ร่วมแต่งดำให้กำลังใจ ผอ.รร.กรุงเทพคริสเตียน ถูกปลด

รร.กรุงเทพคริสเตียน 27 ส.ค.-ผู้ปกครอง-ศิษย์เก่า รร.กรุงเทพคริสเตียน ร่วมแต่งดำให้กำลังใจ ผอ.โรงเรียน หลังถูกปลดไม่ทราบสาเหตุ


เช้าวันนี้ (27ส.ค.) คณะครูอาจารย์ ศิษย์ปัจจุบัน ตัวแทนผู้ปกครอง รวมถึงศิษย์เก่าของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ในนามองค์กร Save BCC รวมตัวเดินทางไปให้กำลังใจ นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โดยทั้งหมดแต่งกายด้วยชุดสีดำ เพื่อแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ว่า ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของสภาคริสตจักร ที่ปลด ผอ.โดยไม่ทราบเหตุผลที่ชัดเจน 


โดยทั้งหมดรวมตัวกันบริเวณทางเดินเท้าโดยรอบโรงเรียน ตั้งแต่เวลา 06.30 น.จุดหลักรวมกันอยู่ที่บริเวณด้านหน้าประตูหอธรรม ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ โดยเริ่มกิจกรรมด้วยการร้องเพลงโรงเรียน ในเวลา 07.15 น.


จากนั้นเวลา07.20 น.นายบรรจง ชมพูวงษ์ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ออกมารับหนังสือแถลงการณ์จากตัวแทนองค์กรที่หน้าประตูโรงเรียน ก่อนที่ทั้งหมดจะประกาศแยกย้าย และแจ้งว่าหลังการการสืบสวนผลความผิดของคณะกรรมการสอบสวนที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 7 ก.ย. จะกลับมาหารือถึงแนวทางในการเคลื่อนไหวต่อไป

นายบรรจง กล่าวหลังรับหนังสือจากตัวแทนองค์กร BCC ว่า ยืนยันไม่ได้ปิดโรงเรียนเพื่อหนีปัญหาตามที่ถูกกล่าวหา ตลอด 20 ปีที่อยู่ที่นี่ไม่เคยได้รับการสั่งสอนให้หนีปัญหา แต่ที่สั่งปิดเนื่องจากมีความคิดเห็นที่แตกต่าง เกรงว่าจะนำไปสู่การเข้าใจที่ผิดได้ ซึ่งระหว่างที่กล่าวก็มีบรรดาศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันตะโกนทวงถามความจริง สลับโห่ไล่ จนต้องรีบพาตัวนายบรรจงกลับเข้าไปในโรงเรียน

ขณะที่นายกวิน สัณฑกุล ตัวแทนกลุ่มองค์กร SAVE BCC กล่าวว่า การรวมตัวกันในนามองค์กร save BCC ต้องการเรียกร้องให้โรงเรียนดำเนิน การตามพันธกิจของโรงเรียน ซึ่งตามโครงสร้างคณะกรรมการบริหารจะ ต้องมีความเป็นอิสระในการบริหารและถ่วงดุลโดย ผู้ปกครอง ครู โดย โรงเรียนไม่ควรถูกแทรกแซงจากองค์กรภายนอก ที่ผ่านมา 167 ปี ที่ก่อตั้งโรงเรียนมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาก่อน ซึ่งในการสอบสวนข้อเท็จจริง อยากเรียกร้องให้ดำเนินไปโดยหลักธรรมาภิบาลและกระบวน การสอบสวนที่เป็นธรรม มีการแจ้งข้อกล่าวหาที่พอเพียงและดำเนินการโดยบุคคลที่เป็นกลาง เปิดโอกาสให้ กลุ่มผู้มีส่วนได้เสียเข้ามามีส่วนร่วมสังเกตการณ์

นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจทำกับดูแล มาเป็นองค์กรกลาง ในการหาข้อยุติของกรณีปัญหาเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการตรวจสอบตามหลักธรรมาภิบาลและประโยชน์ของความเป็นธรรมรวมทั้งขอให้มีการทบทวนคณะกรรมการบริหารโรงเรียนและผู้เข้ามาดำรงตำแหน่งรักษาการ ให้เป็นที่ยอมรับของคณะครูและนักเรียน 

ส่วนการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงความผิดของผู้จัดการและผอ.โรงเรียน รวมถึงเรื่องการจัดซื้อที่ดินที่ จ.บึกาฬ มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท จะใช้เวลาสอบ 30 วัน คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณวันที่ 7 ก.ย.นี้ หลังจากนั้นจะติดตามผล และมาหารือกับเครือข่ายอีกครั้งเพื่อกำหนดการเคลื่อนไหวอีกครั้ง

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว สืบเนื่องมาจากกรณีที่สภาคริสตจักรในประเทศไทยและคณะกรรมการบริหารโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้กล่าวโทษนายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และนายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ผู้จัดการ ว่ามีการบริหารงานผิดพลาดไม่ปฏิบัติตามกฏตามธรมนูญแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย นั้น สภาคริสตจักรในประเทศไทยได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้น  โดยยังไม่ปรากฏฐานความผิดตามข้อกล่าวหาที่ชัดเจน และคณะกรรมการสภาคริสจักรในประเทศไทยได้ดำเนินการออกคำสั่งย้าย นานศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการ และ นายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ผู้จัดการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยไปปฏิบัติงานประจำสำนักงานพันธกิจศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ โดยคำสั่งดังกล่าวให้มีผลทันทีในวันที่ออกคำสั่งเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น ประชาคม BCC หลายฝ่ายต่างมีข้อกังขาในการดำเนินการดังกล่าวของคณะผู้บริหารสภาคริสจักรในประเทศไทย เนื่องจากในการสอบสวนเพื่อพิจารณา และค้นหามูลความผิดซึ่งได้กล่าวหาไว้นั้น ควรจะดำเนินการโดยบุคคล ซึ่งมีความน่าชื่อถือว่าจะดำเนินการด้วยความยุติธรรมและเป็นกลาง ไร้ซึ่งข้อกังขา หรือโอนอียงต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นฝั่งผู้กล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวหา

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับสร้างเงื่อนไข และข้อสงสัยต่อสังคมกรุงเทพคริสเตียนมากมาย เนื่องจากคณะกรรมการผู้ดำเนินการสอบสวน ประกอบไปด้วยบุคคลผู้ตั้งข้อกล่าวหาด้วยตนเอง และคณะบุคคลผู้ที่ได้มีส่วนได้เสียในประเด็นกล่าวหาโดยตรง และได้มีคำสั่งพักงานหรือโยกย้ายงานซึ่งอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารเป็น กลุ่มคนของตนเอง

ที่สำคัญคือไม่ได้ยึดผลประโยชน์ของนักเรียน ผู้ปกครองและครู ของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนฯ นอกจากนี้ผู้ดำรงตำแหน่งรักษาการทั้งสองตำแหน่ง ยังเป็นบุคคลคนเดียวกัน ดำเนินการควบทั้งสองตำแหน่ง  และไม่ได้การยอมรับจากคณะครูและนักเรียนแม้จะได้มีการเจรจาและยื่นเรื่องอุทธรณ์เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแล้วก็ยังมีการดำเนินการต่อไป.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