กรุงเทพฯ 26 ส.ค.- นายกรัฐมนตรีเปิดประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน หวังนิติบัญญัติช่วยฝ่ายบริหารขับเคลื่อนประเทศสมาชิกอาเซียน ระบุปัญหาที่เกิดขึ้น ต้องใช้กฎหมายและปรับจิตสำนึกไปด้วยกัน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ครั้งที่ 40 พร้อมกล่าวต้อนรับคณะผู้แทนรัฐสภากลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ตอนหนึ่งว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมในครั้งนี้ พร้อมกับคณะผู้แทนจากรัฐสภาประเทศสมาชิก ตัวแทนจากประเทศผู้สังเกตการณ์ และตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งทุกคนมีส่วนช่วยขับเคลื่อนประชาคมอาเซียน ให้บรรลุผลสำเร็จตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี AIPA เป็นองค์กรคู่ขนาน ที่เติบโตเคียงข้างกับอาเซียนมาอย่างยาวนาน และช่วยเติมเต็มการทำงานของฝ่ายบริหารผ่านกระบวนการทางนิติบัญญัติ และมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เสาหลักที่ 3 คือ เสาแห่งประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ซึ่งมีประชาชนเป็นรากฐานสำคัญ
“ฝ่ายบริหารของอาเซียนจำเป็นต้องพึ่งพา AIPA ในการส่งต่อนโยบายให้ถึงประชาชน ด้วยความร่วมมือและการสนับสนุนจากภาคนิติบัญญัติ นโยบายต่างๆ จึงเกิดขึ้นได้และประสบความสำเร็จ ขอขอบคุณพลังขับเคลื่อนอาเซียนจากภาคนิติบัญญัติจากสมาชิกรัฐสภาทุกท่าน รวมถึง มิตรไมตรีจากหุ้นส่วนความร่วมมือของประเทศผู้สังเกตการณ์ ที่ร่วมสนับสนุนองค์กรให้มีความก้าวหน้าก้าวไกลในวันนี้ พร้อมทั้งได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และให้คำแนะนำที่ดีมาโดยตลอด” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบัน อาเซียนต้องเผชิญความท้าทายอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการค้ามนุษย์ อาชญากรรม หรือสิ่งแวดล้อม จึงรู้สึกยินดีที่ได้ทราบว่า AIPA ได้ร่วมมือกันผลักดันภูมิภาคอาเซียนให้เป็นประชาคมที่ยั่งยืน ขอให้ทุกคนให้ความสำคัญกับ AIPA และให้การสนับสนุนในการทำงานเพื่อสอดคล้องกับการทำงานของรัฐบาลและรัฐสภา
“ยืนยันว่า ไทยพร้อมสนับสนุนการทำงานของเลขาธิการอาเซียน สมัชชารัฐสภาอาเซียน ส่งเสริมความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนประชาคมอาเซียน เมื่อร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม และสร้างความก้าวหน้าในทุกมิติ ในนามของนายกรัฐมนตรีและประธานอาเซียน สิ่งใดที่สามารถเห็นชอบร่วมกันก็ดำเนินการ แต่หากเรื่องใดที่มีปัญหาก็ ขอให้นำไปสู่การพูดคุย เพื่อให้มีผลสัมฤทธิ์ร่วมกันออกมา” นายกรัฐมนตรี กล่าว . – สำนักข่าวไทย