จากขุนเขา สู่…ศิลปาชีพ

กรุงเทพฯ 10 ส.ค.-งานหัตถศิลป์ของชาวไทยภูเขาเป็นที่ชื่นชอบของหลายคน วันนี้จะพาไปชมนิทรรศการ “จากขุนเขา สู่…ศิลปาชีพ” ที่จัดแสดงผลงานของชาวไทยภูเขาทั้ง 6 เผ่า ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงอนุรักษ์ไว้ให้คนไทยได้ชื่นชมเป็นครั้งแรก

ด้วยสายพระเนตรที่กว้างไกล ทรงเล็งเห็นวัฒนธรรมการแต่งกายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะกลุ่มของชาวไทยภูเขา งดงามทั้งการทอผ้า การปัก การเย็บ และการตัดปะ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงส่งเสริมให้ราษฎรชาวไทยภูเขารู้จักอนุรักษ์และสืบสานงานหัตถศิลป์ มรดกทางวัฒนธรรมที่เก่าแก่ให้คงอยู่ นอกจากสร้างรายได้ให้ครอบครัวแล้ว ยังช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่าด้วย มีพระราชดำริให้รับชาวไทยภูเขาเข้าเป็นสมาชิกศิลปาชีพกว่า 20,000 คน

เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี และในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคมปีนี้ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้จัดนิทรรศการ “จากขุนเขา สู่…ศิลปาชีพ” เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม-11 ตุลาคม ที่หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

นิทรรศการจัดแสดงทั้ง 5 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามหลากหลาย โดยเฉพาะชั้น 2 และ 3 มีเอกสารลายพระหัตถ์สมด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงบันทึกข้อมูลของราษฎรชาวไทยภูเขาที่มาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอย่างละเอียด แสดงถึงความใส่พระราชหฤทัยกับราษฎรทุกคน นอกจากนี้มีการนำเสนอโครงการพระราชดำริและโครงการศิลปาชีพในพื้นที่ชาวเขา 6 เผ่า ทั้งม้ง, กะเหรี่ยง, เย้า, ลีซอ, มูเซอ, และอีก้อ ผ่านศิลปกรรมสื่อผสมผ้าชาวเขาของแต่ละชาติพันธุ์

ที่สำคัญจะได้เห็นโต๊ะทรงงานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ขณะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่ต่างๆ และเพื่อให้ผู้เยือนได้สัมผัสกลิ่นอายของชาวไทยภูเขา งานนี้เตรียมชุดชาวไทยภูเขาเผ่าต่างๆ ให้เลือกแต่งกาย เพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึก นอกจากนี้ ยังจะได้เรียนรู้งานฝีมือหัตถกรรมของแต่ละชนเผ่าอีกด้วย

ย้อนเวลา ครั้งนั้นนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมพระราชินีนาถ ทรงชื่นชมในศิลปะที่ปรากฏอยู่บนเครื่องแต่งกายของชาวไทยภูเขาที่มาเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ เสื้อผ้า อาภรณ์ที่ผู้สวมใส่เพียรประดิษฐ์ขึ้นอย่างปราณีต บรรจง ทรงนำส่วนประกอบเล็กๆ ของงานหัตถศิลป์เหล่านั้นมาพัฒนา กลายเป็นงานที่ทรงคุณค่า ควบคู่ไปกับการกับพัฒนาคน ต่อยอดสู่ความสำเร็จ เป็นที่ยอมรับระดับสากล.-สำนักข่าวไทย