กทม.15ส.ค.-ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคการเมือง ร่วมเวทีส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ เดินหน้ายกร่างกฎหมายให้ทัน สมัยประชุมหน้า
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “ส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ :การรับรองเพศสภาพของบุคคล ข้ามเพศ” ที่ รร.รอยัลปริ๊นเซส หลานหลวง โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม จากผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม และพรรคการเมือง อาทิ นายกรณ์ จาติกวณิช น.ส.ชมพูนุท นาครทรรพ และ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก จากพรรคประชาธิปัตย์ นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ และนายณัฐวุฒิ บัวประทุม จากพรรคอนาคตใหม่ รวมทั้ง น.ส.ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ และภาคประชาชน อาทิ ผู้แทนสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย สมาคมบุคคลข้ามเพศแห่งประเทศไทย และเครือข่ายเพื่อกระเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน
รมว.พม.กล่าวว่าพม.โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “ส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ :การรับรองเพศสภาพของบุคคลข้ามเพศ”ครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของรัฐบาลชุดนี้ที่มีรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาบริหารเมื่อเดือนก่อน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังและแก้ไขปัญหาความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ และเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการเสนอร่างกฏหมายความเท่าเทียมระหว่างเพศเพราะทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคมและภาคการเมือง ซึ่งเป็นสามเสาที่สำคัญในการสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อทุกคนในสังคมเพราะหากปราศจากความเห็นพ้องต้องกันของสามเสาหลักนี้ การจัดทำกฎหมายรับรองเพศย่อมเกิดขึ้นได้ยาก ซึ่งภารกิจของกระทรวงจะสำเร็จไม่ได้ถ้าปราศจากความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งตั้งเป้าว่าจะนำเสนอกฎหมายดังกล่าวให้เข้าสภาภายในการประชุมสภาสมัยหน้า และขอให้ทุกภาคส่วนมีการช่วยผลักดันให้เข้าสู่สภาให้ได้ต่อไป
นายกรณ์ จาติกวณิช กล่าวว่า ในส่วนของเกณฑ์การเสนอกฎหมายหรือแก้ไขกฎหมาย ได้มีการร่างกฎหมายออกมาเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้น งานวันนี้เป็นการทำตามขั้นตอนร่างกฎหมายดังกล่าวและเร่งให้ดำเนิน การโดยเร็วที่สุด สำหรับกฎหมายดังกล่าวนั้น จะต้องผ่านกระบวนการรับฟังและนำไปวิเคราะห์ผลกระทบทุกภาคสังคมให้ครบถ้วน และนำเสนอผ่านกฤษฎีกา จากนั้นจึงจะนำเข้าสู่สภา จึงได้มีการเชิญผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน และกรรมการจากหลายพรรคการเมืองเข้าร่วมประชุม เพื่อร่วมกันผลักดันร่างกฎหมายเพื่อเสนอเข้าสู่สภาและบังคับใช้ต่อไป
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า อยากเห็นสังคมไทยก้าวผ่านเรื่องเพศ ซึ่งสังคมจะกำหนดเป็นตักำหนดบทบาทและความคาดหวังบางอย่างให้กับเรา โดยสิ่งที่พรรคพรรคอนาคตใหม่อยากเห็นคือ การที่ทุกคนก้าวข้ามคำว่าพี่อคติของคำว่าเพศ ความหลากหลายทางเพศ โดยเฉพาะเรื่องเอกสารต่างๆ ซึ่งคนส่วนหนึ่งต้องยอมปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งถ้าหากรัฐบาลสามารถออกกฎหมายรับรองเพศสภาพได้ ก็จะทำให้คนเหล่านี้ไม่เสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นสิทธิที่พวกเขาควรได้รับ
คุณกฤศธีพัฒน์ โชติฐานิตสกุล ประธานกลุ่มเครือข่ายผู้ชายข้ามเพศแห่งประเทศไทย(TMAT)กล่าวว่า การรับรองเพศสภาพถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะปัญหาคำนำหน้านามที่ถูกต้อง ซึ่งมีผลกระทบต่อการเข้ารักษาโรงพยาบาล การทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ หรือการเดินทางไปต่างประเทศ รวมทั้งการไปเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งถ้าสามารถออกฎหมายความเท่าเทียมทางเพศได้สำเร็จ จะช่วยเหลือทุกคนได้หลายคน จึงอยากให้สังคมช่วยเปิดใจให้กว้าง มองในมิติที่หลากหลาย .-สำนักข่าวไทย
