เหตุไกด์ทะเลาะกัน ชดใช้ 2.5 หมื่น ปรับ 1,000 บาท

ปทุมธานี 24 ส.ค.-หลังมีคลิปไกด์ชาวจีนทำร้ายไกด์ไทย แพร่สะพัดในโซเชียล ทำให้ตำรวจต้องเรียกคู่กรณีมาไกล่เกลี่ย แต่เรื่องยังไม่จบ เพราะมีเสียงสะท้อนว่าปัญหานี้ส่งผลถึงธุรกิจท่องเที่ยวและไกด์อาชีพหรือไม่


นี่เป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดภายในรถบัสนำเที่ยวนักท่องเที่ยวชาวจีนปรากฏภาพไกด์จีนผู้ชายใส่ชุดดำ มีปากเสียงกับผู้ช่วยไกด์สาวชาวไทย ก่อนบานปลายจนมีการทำร้ายร่างกายกัน  เมื่อคลิปนี้เผยแพร่สู่โซเชียลก็กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ส่วนอีกคลิปเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากคลิปแรก เหตุเกิดบริเวณลอบบี้โรงแรมแห่งหนึ่งที่ยังคงมีปากเสียงและมีการพยายามทำร้ายร่างกาย


ทีมข่าวสำนักข่าวไทยตรวจสอบพบว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา มีข้อมูลว่าไกด์ทั้งสองคน รู้จักและทำงานด้วยกันมาหลายปี วันเกิดเหตุมีเรื่องไม่พอใจกัน และตัดสินใจจะไม่ร่วมงานกันต่อไป ผู้ช่วยไกด์สาวไทยจึงทวงของที่ไกด์จีนยืมไป ทั้งสร้อยทองและแหวน จนเกิดมีปากเสียงและทำร้ายร่างกายกัน ซึ่งผู้ช่วยไกด์ชาวไทยได้แจ้งความไว้ที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ตั้งแต่ 17 สิงหาคมที่ ผ่านมา 


วันนี้พนักงานสอบสวนเรียกผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เข้าให้ปากคำ ทั้งผู้ช่วยไกด์ชาวไทยที่ถูกทำร้าย ไกด์ชาวจีนที่ก่อเหตุ และตัวแทนบริษัทท่องเที่ยว พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเปิดเผยว่า คดีนี้เป็นคดีลหุโทษ คู่กรณีเจรจายอมความกันได้ โดยผู้ก่อเหตุชดใช้ค่าเสียหาย 2.5 หมื่นบาท ให้แก่ผู้เสียหาย เบื้องต้นแจ้ง 2 ข้อหา ทำร้ายร่างกายไม่เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจและข้อหาข่มขู่ทำให้เกิดความหวาดกลัว โดยเปรียบเทียบปรับ 1 พันบาท ก่อนปล่อยตัว

มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว หนึ่งในไกด์อาชีพ ให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้น ที่เคยมีจะเป็นลูกทัวร์หรือนักท่องเที่ยวทะเลาะกันเอง อยากให้ตรวจสอบให้ชัดเจนถึงสาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้น หากเป็นเรื่องส่วนตัว ก็ไม่อยากให้เหมารวมไปถึงอาชีพไกด์ทั้งหมด ไกด์อาชีพยังให้ข้อมูลอีกว่าปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวเองมากขึ้น นักท่องเที่ยวมากับทัวร์ลดลง ส่งผลให้บริษัททัวร์มีการแข่งขันสูง ทั้งการหั่นราคาแพ็คเกจทัวร์ให้ถูกลง ใส่โปรแกรมชอปปิ้งตามร้านค้าต่างๆ ไกด์เองก็ต้องปรับตัวเช่นกัน เนื่องจากจำนวนทัวร์ที่น้อยลง ส่งผลรายได้ของไกด์หายไปถึงร้อยละ 50 ต่อเดือน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ อาทิ จัดอบรมเพิ่มทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศ เนื่องจากการพาชมสถานที่ประวัติศาสตร์ของไทยต้องมีใช้ภาษาบรรยายที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม มีเสียงสะท้อนจากไกด์ไทย ท่ามกลางสภาพการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากส่งผลกระทบกับธุรกิจนำเที่ยว กรุ๊ปทัวร์ ยังมีไกด์อาชีพชาวไทยเองที่ส่วนใหญ่เป็นไกด์อิสระกำลังได้รับผลกระทบเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ไกด์ไทย-จีนตบตีกันบนรถทัวร์เข้าพบตำรวจ

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

อดีตผู้บังคับบัญชา “ผู้กำกับโจ้” เผยสมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร

อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดประวัติอดีตผู้กำกับโจ้ สมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร เชื่อได้รับผลกรรมที่ทำแล้ว

ข่าวแนะนำ

ผู้กำกับโจ้ตาย

ครอบครัวยื่น DSI สอบการตายอดีต ผกก.โจ้-ยันไม่เคยมอบ “อัจฉริยะ” มาดูแลคดี

ครอบครัวยื่นคำร้อง DSI ตรวจสอบหาสาเหตุการตาย อดีตผู้กำกับกับโจ้ เข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหายหรือไม่ ย้ำยังเชื่อใจตำรวจแต่ต้องการให้หน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบหาข้อมูลข้อเท็จจริงด้วย พร้อมระบุไม่เคยมอบหมายให้ “อัจฉริยะ” เข้ามาดูคดีการตาย ของอดีตผู้กำกับโจ้แต่อย่างใด

ดูเตอร์เตถูกจับ

“โรดดิโก ดูเตอร์เต” ถูกจับกุมปมสงครามยาเสพติด

นายโรดริโก ดูเตอร์เต อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ถูกตำรวจเข้าจับกุมตามหมายจับศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ไอซีซี จากกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชนในระหว่างการทำสงครามกับยาเสพติด

ผู้กำกับโจ้

“ทวี” ยันไม่ปกป้องคนผิดคดี “อดีต ผกก.โจ้” ยังไม่ย้าย ผบ.คุก

“ทวี” ยัน ไม่ปกป้องคนผิด คดีอดีต ผกก.โจ้ ยันกฎหมายอยู่เหนือระเบียบราชทัณฑ์ ยังไม่ย้าย ผบ.คุก ให้รอผลสอบสวน พร้อมโชว์สื่อเปิดวงจรปิดฉบับเต็ม