ผลตรวจซ้ำ ‘สารกันบูดในแกงไตปลา’ ดีขึ้น

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค 14 ส.ค.-ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ ร่วมกับเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคใต้ เผยผลทดสอบสารกันบูดในผลิตภัณฑ์  ‘แกงไตปลาแห้ง’รอบ2  15 ตัวอย่าง สถานการณ์ดีขึ้น พบร้อยละ26 มีปริมาณสารกันบูดเกินมาตรฐานจากเดิมที่พบถึงร้อยละ 50 แนะผู้บริโภคดูฉลากของฝากก่อนซื้อ โดยเฉพาะข้อมูลผู้ผลิต การใช้วัตถุเจือปนอาหาร วันผลิต และวันหมดอายุ 



โดยได้สุ่มเก็บตัวอย่าง “แกงไตปลาแห้ง” จำนวนทั้งหมด 15 ตัวอย่าง จากตลาดสดและร้านขายของฝากในภาคใต้ ส่งตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารกันบูดประเภทกรดซอร์บิก และกรดเบนโซอิก เป็นครั้งที่ 2 (สุ่มตรวจครั้งแรก มี.ค.61)

โดยผลทดสอบพบว่ามีผลิตภัณฑ์แกงไตปลาแห้ง 5 ตัวอย่าง ที่ตรวจไม่พบสารกันบูดทั้ง 2ชนิด ได้แก่


1.ยี่ห้อ คุณแม่จู้  จากร้านจี้ออ อ.เมือง จ.กระบี่ ไม่พบสารกันบูดทั้ง 2ชนิด

2.ยี่ห้อ แม่อร กระบี่  จากร้านศรีกระบี่  อ.เมือง จ.กระบี่ ไม่พบสารกันบูดทั้ง 2 ชนิด

3.ยี่ห้อ จี้ถ้าน พังงา  จากร้านต้นข้าว-ต้นขิง สนามบินหาดใหญ่ ไม่พบสารกันบูดทั้ง 2 ชนิด

4.ยี่ห้อ วิน Win จากร้านเฟิร์ส & เฟิร์น สนามบินหาดใหญ่ ไม่พบสารกันบูดทั้ง 2 ชนิด

5.ยี่ห้อ วังรายา จากร้านขายของฝาก จ.ปัตตานี ไม่พบสารกันบูดทั้ง 2ชนิด

และมี 6 ตัวอย่าง ที่ตรวจพบสารกันบูดแต่ไม่เกินมาตรฐาน ได้แก่ 

1.ยี่ห้อ ณ ชุมพร จากร้านของฝาก อ.เมือง จ.ชุมพร พบปริมาณกรดเบนโซอิก เท่ากับ  23.94  มิลลิกรัม/กิโลกรัม

2.ยี่ห้อ แม่จิตร สุราษฎร์ธานี  จากตลาดสดเทศบาล สุราษฎร์ธานี พบปริมาณกรดเบนโซอิก เท่ากับ  136.21  มิลลิกรัม/กิโลกรัม

3.ยี่ห้อ จันทร์เสวย  จากร้านขายของฝาก จ.ปัตตานี พบปริมาณกรดเบนโซอิก เท่ากับ  180.83  มิลลิกรัม/กิโลกรัม

4.ยี่ห้อ ลุงหรอย  จากร้านปิ่นโต สนามบินหาดใหญ่ พบปริมาณกรดเบนโซอิก เท่ากับ  218.96  มิลลิกรัม/กิโลกรัม

5.ยี่ห้อ เจ๊น้อง  จากร้านศรีกระบี่ อ.เมือง จ.กระบี่ พบปริมาณกรดเบนโซอิก เท่ากับ  338.19  มิลลิกรัม/กิโลกรัม

และ 6.ยี่ห้อ ชนิดา พังงา  จากร้านเฟิร์ส & เฟิร์น สนามบินหาดใหญ่ พบปริมาณกรดเบนโซอิก เท่ากับ  482.62  มิลลิกรัม/กิโลกรัม

