นนทบุรี 18 ส.ค. – กระทรวงพาณิชย์เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอฟทีเอ ไทย – ตุรกี ครั้งที่ 6 สิงหาคมนี้ เน้นหารือเปิดตลาดสินค้าและลดภาษีศุลกากร ตั้งเป้าสรุปผลเจรจาปี 63
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมเจรจาความตกลงการค้าเสรีเอฟทีเอ ไทย – ตุรกี ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 26 – 28 สิงหาคม 2562 ที่ กรุงเทพฯ โดยการเจรจาครั้งนี้จะเน้นหารือรายละเอียดเพื่อให้การเจรจาเปิดตลาด ลดและยกเลิกภาษีศุลกากรระหว่างกันมีความคืบหน้า หลัง 2 ฝ่ายสามารถแลกเปลี่ยนรายการสินค้าที่ต้องการให้แต่ละฝ่ายเปิดตลาดให้แก่กันแล้ว นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายจะพูดคุยเพื่อหาข้อสรุปหรือผลักดันประเด็นค้างจากการเจรจารอบที่ผ่านมาให้คืบหน้า เช่น การค้าสินค้า ความโปร่งใส กฎถิ่นกำเนิดสินค้า มาตรการเยียวยาทางการค้า เป็นต้น โดย 2 ประเทศตั้งเป้าสรุปผลการเจรจาให้ได้ภายในปี 2563
นางอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยให้ความสำคัญกับการจัดทำเอฟทีเอระหว่างไทยกับตุรกี เนื่องจากตุรกีถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพของไทย มีประชากรกว่า 80 ล้านคน และมีนักท่องเที่ยวกว่า 40 ล้านคน ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์การค้าที่สำคัญ ซึ่งไทยสามารถใช้เป็นประตูสู่ 3 ทวีป ได้แก่ เอเชีย แอฟริกา และยุโรป ซึ่งการเพิ่มความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้ากับตลาดใหม่ที่มีศักยภาพเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน โดยคาดว่าการจัดทำความตกลงเอฟทีเอ ไทย – ตุรกี จะช่วยผลักดันให้มูลค่าการค้า 2 ฝ่ายขยายตัวได้ถึง 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2565 ซึ่งสินค้าสำคัญที่คาดว่าไทยน่าจะได้รับประโยชน์จากเอฟทีเอ เช่น สิ่งทอ ยานยนต์และชิ้นส่วน เคมีภัณฑ์อินทรีย์ พลาสติกและผลิตภัณฑ์จากพลาสติก ยางและผลิตภัณฑ์จากยาง หม้อไอน้ำ เครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผักและผลไม้เมืองร้อน เป็นต้น
ทั้งนี้ ตุรกีเป็นคู่ค้าอันดับที่ 36 ของไทยในตลาดโลก และเป็นอันดับ 4 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยครึ่งปีแรกปี 2562 ไทยและตุรกีมีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 703.94 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการส่งออกจากไทยไปตุรกี มูลค่า 465.02 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากตุรกี มูลค่า 238.93 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย เช่น เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยางพารา เส้นใยประดิษฐ์ เมล็ดพลาสติก และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น สินค้านำเข้าสำคัญของไทย เช่น เคมีภัณฑ์ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย