กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – “สุริยะ” เปิดให้เอกชนยื่นทำเหมืองทองคำได้อีกครั้ง ตาม พ.ร.บ.แร่ปี 2560 และนโยบายทองคำฉบับใหม่ ส่วนคิงส์เกตฯ จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือขอเจรจายุติข้อพิพาทอย่างเป็นทางการ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยนโยบายการอนุญาตทำเหมืองทองคำและเหมืองแร่ชนิดอื่น ๆ ในภาพรวมนับจากนี้ไปว่า ทางกระทรวงอุตสาหกรรมจะพิจารณาถึงผลประโยชน์เศรษฐกิจ ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและประชาชน หากมีผลประโยชน์ทางเศรฐกิจ สิ่งแวดล้อมและประชาชนได้รับการดูแลก็จะพิจารณาภายใต้พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 และนโยบายทองคำฉบับใหม่ที่มีความเข้มงวดในการดูแลสิ่งแวดล้อม
ส่วนกรณีบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ที่ยื่นฟ้องรัฐบาลไทยจากการต้องยุติทำเหมืองทองคำ แสดงความประสงค์ที่จะเจรจายุติข้อพิพาทที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) ที่จะมีการรับฟังข้อมูลครั้งแรกวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ ล่าสุดจนถึงวันนี้ (15 ส.ค.) ทางกระทรวงอุตสาหกรรมยังไม่ได้รับหนังสือขอเจรจายุติข้อพิพาทอย่างเป็นทางการมีเพียงติดต่อเข้ามาอย่างไม่เป็นทางการเท่านั้น
นายสุริยะ กล่าวว่า การเจรจาข้อพิพาทจะทำ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบนโยบายว่ารัฐบาลไทยต้องไม่เสียเปรียบ มีผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด และเอกชนสามารถทำธุรกิจต่อไปได้ และบริษัท คิงส์เกตฯ เมื่อการเจาจราตกลงยุติข้อพิพาทกันได้จะต้องถอนฟ้องรัฐบาลไทย สำหรับผลกระทบกับประชาชนเป็นเรื่องที่จะต้องพิสูจน์กันต่อไป เพราะขณะนี้มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบสุขภาพจริง แต่ไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากเพราะอาศัยอยู่ในพื้นที่แหล่งแร่จึงได้รับผลกระทบ หรือผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ของบริษัทอัครา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปดูแลอยู่
นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดี กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กล่าวว่า ขณะนี้มีโอกาสที่บริษัทอัคราฯ จะกลับมาทำเหมืองทองอีกครั้งตามมติคณะกรรมการแร่แห่งชาติให้กลับมาประกอบกิจการได้ เนื่องจากประทานบัตรเหมืองแร่ทองคำยังไม่หมดอายุ บริษัท อัคราฯ จึงมีสิทธิ์ที่จะได้รับการพิจารณาขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมที่หมดอายุไปก่อนหน้านี้ ซึ่งทางบริษัท อัคราฯ ยังมีการยื่นคำขอต่ออายุประทานบัตร 1 แปลง ที่เหลือเป็นการยื่นคำขอสำรวจแร่หรือประทานบัตรพิเศษหลายสิบแปลง ซึ่งจะต้องปฎิบัติตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 และนโยบายทองคำฉบับใหม่ที่ดูแลด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังปฏิบัติไม่ครบถ้วน
สำหรับการปิดเหมืองทองคำชาตรีของบริษัท อัคราฯ เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 13 ธันวาคม 2559 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 72/2559 ระงับการทำเหมืองทองคำและอนุญาตประทานบัตรทั่วประเทศไว้เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 จนกว่าคณะกรรมการนโยบายแร่แห่งชาติ (คนร.) จะมีมติเป็นอย่างอื่น ด้านบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทอัคราฯ จึงนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2560.-สำนักข่าวไทย