ส่วนที่เหลืออีก 4 ตัวอย่าง ตรวจพบปริมาณสารกันบูดประเภทกรดซอร์บิก หรือกรดเบนโซอิก เกินมาตรฐาน ได้แก่

1.ยี่ห้อ คุณแม่จู้ จากร้านของฝากแม่จู้ ถ.เทพกษัตรี จ.ภูเก็ต พบปริมาณกรดซอร์บิก เท่ากับ  1190.45  มิลลิกรัม/กิโลกรัม

2.ยี่ห้อ แม่กุ่ย ภูเก็ต  จากร้านของฝากแม่กุ่ย จ.ภูเก็ต พบปริมาณกรดซอร์บิก เท่ากับ  1107.64  มิลลิกรัม/กิโลกรัม

3.ยี่ห้อ เจ้นา พังงา  จากตลาดสดเทศบาล สุราษฎร์ธานี พบปริมาณกรดเบนโซอิก เท่ากับ  971.76  มิลลิกรัม/กิโลกรัม 

และ4.ยี่ห้อ ป้าสุ สุราษฎร์ธานี  จากตลาดกิมหยง อ.หาดใหญ่ พบปริมาณกรดซอร์บิก 697.23 มก./กก  และ กรดเบนโซอิก 332.01 มก./กก. (โดยมีปริมาณสัดส่วนของสารกันบูดทั้ง 2ชนิดรวมกันเกินหนึ่ง ซึ่งเกินมาตรฐาน)

ซึ่งตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่389 พ.ศ.2561เรื่องวัตถุเจือปนอาหาร(ฉบับที่ 5) อนุญาตให้ตรวจพบวัตถุกันเสียประเภทกรดเบนโซอิก ปริมาณสูงสุดได้ไม่เกิน 500 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักอาหาร 1 กิโลกรัม และประเภทกรดซอร์บิก ปริมาณสูงสุดได้ไม่เกิน 1000 มก./กก. ในหมวดอาหารประเภทเครื่องปรุงรส

น.ส.มลฤดี โพธิ์อินทร์ นักวิชาการด้านอาหาร มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า จากการสุ่มตรวจแกงไตปลาแห้งครั้งแรก  เมื่อมีนาคม 2561 จำนวน 10 ตัวอย่าง พบว่ามี 5 ยี่ห้อที่มีสารกันบูดเกินมาตรฐาน(ร้อยละ50) ส่วนครั้งนี้ตรวจทั้งหมด 15 ตัวอย่าง พบว่ามี 4 ยี่ห้อ ที่สารกันบูดเกินมาตรฐาน (ร้อยละ 26) ซึ่งดีขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะ 3 ยี่ห้อ ที่มีสารกันบูดเกินมาตรฐานในครั้งแรก คือยี่ห้อชนิดา จันทร์เสวย และแม่จิตร ในครั้งนี้พบว่ามีสารกันบูดไม่เกินมาตรฐาน ซึ่งขอชมเชยผู้ประกอบการที่ปรับปรุงสินค้าให้ดีขึ้น

“แต่ที่น่าแปลกใจคือแกงไตปลาแห้งยี่ห้อคุณแม่จู้ (กระปุกแก้วฝาสีทอง) ต้นตำรับดั้งเดิม จากร้านของฝากแม่จู้ จ.ภูเก็ต ที่ครั้งก่อนตรวจไม่พบสารกันบูด แต่ในครั้งนี้พบว่าเกินมาตรฐาน คือพบกรดซอร์บิก 1190.45 มก./กก.ขณะที่ยี่ห้อเดียวกัน คือคุณแม่จู้ (กระปุกพลาสติก ฝาสีแดง) ที่สุ่มเก็บมาจาก จ.กระบี่ ตรวจไม่พบสารกันบูด ถึงแม้ว่าจะมีส่วนผสมและเลข อย. ต่างกัน แต่ชื่อที่เหมือนกันก็อาจทำให้ผู้บริโภคสับสนในการเลือกซื้อได้ว่า แบบไหนมีหรือไม่มีสารกันบูด จึงอยากฝากให้ผู้ประกอบการปรับปรุงมาตรฐานการผลิตและให้ข้อมูลที่ชัดเจนกับผู้บริโภคให้ดีขึ้น” น.ส.มลฤดีกล่าว

น.ส.มลฤดี กล่าวอีกว่า ในเรื่องการให้ข้อมูลการใช้สารกันบูด บนฉลากบรรจุภัณฑ์พบว่า แกงไตปลาแห้งที่ตรวจพบสารกันบูดทั้ง 10 ยี่ห้อ ไม่มียี่ห้อใดเลย ที่ระบุว่าใช้วัตถุกันเสีย จึงอยากให้ผู้ผลิตได้ปรับปรุงการแสดงฉลากให้ถูกต้อง เมื่อมีการใช้สารกันบูดจะมากหรือน้อยก็ต้องระบุไว้ให้ผู้บริโภคทราบ 

ในอีกกรณีหนึ่งที่ผลตรวจพบว่ามีสารกันบูดปริมาณเล็กน้อยในหลักสิบ หรือร้อยกว่าๆ ก็อาจเป็นไปได้ที่ผู้ผลิตไม่ได้ใส่เองแต่สารกันบูดเหล่านี้ อาจมาจากวัตถุดิบที่เป็นส่วนผสม หากจะใช้คำว่า “ไม่ใช้วัตถุกันเสีย หรือ ปราศจากสารกันบูด” บนฉลากก็ขอให้ตรวจสอบให้แน่ใจก่อน โดยอาจส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ไปตรวจกับหน่วยงานที่ให้บริการตรวจคุณภาพอาหาร เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีวัตถุกันเสียจึงค่อยระบุบนฉลาก ไม่เช่นนั้นอาจกลายเป็นว่าให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องกับผู้บริโภคได้

ด้าน เภสัชกรหญิงชโลม เกตุจินดา ผู้แทนเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคใต้ กล่าวว่า แกงไตปลาเป็นของฝากภาคใต้ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว จากผลตรวจสารกันบูด กว่าร้อยละ 73 ที่ไม่เกินมาตรฐานหรือไม่พบสารกันบูด ถือว่าน่าชื่นชม โดยเฉพาะผู้ผลิตที่ใช้กระบวนการพาสเจอร์ไรซ์ซึ่งไม่ต้องใช้สารกันบูดเลย ก็อยากให้ร้านค้าอื่นๆ ลองศึกษาข้อมูลเพื่อปรับเปลี่ยนไปสู่กระบวนการผลิตที่ไม่ต้องพึ่งพาสารกันบูดหากว่าเป็นไปได้ เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานอาหารของฝากภาคใต้ให้ดียิ่งขึ้น

 “สำหรับผู้บริโภคที่ชอบของฝากจำพวกน้ำพริกหรือแกงไตปลาแห้ง ก่อนซื้ออยากแนะนำให้ดูวันผลิตด้วย อย่าดูแค่วันหมดอายุอย่างเดียว เพราะของฝากจำพวกอาหารที่ผลิตเอาไว้นานเกินไป อาจมีกลิ่นหรือรสชาติที่เปลี่ยน แปลงไป แม้ว่าจะยังไม่หมดอายุ ซึ่งหากผู้ประกอบการสามารถระบุทั้งวันผลิตและวันหมดอายุ ก็จะเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้ผู้บริโภคในการเลือกซื้อของฝากที่มีความสดใหม่ รวมทั้งร้านค้าเองก็จะสามารถจัดเรียงสินค้าวางขายตามลำดับก่อนหลังได้อย่างถูกต้องอีกด้วย” เภสัชกรหญิงชโลมกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ.ส่งทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

