นายกฯ เตรียมมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2562

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.-นายกฯ เตรียมมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2562 พร้อมผลักดันแบรนด์ไทยสู่สากล ย้ำให้ความสำคัญพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการในการแข่งขัน ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าและบริการคุณภาพสูงในอาเซียน


นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นประธานมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2562 (Prime Minister’s Export Award 2019) ในวันที่ 26 สิงหาคม 2562 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล  โดยจะมีการมอบรางวัลแก่ผู้ประกอบการไทยทั้งหมด 7 ประเภทรางวัล ได้แก่ 1.รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter) สำหรับผู้ผลิตหรือผู้ส่งออกสินค้าไทยที่มีคุณภาพ พัฒนาผลิตภัณฑ์และภาพลักษณ์ที่ดี 2.รางวัลสินค้านวัตกรรมยอดเยี่ยม (Best Innovation) สำหรับบริษัทที่ผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ มีนวัตกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มีการพัฒนากระบวนการผลิตหรือการค้นหาวัสดุใหม่ ๆ มีกระบวนการผลิตที่ลดการใช้พลังงานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นางนฤมล กล่าวว่า 3.รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand) สำหรับผู้ส่งออกไทยภายใต้ตราสินค้าตนเอง 4.รางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design) สำหรับสินค้าที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม 5.รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise Award) ประกอบด้วย 3 สาขา คือ สาขาดิจิทัลคอนเทนท์และซอฟต์แวร์  สาขาธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ สาขาโลจิสติกส์สินค้า 6.รางวัลสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม (Best OTOP) สำหรับสินค้าชุมชนที่โดดเด่นทั้งคุณภาพและการพัฒนาสู่ตลาดต่างประเทศ และ 7.รางวัลสินค้าฮาลาลยอดเยี่ยม (Best Halal) สำหรับสินค้าฮาลาลเพื่อการส่งออก ที่ผลิตถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามมีคุณภาพและมาตรฐานสากลยอดเยี่ยม  โดยปีนี้จะมีผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่นที่ได้รับรางวัลทั้งสิ้น 34 ราย


“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญและเป็นนโยบายหลักในการพัฒนาผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยนวัตกรรม สนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและตลาด เพื่อผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าและบริการคุณภาพสูง ทั้งในอาเซียนและภูมิภาค” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง