กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-พล.ต.อ.ศรีวราห์ รอง ผบ.ตร. ยืนยันส่งสำนวนคดีระเบิดให้อัยการได้ทันตามกรอบระยะเวลา 84 วัน มั่นใจพยานหลักฐานเอาผิดถึงผู้บ่งการได้ เตรียมพิจารณาข้อหาก่อการร้าย ยันยังไม่มีการโอนสำนวนให้กองปราบปราม
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมพนักงานสอบสวนคดีระเบิดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดนนทบุรี พร้อมยืนยันว่าในฐานะที่รับผิดชอบงานสอบสวนและคดีเกี่ยวกับความมั่นคง ตามคำสั่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่มอบหมายตั้งแต่ปี 2561 จึงเรียกพนักงานสอบสวน ตรวจสอบสำนวนคดี ส่วนจะมีการโอนสำนวนคดีนี้ ให้กองปราบปรามรับผิดชอบหรือไม่ เป็นอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่วนการสืบสวนคดี เป็นหน้าที่ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและคณะทำงานที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่งตั้งขึ้นมาเอง
โดยเบื้องต้น มีการออกหมายจับไปแล้ว 9 หมายจับ แบ่งเป็น หมายจับของสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน 2 หมาย หมายจับของสถานีตำรวจนครบาลพญาไท 5 หมาย และหมายจับของสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง 2 หมาย รวมผู้ต้องหา 6 คน จับได้แล้ว 2 คน ฝากขังศาลอาญาไปแล้วเมื่อวานนี้ ในคดีที่เกิดท้องที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ส่วนอีก 4 คน อยู่ระหว่างการติดตามตัว ยืนยัน หมายจับที่ออกทั้งหมด มีตัวตน เลข 13 หลัก ไม่ใช่การออกหมายจับตามภาพ และบางคน พบเคยมีประวัติการก่อเหตุความไม่สงบ
ส่วนคดีที่เกิดขึ้น จะเข้าข่ายต้องแจ้งข้อกล่าวหาก่อการร้ายเพิ่มเติมหรือไม่ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาพยานหลักฐาน และผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ว่าเข้าข่ายหรือไม่ พร้อมเชื่อว่าพยานหลักฐานที่มีสามารถเอาผิดไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังได้
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังปฏิเสธจะให้ความเห็น เกี่ยวกับกรณีมีกระแสข่าวควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 18 คน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยบอกเพียงว่า เป็นรายละเอียดในสำนวนคดีความมั่นคง ไม่สามารถเปิดเผยได้
ขณะเดียวกัน จะเร่งรัดผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ เช่น ในส่วนของรถยนต์ มีการตรวจไปแล้ว 17 คัน ซึ่งแต่ละคัน มีการเก็บตัวอย่าง 70-80 ตัวอย่าง .-สำนักข่าวไทย