20 ก.ค.- ทหารช่างปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่กองทัพบกเตรียมมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม จากกรณีทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดเช้านี้ (20 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing) เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้ว ยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN) และทางกองทัพบก จะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

พฐ.เตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา

20 ก.ค.- เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ คาดเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรับซื้อและแปรรูปยางพาราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกม้า อ.ประโคกชัย จ.บุรีรัมย์ โดยต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บยางพาราอัดแท่ง จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนเกิดเหตุช่วงแรก พนักงานช่วยกันดับแต่เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลามไปจุดอื่นในโรงงาน พร้อมเคลื่อนย้ายถังแก๊ส ถังน้ำมัน จากอาคารใกล้เคียงไปไว้ยังจุดปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าแม้จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่รถดับเพลิงก็ยังต้องฉีดน้ำเพื่อหล่อความเย็นจนกว่าไฟจะดับสนิท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน คาดหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว เมื่อปี 63 -สำนักข่าวไทย

จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือน “ตาเมือนธม”

สุรินทร์ 20 ก.ค.- จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือนปราสาท “ตาเมือนธม” ด้านทหารไทย-ฝ่ายปกครอง จัดกำลังดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวไทยใกล้ชิด บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ ถูกจับตามองเป็นพิเศษ หลังมีรายงานว่าทางกัมพูชาเตรียมเกณฑ์นักท่องเที่ยวชาวเขมรขึ้นมาเยือนปราสาทตาเมือนธม ซึ่งขณะนี้ทราบว่า มวลชนมาด้วยรถโดยสารประจำทางของฝั่งกัมพูชาเกือบ 23 คันรถ โดยจอดอยู่ข้างล่างฝั่งกัมพูชาและเริ่มทยอยขึ้นมายังปราสาทตาเมือนธมอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศภายในตัวปราสาทฯ ยังคงเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและกัมพูชา ท่ามกลางการดูแลอำนวยความสะดวกของเจ้าที่ทหารไทยเป็นอย่างดี ขณะนี้ยังไม่มีปัญหาเกิดขึ้นแต่อย่างใด -สำนักข่าวไทย

Vietnam's Halong Bay boat disaster

พายุ “วิภา” ทำเรือท่องเที่ยวล่มในเวียดนาม

ฮานอย 20 ก.ค.- เกิดอุบัติเหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มในอ่าวฮาลองหรือฮาลองเบย์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเวียดนามที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้าย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 38 คน และยังไม่พบตัวอีก 5 คน หนังสือพิมพ์วีเอ็นเอ็กซ์เพรสส์ของเวียดนามรายงานว่า เรือท่องเที่ยวชื่อวันเดอร์ซี (Wonder Sea) พลิกคว่ำในอ่าวฮาลองเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาเดียวกันในไทย เป็นช่วงที่พายุโซนร้อนวิภา (Wipha) เคลื่อนตัวข้ามทะเลจีนใต้เข้าใกล้เวียดนาม มีรายงานกระแสลมแรง ฝนตกหนัก และฟ้าผ่าในพื้นที่ดังกล่าว ขณะเกิดเหตุบนเรือมีชาวเวียดนามทั้งหมด 53 คน เป็นลูกเรือ 5 คน และผู้โดยสาร 48 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกรุงฮานอย ซึ่งอยู่ห่างจากอ่าวฮาลองไปทางตะวันตกราว 165 กิโลเมตร และในจำนวนนี้เป็นเด็ก 20 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุได้ 10 คน และพบศพใกล้จุดที่เรืออับปาง โดยพบศพเด็กแล้ว 8 คน และยังคงค้นหาผู้สูญหายอยู่ 5 คน ท่ามกลางฝนที่ตกหนักต่อเนื่องเป็นอุปสรรคต่อภารกิจค้นหาและกู้ภัย นายกรัฐมนตรีฝั่ม มิงห์ […]