พาณิชย์ถกผู้เลี้ยงไก่-ห้างฯ-ตลาดสด ช่วยดูแลอย่าให้ราคาไก่ขึ้นมากเกินไป

นนทบุรี 13 มิ.ย. – รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เชิญผู้เลี้ยงไก่ ผู้ผลิต ผู้ส่งออกไก่ ห้างค้าส่งค้าปลีก หารือสถานการณ์การผลิตและการค้าเนื้อไก่ พบสาเหตุผลผลิตลดจากอากาศร้อนแล้งก่อนหน้านี้ ทำไก่โตช้า ยันราคาจากนี้ไม่มีขึ้นอีก หลังตอนนี้การเลี้ยงกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ห้างฯ พร้อมจัดโปรโมชั่นลดราคา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้บริโภค ย้ำตามราคาทุกวัน


นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้หารือร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย สมาคมผู้ผลิตไก่เนื้อเพื่อการส่งออก ผู้ประกอบการรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด บริษัท ไทยฟู้ดส์ จำกัด บริษัท สหฟาร์ม จำกัด และห้างค้าส่งค้าปลีก เพื่อติดตามสถานการณ์การผลิตและการค้าสินค้าเนื้อไก่ หลังจากที่มีข่าวปรับขึ้นราคา ตามนโยบายนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยพบสาเหตุมาจากช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.2567 ที่ผ่านมา ที่เป็นช่วงอากาศร้อนและแล้งจัด ทำให้ผลผลิตไก่ลดลง จากเดิมเลี้ยง 39-42 วัน และน้ำหนักไก่ลดลง 5% กว่าจะได้ขนาด 2.4 กิโลกรัม ต้องเลี้ยงเพิ่มอีก 3-5 วัน ทำให้ผู้ประกอบการมีภาระ จึงมีการปรับขึ้นราคาเพื่อให้สอดคล้อง

ส่วนที่มีการมองว่า การส่งออกที่เพิ่มขึ้น เป็นสาเหตุทำให้ไก่ในประเทศขาดแคลน ก็ไม่เป็นความจริง โดยได้รับการยืนยันจากผู้ผลิตและผู้ส่งออกว่าปริมาณผลผลิตไก่มีเพียงพอ ไม่มีปัญหาขาดแคลน ทั้งการบริโภคในประเทศและการส่งออก และตอนนี้ ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยผู้เลี้ยง ได้ลงลูกไก่เพิ่ม และการเลี้ยง ก็ใช้เวลา 39-42 วันเหมือนเดิม และเมื่อผลผลิตล็อตใหม่เข้าสู่ตลาด ราคาก็จะปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ


“ได้รับคำยืนยันทั้งจากผู้เลี้ยง จะเร่งเลี้ยงเพิ่ม และผู้ประกอบการได้มีการเปิดโรงเชือดใหม่เพิ่มขึ้นด้วย ส่วนเรื่องราคา ทั้งผู้เลี้ยง ห้างค้าส่งค้าปลีก ยืนยันจะไม่มีการปรับขึ้นราคาไปกว่านี้อีกแล้ว ก็จะตรึงราคานี้ ไม่มีการขึ้นอีก และยังจะช่วยจัดโปรโมชัน โดยเฉพาะชิ้นส่วนสะโพก และเนื้ออก เพื่อลดราคาให้กับผู้บริโภคด้วย และจากนี้เมื่อสถานการณ์ผลผลิตดีขึ้น ก็จะปรับลดลงตามความเหมาะสม ขอให้ผู้บริโภคเบาใจลงได้”นายกรนิจกล่าว

อย่างไรก็ตาม กรมฯจะมีการติดตามสถานการณ์การเลี้ยง การค้าไก่ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ทั้งผู้เลี้ยง ผู้ผลิตที่ส่งไก่ไปให้ห้างค้าส่งค้าปลีก และห้างค้าส่งค้าปลีกทุกวัน เพื่อติดตามสถานการณ์ด้านราคา เพื่อกำกับดูแลให้ราคาอยู่ในโครงสร้างทุกราย ทั้งผู้เลี้ยง ผู้ผลิต ห้าง ซึ่งจากการตรวจสอบตอนนี้ ราคายังอยู่ในโครงสร้างที่กำหนด. -514-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก