สนง.ศาลรัฐธรรมนูญ 15 ส.ค.- พปชร.ส่ง 510 แฟ้ม สู้คดี ส.ส.ถือหุ้นสื่อ มั่นใจหลักฐานชัด ไม่เคยประกอบธุรกิจสื่อ-ไม่มีรายได้จากสื่อ แตกต่างจาก “ธนาธร” ประกอบกิจการชัด ด้าน “เทวัญ” มอบทนายแจงหุ้นสื่อเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ส.ค.) นายทศพล เพ็งส้ม หัวหน้าทีมต่อสู้คดีหุ้นสื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้นำคำชี้แจง พร้อมพยานหลักฐานของ 20 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และของนายสมเกียรติ ศรลัมม์ ส.ส.พรรคประชาภิวัฒน์ มายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนที่จะครบกำหนดระยะเวลา 30 วัน ที่ขอขยายยื่นคำชี้แจงในวันที่ 17 ส.ค. โดยเอกสารมีจำนวน 510 แฟ้ม ใช้รถกระบะบ 3 คันขนมาส่งศาลรัฐธรรมนูญ
นายทศพล กล่าวว่า เอกสารหลักฐานที่นำส่ง เป็นหลักฐานเพื่อยืนยันว่า ส.ส.พรรคพลังประชารัฐไม่ได้ประกอบธุรกิจสื่อ แม้ในบางรายจะมีระบุอยู่ในวัตถุประสงค์ของบริษัท แต่ในการประกอบกิจการจริง ไม่ได้มีการผลิตสื่อ ซึ่งไม่เหมือนกับกรณีการถือครองหุ้นสื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และผู้สมัครของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งประกอบธุรกิจสื่อจริง และมีรายได้จากธุรกิจสื่อ ขณะที่ ของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐไม่เคยประกอบธุรกิจสื่อ รวมถึง ไม่มีรายรับจากธุรกิจสื่อ
นายทศพล กล่าวว่า หลักฐานที่นำมายื่นประกอบด้วย 3 ส่วน คือ แบบวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งบริษัท (สสช1.) แบบนำส่งงบการเงิน (ส.บช.3) และเอกสารงบดุลบริษัท รวมทั้ง ภาพถ่ายการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน เช่น กรณีของนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ประกอบธุรกิจฟาร์ม และธุรกิจอาหารแช่แข็ง นายอนุชา นาคาศัย มีโรงฆ่าสัตว์ และโรงงานแปรรูปหนังสัตว์ จึงได้แนบภาพถ่ายเพื่อยืนยันรูปแบบการประกอบกิจการให้ศาลรัฐธรรมนูญได้รับทราบ
“พรรคเน้นว่า ถ้าประกอบธุรกิจสื่อจริง ก็ต้องมีการทำธุรกิจสื่อมาก่อน และมีรายได้จากธุรกิจสื่อ แต่ ส.ส.ของพรรคไม่มีใครที่เข้าข่ายดังกล่าวเลย ไม่เหมือนกับ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ 2 คน ที่ถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบธุรกิจสื่อจริง และมีรายได้จากธุรกิจดังกล่าว พรรคได้มีการนำรายงานการประชุม ของสภาร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 2560 นำมาใช้เป็นหลักในการพิจารณา ในการกำหนดห้าม ส.ส.ถือหุ้นสื่อ ซึ่งสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ระบุว่า จะต้องดูว่ามีการประกอบธุรกิจสื่อจริงหรือไม่ เพื่อให้ศาลได้เห็นกระบวนการทั้งหมดในการออกกฎหมายฉบับนี้ด้วย” นายทศพล กล่าว
นายทศพล กล่าวว่า พรรคไม่ได้ขอให้ศาลออกนั่งบัลลังก์ไต่สวน แต่ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของ ส.ส.ที่ถูกร้อง เพื่อจะได้เห็นข้อเท็จจริงว่าไม่ได้ประกอบธุรกิจสื่อจริง อย่างไรก็ตาม จะมีการยื่นเอกสารเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง เนื่องจาก ส.ส.ผู้ถูกร้องบางคน เช่น นายสุชาติ ชมกลิ่น นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ยังรอเอกสารจากหน่วยงานของรัฐ ทั้งกรมศิลปากร ในเรื่องการออกใบอนุญาตจัดทำสิ่งพิมพ์ และคณะกรรมการกิจกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม แห่งชาติ (กสทช.) ในเรื่องใบอนุญาตจัดสรรคลื่นความถี่ที่ยื่นขอไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากพรรคพลังประชารัฐแล้ว วันนี้ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบอำนาจให้ทนายความนำหลักฐานและคำชี้แจงกรณีถูกร้องว่าประกอบธุรกิจด้านสื่อสารมวลชน มายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเช่นกัน พร้อมยืนยันว่า บริษัทที่นายเทวัญเคยถือหุ้น ไม่เคยประกอบกิจการด้านสื่อสารมวลชน ตั้งแต่จดทะเบียนก่อตั้งบริษัท เพื่อค้าขายอสังหาริมทรัพย์ และตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ไม่เคยประกอบธุรกิจสื่อเลย . – สำนักข่าวไทย