ขอนแก่น 28 ส.ค. – รมว.เกษตรฯ เร่งทำฝนหลวงเติมน้ำเขื่อน เดินหน้าโครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อน เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมายังแก้มลิงแก่งน้ำต้อน อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่หน่วยฝนหลวงจังหวัดขอนแก่น โดยย้ำแก่นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรว่าในช่วงที่เหลือประมาณ 1 เดือนกว่าก่อนสิ้นสุดฤดูฝน ซึ่งความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศดัชนีค่าการยกตัวของเมฆ และความเร็วกระแสลมเหมาะสมนี้ให้ขึ้นบินปฏิบัติการทำฝนอย่างทั่วถึงทั้งประเทศ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือเขื่อนขนาดใหญ่บริเวณตอนกลางของภาคมีน้ำน้อย จึงต้องเพิ่มปริมาตรน้ำ
พร้อมกันนี้ยังได้แสดงความห่วงใยทั้งนักบิน นักวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ที่ขึ้นบินปฏิบัติงาน โดยย้ำให้ดูแลอากาศยานให้มีความปลอดภัย หากยังขาดเครื่องมือและอุปกรณ์ใด ๆ ขอให้รายงาน กระทรวงเกษตรฯ พร้อมสนับสนุน เนื่องจากเป็นภารกิจสำคัญ ส่วนปัญหาการขาดแคลนบุคลากรจะต้องแก้ไขแน่นอน แต่ระยะเร่งด่วนได้ประสานเหล่าทัพเข้ามาบูรณาการ ซึ่งได้รับการสนับสนุนทั้งอากาศยาน นักบิน และกำลังพล เพื่อลำเลียงสารฝนหลวง ซึ่งที่ผ่านมาทำให้สามารถบินปฏิบัติการได้บ่อยครั้งและทั่วถึงยังแก้มลิง
หลังจากนั้น นายเฉลิมชัย ได้เดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำแก่งน้ำต้อน อำเภอเมืองขอนแก่น และกำชับกรมชลประทานให้เร่งดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพการเก็บกักน้ำ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งในพื้นที่ ทั้งนี้ ปี 2561- 2562 กรมชลประทานได้รับงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงาน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) 400,000 บาท เพื่อศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นของโครงการฯ คาดว่าจะเสร็จเดือนกันยายน 2562 จากนั้นได้รับงบประมาณ 1,568,100 บาท เพื่อสำรวจขอบเขตโครงการ รวมถึงปี 2561 ได้รับงบประมาณ 200,000 บาท ในการออกแบบโครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อนระยะที่ 1 ปัจจุบันแก่งน้ำต้อนมีพื้นที่หนอง 6,196 ไร่ ตื้นเขิน ช่วงฤดูน้ำหลากเกิดปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่บริเวณที่ลุ่มต่ำรอบหนอง เนื่องจากพื้นที่หนองอยู่ติดกับลำน้ำชี ทำให้น้ำจากลำน้ำชีเอ่อล้นเข้าท่วมเป็นประจำ แต่ฤดูแล้งมักประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ เนื่องจากการกักเก็บน้ำไม่เต็มศักยภาพความจุ ทำให้ราษฎร 33,877 คนและพื้นที่การเกษตรโดยรอบกว่า 40,000 ไร่ ขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภค-บริโภค และการเกษตร ดังนั้น จึงต้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือราษฎร เมื่อมีน้ำเพียงพอจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องน้อมนำแนวทางเกษตรผสมผสานและทฤษฎีใหม่มาให้เกษตรกรปรับ เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืน
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน รายงานว่า โครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อนเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 2 ฝั่งลำน้ำชีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริเมื่อครั้งเสด็จพระราชทานปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2539 ความว่า “ลำน้ำชีในฤดูน้ำหลากน้ำท่วมพื้นที่สองฝั่ง ซึ่งเป็นห้วย หนอง บึง และพื้นที่สาธารณะมาก เมื่อถึงเวลาน้ำลด น้ำที่ท่วมพื้นที่ดังกล่าวก็ลดตามไปด้วยทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำตามเดิม จึงควรที่จะมีการสำรวจและหาวิธีเก็บกักน้ำให้อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการเพาะปลูก” และเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2540 มีพระราชดำริกับแม่ทัพภาคที่ 2 ความว่า “ให้ประสานงานกับกรมชลประทานหรือหน่วยงานอื่น ๆ ให้สำรวจพื้นที่อ่างรอบ ๆ จังหวัดขอนแก่น เพื่อพิจารณาขุดลอกอ่างเก็บน้ำเสริมคันดินกั้นน้ำให้สูง เพื่อให้เก็บน้ำได้มากในฤดูฝน ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการทำนาปรังได้ รวมทั้งช่วยป้องกันน้ำท่วมตัวเมืองขอนแก่นในฤดูที่มีฝนตกหนัก และนอกจากนั้นจะช่วยให้สามารถนำมาใช้ในโครงการเกษตรน้ำฝนตามทฤษฎีใหม่ได้”
สำหรับแก่งน้ำต้อนอยู่ในพื้นที่ตำบลเมืองเก่าและตำบลดอนช้าง อำเภอเมืองขอนแก่น ศักยภาพเก็บกักน้ำ 7.431 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบันมีสภาพตื้นเขิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบโครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อนระยะที่ 1 โดยมีแนวทางที่จะขุดลอกพื้นที่บึงแก่งน้ำต้อนพร้อมปรับปรุงคันดินโดยรอบ 6,196 ไร่ ก่อสร้างอาคารบังคับน้ำ 9 แห่ง และก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบส่งน้ำอีกกว่า 50 กิโลเมตร จะทำให้ปริมาณน้ำเก็บกักน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิม 7 ล้าน ลบ.ม. เป็น 41 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มพื้นที่ชลประทานให้ครอบคลุม 40,000 ไร่ เป็นแหล่งรองรับน้ำและเก็บกักน้ำที่สำคัญของลำน้ำชี เพื่อช่วยลดปัญหาน้ำท่วมและปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคของราษฎร ทั้งยังเก็บกักน้ำไว้สำหรับสนับสนุนการเพาะปลูกในพื้นที่การเกษตร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฎรในพื้นที่ให้ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย