เกษตรฯ สั่งกรมชลฯ เร่งช่วยเหลือประชาชน 12 จังหวัด

กรุงเทพฯ 31 ส.ค. – รมว.เกษตรฯ  สั่งกรมชลประทานเร่งช่วยเหลือประชาชนประสบอุทกภัยจากพายุโพดุล 12 จังหวัด จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ ด้านกรมชลประทานระดมเครื่องจักร-เครื่องมือเร่งสูบและเปิดทางน้ำเพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังทั้งในพื้นที่เกษตร ถนนหนทาง รวมทั้งป้องกันพื้นที่ชุมชน-พื้นที่เศรษฐกิจทั่วประเทศ


นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่งการด่วนที่สุดให้กรมชลประทานบูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยให้รายงานสถานการณ์น้ำและผลการปฏิบัติการทุก 3 ชั่วโมงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย จังหวัดที่ประสบอุทกภัยมี 12 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก ยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี อุดรธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร สกลนคร สระแก้ว ชุมพร และระนอง 


ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) สรุปสถานการณ์จังหวัดพิษณุโลกมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 1 อำเภอ คือ ตำบลบ้านมุงและวังยาง อำเภอเนินมะปราง ซึ่งได้เร่งสูบน้ำออก คาดว่าหากปริมาณฝนลดน้อยลง สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 7 วัน จังหวัดยโสธรเกิดฝนตกหนักในพื้นที่บริเวณอำเภอป่าติ้ว ทำให้น้ำจากลำเซบายล้นตลิ่งเข้าท่วมที่ลุ่มต่ำและพื้นที่การเกษตรที่บ้านกุดสำโรง ตำบลศรีฐาน ชุมชนบ้านโพธิ์ไทร ตำบลโพธิ์ไทร และบ้านแซซ่ง ตำบลเชียงเพ็ง คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 7 วัน จังหวัดกาฬสินธุ์มีพื้นที่ผลกระทบน้ำท่วมที่บ้านพรมสว่าง ตำบลกุดสิมคุ้มใหม่ อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ 200 ไร่ และบ้านหนองห้าง ตำบลภูแล่นช้าง อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ 120 ไร่ โครงการชลประทานกาฬสินธุ์เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่เกษตร

จังหวัดร้อยเอ็ดมีพื้นที่น้ำท่วมด้านฝั่งซ้ายของลำน้ำยังที่ความสูงประมาณ 1.78 เมตร พื้นที่ได้รับผลกระทบประมาณ 6,300 ไร่ บ้านโนนเชียงหวาง บ้านหนองบุ่ง ตำบลโคกกกม่วง อำเภอโพนทอง และบ้านนาวี ตำบลศีวิลัย บ้านดงแจ้ง บ้านหนองจอก บ้านหนองผักตบ ตำบลเหล่าน้อย อำเภอเสลภูมิ และฝั่งด้านในคันพนังกั้นน้ำกม. 6+600 บริเวณบ้านท่าทางเกวียนได้รับผลกระทบน้ำท่วม 300 ไร่ โครงการชลประทานร้อยเอ็ดนำเครื่องสูบน้ำ 15 เครื่องเร่งสูบน้ำออก พร้อมนำรถแบ็คโฮ 2 คันเปิดทางน้ำ นอกจากนี้ ปริมาณน้ำในลำน้ำยังที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้มีน้ำล้นข้ามพนังกั้นน้ำบริเวณ กม. 12+000 ก่อนที่พนังกั้นน้ำจะทรุดตัวและขาดลงเมื่อช่วงเช้า ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำยังที่สถานี E.92 ใกล้จุดที่พนังขาดสูงกว่าระดับคันพนังกั้นน้ำประมาณ 2.64 เมตร ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านช่องที่ขาดนี้ จะไหลลงไปสมทบกับน้ำในพื้นที่ลงสู่ตอนล่าง ก่อนจะไหลลงสู่ลำน้ำยังและแม่น้ำชีตามลำดับ 


สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำสะพานแบลี่มาติดตั้งเพื่อให้ประชาชนใช้สัญจรชั่วคราว จากนั้นจะดำเนินการซ่อมแซมภายหลัง สำนักเครื่องจักรกลได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 8 เครื่อง บริเวณสะพานข้ามลำน้ำยังที่บ้านกุดเรือ ตำบลนางาม อำเภอเสลภูมิ เพื่อเร่งอัตราการไหลของน้ำให้ไหลลงสู่แม่น้ำชีให้เร็วขึ้น พร้อมกันนี้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งสูบระบายน้ำออกจากบึงเกลือเพื่อรองรับน้ำจากการตัดยอดน้ำในลำน้ำยังที่จะไหลลงมาเพิ่มเติม ขณะที่เขื่อนยโสธร จังหวัดยโสธรและเขื่อนธาตุน้อย จังหวัดอุบลราชธานียกบานประตูน้ำพ้นน้ำทุกบานแล้ว เพื่อให้น้ำในแม่น้ำชีไหลได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้ขุดเปิดคันพนังกั้นน้ำท้ายสะพานบ้านบาก เพื่อเร่งระบายน้ำที่ล้นจากบึงเกลือให้ไหลลงสู่แม่น้ำชีเร็วที่สุด เพื่อป้องกันความเสียหายจากการขยายตัวของพื้นที่น้ำท่วมและป้องกันคันพนังกั้นน้ำลำน้ำยังไม่ให้ขาดได้อีก 

ส่วนในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ฝนที่ตกหนักมากทำให้น้ำท่วมถนนสูง 50-120 เซนติเมตร รถเล็กผ่านไม่ได้ ต้องปิดการสัญจรชั่วคราว โดยน้ำท่วมถนนข้าวหอมมะลิติดกับบึงพลาญชัยตั้งแต่ประตูสาเกตนครเป็นต้นไปและท่วมทางวิ่งออกกำลังกายของประชาชนรอบบึงพลาญชัยสูงกว่า 1 เมตร ถนนเพลินจิตรมีน้ำท่วมด้านข้างไปรษณีย์จังหวัด ถนนสุริยะเดชบำรุงหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองร้อยเอ็ด รวมทั้งตรอกซอกซอยมีน้ำท่วมสูง มีปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมโรงเรียนอนุบาลโพนทอง อำเภอโพนทองซึ่งกำลังเร่งสูบน้ำออก คาดว่า จะระบายน้ำได้หมดใน 1-2 วัน

จังหวัดอุดรธานีน้ำท่วมบริเวณโรงเรียนบ้านหมากแข้งและบริเวณสะพานคลองผันน้ำ อำเภอเมือง น้ำกัดเซาะทำให้คอสะพานฝั่งขวาชำรุด รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ โครงการชลประทานอุดรธานี นำรถแบ็คโฮ 2 คัน มาเปิดทางน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำลงอ่างเก็บน้ำหนองสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี น้ำในลำเซบกไหลล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรลุ่มต่ำริมตลิ่งลำเซบกตอนบน มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 1 อำเภอ คือ อำเภอม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งน้ำเอ่อล้นตลิ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำเซบกตอนบน โครงการชลประทานอุบลราชธานีช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นสู่ที่สูงและเร่งระบายน้ำออก ส่วนสถานการณ์อาคารระบายน้ำล้นของอ่างเก็บน้ำห้วยแจระแม บ้านหนองแก ตำบลแจระแม อำเภอเมือง ความจุ 744,000 ลบ.ม. ซึ่งได้ถ่ายโอนให้เทศบาลตำบลแจระแมเมื่อปี 2546 ชำรุดเสียหาย เกิดการกัดเซาะจนไม่สามารถเก็บกักน้ำได้ เกิดการพังทะลายกว้างประมาณ 10 เมตรทำให้ปริมาณน้ำในอ่างไหลลงสู่พื้นที่ท้ายน้ำคือ ลำมูลน้อย แล้วไหลลงสู่แม่น้ำมูล ไม่มีบ้านเรือนประชาชนหรือพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ ทางโครงการชลประทานอุบลราชธานีได้แจ้งให้จังหวัด ปภ.จังหวัดและเทศบาลตำบลแจระแมทราบแล้ว

