นนทบุรี 2 ก.ค. – เคลียร์จบ! ตำรวจชดใช้ค่าซ่อมกำแพงรั้วบ้านให้ผู้เสียหาย 9,000 บาท กรณีตำรวจขับรถไล่ตามรถผู้ต้องสงสัย ทำให้รถผู้ต้องสงสัยเสียหลักพุ่งชนกำแพงบ้านหลังหนึ่งใน อ.บางกราย จ.นนทบุรี
ความคืบหน้าจากกรณีเพจ Social Hunter 2022 โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า “เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ตำรวจขับรถไล่ตามรถผู้ต้องสงสัย ทำให้รถผู้ต้องสงสัยเสียหลักพุ่งไปชนกำแพงบ้านหลังหนึ่ง และทิ้งรถไว้แล้ววิ่งหลบหนีไป ล่าสุดเจ้าของบ้านไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว แต่ยังหาคนมารับผิดชอบค่าซ่อมแซมกำแพงบ้านไม่ได้ ปกติที่หน้าบ้านจะเปิดร้านขายขนมเครปญี่ปุ่น แต่พอกำแพงบ้านพังเสียหาย ทำให้ลูกค้าไม่กล้าเดินเข้าร้านด้วย”
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านหลังนดังกล่าวใน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พบ น.ส.นิภา อายุ 34 ปี เจ้าของร้านเครป ผู้เสียหาย นำผู้สื่อข่าวดูรั้วปูนที่ได้รับความเสียหาย พบว่ากำแพงบ้านอยู่ห่างจากถนนหลวง ซอยผดุงสวัสดิ์ ประมาณ 3 เมตร กำแพงรั้วแตกเสียหายทั้งแผงกว้าง 3 เมตร สูง 1.5 เมตร และกำแพงที่ติดกันมีรอยร้าว เสากำแพงแตก คาดว่าน่าจะต้องทำการซ่อมใหม่ถึง 2 ช่องกำแพง ผ่านมาหลายวัน สภาพกำแพงยังพังเสียหายเหมือนเดิม
น.ส.นิภา เปิดเผยว่า เหตุเกิดวันพุธที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 07.00 น. ขณะเกิดเหตุตนอยู่บนบ้าน ตอนแรกได้ยินเสียงรถหวอตำรวจก่อน นึกว่าเป็นรถพยาบาล สักพักได้ยินเสียงดังโครมและเสียงคนตะโกนโหวกเหวกโวยวายว่าหยุดๆ ตนจึงเปิดหน้าต่างแล้วลงมาเห็นรถคนร้ายคาอยู่ที่กำแพง มีรถตำรวจอยู่ข้างๆ เบื้องต้นทราบว่ารถตำรวจชนท้ายรถผู้ต้องสงสัย ทำให้รถผู้ต้องสงสัยเสียหลักมาชนกำแพงบ้านตน จากนั้นคนร้ายวิ่งหนีไป
หลังเกิดเหตุถึงเดินทางไปถามร้อยเวร ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป เขาบอกว่าต้องรอประกันของตำรวจ เพราะวันนั้นประกันของรถคนร้ายไม่ได้มา และเป็นฝ่ายคนร้ายแล้วที่จะต้องชดใช้ค่าเสียหายตรงนี้ แล้วคนร้ายหนีไปแล้ว ตนจะทำอย่างไร จึงต้องร้องสื่อ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ผู้ทรงคุณวุฒิประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และประธาน กต.ตร. จังหวัดนนทบุรี ได้พาได้พานายจิระศักดิ์ และ น.ส.นิภา 2 สามีภรรยาผู้เสียหาย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ภาสกร กิตติวณิชานนท์ รอง ผกก.ป.สภ.ปลายบาง เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว หลังจากพูดคุยร่วม 30 นาที จึงได้ข้อสรุป โดย ดร.แก้ว ช่วยเหลือและมอบเงินเพื่อซ่อมแซมรั้วให้ผู้เสียหายจำนวน 9,000 บาท.-สำนักข่าวไทย
