ญี่ปุ่น 20 ส.ค. – หอการค้าไทยประเมินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบทันทีสิงหาคม-กันยายน 23,000 ล้านบาท หากสามารถทำได้ทุกมาตรการจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 3-3.5
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า เตรียมจะปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2562 ใหม่ จากเดิมคาดไว้ร้อยละ 3-3.5 หลังเศรษฐกิจครึ่งปีแรกขยายตัวได้เพียงร้อยละ 2.6 ถือว่าเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณชะลอตัวลงและในช่วงครึ่งปีหลังยังมีความเสี่ยงจากสงครามการค้ากระทบต่อการส่งออกของไทย และสถานการณ์การเมืองจะทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคชะลออีก
ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ วงเงินรวม 200,000 -300,000 ล้านบาท ประเมินว่าจะมีเม็ดเงินถูกใช้ทันทีในช่วงเดือน สิงหาคม -กันยายนอย่างน้อยประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาทผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และน่าจะมีการโอนให้เกษตรกรช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยไม่ทรุดตัวลงไปอย่างรวดเร็ว และหากผลจากนโยบายการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เช่น สินเชื่อเอสเอ็มอี สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่อธุรกิจทั่วไป หากสามารถระดมการปล่อยสินเชื่อไตรมาส 4 อย่างน้อย 50,000-100,000 ล้านบาท ทำให้คาดว่าจะมีวงเงินที่ใช้ช่วงครึ่งปีหลังสูงถึง 100,000-200,000 ล้านบาท มีโอกาสจะผลักให้เศรษฐกิจไตรมาส 4 ขยายตัวขึ้นร้อยละ 3.5-4 ส่งผลให้ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวอยู่ในกรอบประมาณร้อยละ 3-3.5
ทั้งนี้ มีข้อเสนอว่าภาครัฐควรมีมาตรการอื่น ๆ เสริม เช่น การประกันรายได้เกษตรกร โดยเฉพาะยางพารา และมาตรการช้อปช่วยชาติ มาตรการเร่งรัดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขับเคลื่อนการจับจ่ายใช้สอยในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น และดูแลค่าเงินบาทให้ทรงตัวไม่หลุด 30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ.-สำนักข่าวไทย