 จังหวัดอำนาจเจริญน้ำในลำเซบายและลำห้วยสาขาเพิ่มระดับสูงขึ้นจนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรลุ่มต่ำบริเวณอำเภอเมืองและอำเภอเสนางคนิคมรวมพื้นที่จำนวน 3,718 ไร่ ได้เร่งระบายน้ำออก หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม สถานการณ์จะเข้าสู่ปกติใน 3-4 วัน จังหวัดมุกดาหารมีน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนรวม 4 อำเภอได้แก่ อำเภอคำชะอี นิคมคำสร้อย ดอลตาล และอำเภอเมืองรวม 12,880 ไร่ กำลังเร่งสูบน้ำออก คาดว่า สถานการณ์จะเข้าสู่ปกติใน 1-2 วัน จังหวัดสกลนครน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนรวม 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโพนนาแก้วและโคกศรีสุพรรณ เนื่องจากระดับน้ำในลำน้ำก่ำยังคงเพิ่มสูงขึ้น โครงการชลประทานสกลนครติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 4 เครื่องบริเวณสะพานบ้านด่านม่วงคำ อำเภอโคกศรีสุพรรณ เพื่อเร่งการระบายน้ำในลำน้ำก่ำสู่พื้นที่ด้านท้ายน้ำและเรียงกระสอบทรายบริเวณพนังกั้นน้ำต่ำที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการไหลข้ามคันเข้าสู่พื้นที่การเกษตรบริเวณอำเภอโพนนาแก้ว 

จังหวัดสระแก้ว ฝนตกหนักบริเวณอุทยานแห่งชาติปางสีดา วัดได้ 174.4 มิลลิเมตร ทำให้น้ำท่วม 2 จุด ได้แก่ บริเวณสะพานคลองโป่งดาวเรือง กม.16+450 น้ำท่วมสูงประมาณ 40  เซนติเมตร มีน้ำท่วมสวนยูคาลิปตัสประมาณ 100 ไร่และบ้านเรือน 3 หลัง ปริมาณน้ำเริ่มลดลง หากไม่มีฝนตกจะเข้าสู่ปกติใน 1 วัน   จังหวัดชุมพรมีฝนตกหนักบริเวณต้นน้ำคลองชุมพรที่สถานีบ้านหนองตำเสา อำเภอเมืองชุมพรทำให้น้ำล้นตลิ่งที่คลองชุมพร บริเวณ สถานี X.53A บ้านวังไผ่ และสถานี X.201A บ้านท่าไม้ลาย โครงการชลประทานชุมพรติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 4 ชุด บริเวณตำบลวังไผ่ และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 4 ชุด บริเวณตำบลตากแดดเพื่อเร่งระบายน้ำออก 

จังหวัดระนอง น้ำในคลองน้ำจืดไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนหน้าตลาด บ้านน้ำจืด ตำบลน้ำจืด อำเภอกระบุรีเกิดผลกระทบต่อราษฎรประมาณ 100 หลังคาเรือน โครงการชลประทานระนองติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง ทางฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของชุมชนเพื่อช่วยเร่งการระบายน้ำออกจากพื้นที่ 

“กรมชลประทานระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าคลี่คลายสถานการณ์น้ำท่วมทุกพื้นที่และเฝ้าระวังทุกจุดเสี่ยงตามนโยบายของรัฐบาลและข้อสั่งการของรัฐมนตรีเกษตรฯ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1460 กรมชลประทานจะเข้าไปช่วยเหลือด่วนที่สุด” นายทองเปลว กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]