BIG STORY : เปิดรายละเอียดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

กรุงเทพฯ 16 ส.ค. – มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 3 ด้านหลักในระยะเร่งด่วน รวมเม็ดเงินที่จะเข้าสู่ระบบ 316,000 ล้านบาท มี 3 กลุ่มที่ให้การช่วยเหลือ ทั้งเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ผู้มีรายได้น้อยถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่จะได้ค่าครองชีพเพิ่มเติม และกระตุ้นการใช้จ่ายอุปโภคบริโภคต่างๆ ภายในประเทศ


สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกรจากปัญหาภัยแล้ง มีการปรับลดดอกเบี้ยสำหรับลูกค้า ธ.ก.ส. เป็นเวลา 1 ปี ปล่อยสินเชื่อฉุกเฉิน รายละไม่เกิน 50,000 บาท ฟรีดอกเบี้ยปีแรก วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อฟื้นฟูความเสียหายจากผลกระทบภัยแล้ง รายละไม่เกิน 500,000 บาท วงเงินรวม 5,000 ล้านบาท ขยายเวลาชำระหนี้เงินกู้ ธ.ก.ส. เพื่อช่วยเหลือต้นทุนการผลิตกับชาวนา ปีการผลิต 2562/2563 ที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรฯ 3 ล้านคน


ส่วนมาตรการเพิ่มค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อย ทุกคนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14.5 ล้านคน จะได้รับเงินพิเศษเพิ่มคนละ 500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน คือ สิงหาคมและกันยายน รวมเงินเดิมที่จะได้รับเป็น 1,000 บาท ผู้สูงอายุถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับเดือนละ 500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน และเงินเลี้ยงดูบุตรสำหรับผู้ถือบัตรฯ ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปี จะได้รับเดือนละ 300 บาท/คน รวม 2 เดือนเช่นกัน


สำหรับมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายอุปโภคบริโภคในประเทศ เน้นไปที่การกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ โดยเห็นชอบแจกเงิน 1,000 บาท ให้ใช้ท่องเที่ยวจังหวัดนอกเขตภูมิลำเนา แต่มีเงื่อนไข คือ ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป เป้าหมายวางไว้ 10 ล้านคน และต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิผ่านแอปฯ ที่กระทรวงการคลังจัดทำขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการเดินทางท่องเที่ยวมาขอเงินคืนได้อีก 15% ของค่าใช้จ่าย แต่วงเงินต้องไม่เกิน 30,000 บาท และยังเสนอยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวจีนกับอินเดียเพิ่มเติม

ส่วนการส่งเสริมการลงทุนในประเทศ สำหรับผู้ที่ซื้อเครื่องจักรสามารถนำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า เป็นเวลา 5 ปี รวมถึงช่วยเหลือเอสเอ็มอีรายย่อยในมาตรการต่างๆ ผ่านกองทุนของรัฐบาล ทั้งจากธนาคารออมสินและกรุงไทย โดยมี บสย.ช่วยค้ำประกัน รวมถึงมาตรการสินเชื่อบ้าน จะปรับมาเป็นเงื่อนไขผ่อนปรน โดยมีธนาคารออมสิน และ ธอส. พร้อมปล่อยสินเชื่อ วงเงินรวม 52,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ภาพรวมทั้งหมดทั้งมวลจะต้องผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้งในสัปดาห์หน้า. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

กทม.ขยายระยะเวลา WFH ต่อเนื่องถึง 24 ม.ค.68

กทม.ขยายระยะเวลา WFH ต่อเนื่องจนถึง 24 ม.ค.68 เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นมีแนวโน้มสูงทั้งสัปดาห์ โรงเรียนสังกัด กทม. ผู้บริหารใช้ดุลยพินิจปิดโรงเรียนตามสถานการณ์ แจ้งปิดการเรียนแล้ว 21 แห่ง

ทรัมป์สาบานตน

VOA ส่งตรงจากสหรัฐ : คำมั่นของผู้นำ และเสียงจาก ปชช. เมื่อ ‘ทรัมป์’ หวนคืนทำเนียบขาว

พิธีปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในปี 2025 มีขึ้นภายใต้เงื่อนไขและบรรยากาศที่แตกต่างไปจากหลายปีที่ผ่านมาในหลายรูปแบบ ท่ามกลางประชาชนที่หลั่งไหลมารับชมการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในครั้งนี้ คุณเยี่ยมยุทธ สุทธิฉายา ผู้สื่อข่าววีโอเอไทยนำความเคลื่อนไหวทั้งในอาคารรัฐสภาสหรัฐ และเสียงของประชาชนผู้มาร่วมงานมานำเสนอ

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