นายกฯ ขออย่ามองมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลเป็นการให้

พุทธมณฑล 28 ส.ค.-  นายกฯ ยืนยัน ทุกมาตรการในการแก้ปัญหา ครม.พิจารณารอบคอบทุกมิติ ขออย่ามองเป็นเรื่องการให้เพียงอย่างเดียว  ระบุ  เงินช่วยเหลือจ่ายตรงประชาชน ลดการแสวงหาผลประโยชน์  ย้ำ การใช้จ่ายงบฯ ต้องทำให้เหมาะสมและถูกต้อง      


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ให้สัมภาษณ์ ถึงการแก้ปัญหาภัยแล้งว่า คณะรัฐมนตรีได้หารือทุกเรื่องในทุกมิติ ให้เวลากับการพิจารณามาตรการต่างๆ ก่อนกำหนดออกมาใช้ จึงขออย่ามองว่า เป็นเรื่องการให้เพียงอย่างเดียว เพราะยังมีมาตราการอื่นๆ อีก ทั้งเรื่องการสร้างความเข้มแข็ง การปรับเปลี่ยนการเพาะปลูก การลดต้นทุนการผลิต  หากรัฐบาลไม่มีมาตรการใดๆ เลย ประชาชนก็จะไม่มีแรงจูงใจที่จะปรับเปลี่ยน

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า มาตรการประกันราคาผลผลิตทางการเกษตร แตกต่างจากการจำนำข้าว เพราะการประกันจะมีการกำหนดราคาแต่ละประเภทออกมา แต่การจำนำข้าวจะกำหนดที่ตันละ 15,000 บาททั้งหมด และอาจจะไม่ได้ใช้งบฯ จำนวนมากเหมือนที่คาดการณ์ไว้ เพราะขณะนี้ข้าวมีราคาสูงอยู่แล้ว และรัฐบาลจะดูแลไม่ให้เป็นภาระผูกพันงบฯ ในปีต่อไป 


“มาตรการเหล่านี้จะใช้ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น  ปีต่อไปจะพิจารณามาตราที่เหมาะสม มีความระมัดระวัง และไม่ทำให้เกิดความเสียหาย ส่วนข้อกังวลการทุจริต ก็ต้องไปตรวจสอบเมื่อดำเนินโครงการไปแล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว พร้อมย้ำว่า เงินช่วยเหลือในมาตรการต่างๆ ต้องจ่ายตรงให้กับประชาชน ลดการแสวงหาผลประโยชน์ เพื่อช่วยประชาชนทุกกลุ่มให้ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด บนหลักการใช้งบฯที่ถูกต้อง

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังแสดงความเป็นห่วงสภาพอากาศในขณะนี้  หลังจากผ่านพ้นช่วงภัยแล้งจะเข้าสู่ช่วงฝนตกหนัก ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีพายุโพดุล  ที่จะทำให้เกิดฝนตกหนัก และอาจเกิดน้ำท่วม แต่ก็ถือว่ายังทำให้น้ำไหลเข้าแหล่งกักเก็บน้ำ  จึงสั่งการให้เตรียมพร้อมรับมือดูแลประชาชน เตรียมพื้นที่รับน้ำและเก็บน้ำไว้ใช้  ย้ำต้องใช้แนวทางป้องกันการเกิดอุทกภัย เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

ส่วนปัญหาเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการให้ตรวจสอบ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน สิ่งสำคัญคือประชาชนที่ไม่ได้เดือดร้อน ต้องซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสำนึก หากมีเงิน มีที่ดิน ที่อยู่อาศัย ขออย่าเข้ามาใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพราะจะทำให้คนที่เดือดร้อนจริงเสียโอกาส  พร้อมย้ำว่า ทุกอย่างเป็นการใช้จ่ายงบฯ ที่ต้องทำให้เหมาะสมและถูกต้อง      . – สำนักข่าวไทย   


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