ำในลำเซบกไหลล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรลุ่มต่ำริมตลิ่งลำเซบกตอนบน มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 1 อำเภอ คือ อำเภอม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งน้ำเอ่อล้นตลิ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำเซบกตอนบน โครงการชลประทานอุบลราชธานีช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่สูงและเร่งระบายน้ำออก ส่วนสถานการณ์อาคารระบายน้ำล้นของอ่างเก็บน้ำห้วยแจระแม บ้านหนองแก ตำบลแจระแม อำเภอเมือง ความจุ 744,000 ลบ.ม. ซึ่งได้ถ่ายโอนให้เทศบาลตำบลแจระแมเมื่อปี 2546 ชำรุดเสียหาย เกิดการกัดเซาะจนไม่สามารถเก็บกักน้ำได้ เกิดการพังทะลายกว้างประมาณ 10 เมตรทำให้ปริมาณน้ำในอ่างไหลลงสู่พื้นที่ท้ายน้ำคือ ลำมูลน้อย แล้วไหลลงสู่แม่น้ำมูล ไม่มีบ้านเรือนประชาชนหรือพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ ทางโครงการชลประทานอุบลราชธานีได้แจ้งให้จังหวัด ปภ.จังหวัดและเทศบาลตำบลแจระแมทราบแล้ว

 จังหวัดอำนาจเจริญน้ำในลำเซบายและลำห้วยสาขาเพิ่มระดับสูงขึ้นจนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรลุ่มต่ำบริเวณอำเภอเมืองและอำเภอเสนางคนิคมรวมพื้นที่จำนวน 3,718 ไร่ ได้เร่งระบายน้ำออก หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม สถานการณ์จะเข้าสู่ปกติใน 3-4 วัน จังหวัดมุกดาหารมีน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนรวม 4 อำเภอได้แก่ อำเภอคำชะอี นิคมคำสร้อย ดอลตาล และอำเภอเมืองรวม 12,880 ไร่ กำลังเร่งสูบน้ำออก คาดว่า สถานการณ์จะเข้าสู่ปกติใน 1-2 วัน จังหวัดสกลนครน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนรวม 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโพนนาแก้วและโคกศรีสุพรรณ เนื่องจากระดับน้ำในลำน้ำก่ำยังคงเพิ่มสูงขึ้น โครงการชลประทานสกลนครติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 4 เครื่องบริเวณสะพานบ้านด่านม่วงคำ อำเภอโคกศรีสุพรรณ เพื่อเร่งการระบายน้ำในลำน้ำก่ำสู่พื้นที่ด้านท้ายน้ำและเรียงกระสอบทรายบริเวณพนังกั้นน้ำต่ำที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการไหลข้ามคันเข้าสู่พื้นที่การเกษตรบริเวณอำเภอโพนนาแก้ว 

จังหวัดสระแก้ว ฝนตกหนักบริเวณอุทยานแห่งชาติปางสีดา วัดได้ 174.4 มิลลิเมตร ทำให้น้ำท่วม 2 จุด ได้แก่ บริเวณสะพานคลองโป่งดาวเรือง กม.16+450 น้ำท่วมสูงประมาณ 40  เซนติเมตร มีน้ำท่วมสวนยูคาลิปตัสประมาณ 100 ไร่และบ้านเรือน 3 หลัง ปริมาณน้ำเริ่มลดลง หากไม่มีฝนตกจะเข้าสู่ปกติใน 1 วัน   จังหวัดชุมพรมีฝนตกหนักบริเวณต้นน้ำคลองชุมพรที่สถานีบ้านหนองตำเสา อำเภอเมืองชุมพรทำให้น้ำล้นตลิ่งที่คลองชุมพร บริเวณ สถานี X.53A บ้านวังไผ่ และสถานี X.201A บ้านท่าไม้ลาย โครงการชลประทานชุมพรติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 4 ชุด บริเวณตำบลวังไผ่ และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 4 ชุด บริเวณตำบลตากแดดเพื่อเร่งระบายน้ำออก 

จังหวัดระนอง น้ำในคลองน้ำจืดไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนหน้าตลาด บ้านน้ำจืด ตำบลน้ำจืด อำเภอกระบุรีเกิดผลกระทบต่อราษฎรประมาณ 100 หลังคาเรือน โครงการชลประทานระนองติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง ทางฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของชุมชนเพื่อช่วยเร่งการระบายน้ำออกจากพื้นที่ 

“กรมชลประทานระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าคลี่คลายสถานการณ์น้ำท่วมทุกพื้นที่และเฝ้าระวังทุกจุดเสี่ยงตามนโยบายของรัฐบาลและข้อสั่งการของรัฐมนตรีเกษตรฯ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1460 กรมชลประทานจะเข้าไปช่วยเหลือด่วนที่สุด” นายทองเปลว กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]