พังงา 13 ส.ค.-ตำรวจ ปคม. บุกจับร้านคาราโอเกะกลางเมืองพังงา ลอบค้าประเวณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี หลังได้รับร้องเรียน วางแผนส่งคนล่อซื้อ รวบเจ้าของร้านไปดำเนินคดี
เมื่อวานนี้ (12 ส.ค.) กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ บก.ปคม. พร้อมศูนย์ช่วยเหลือสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าตรวจสอบร้านคาราโอเกะ หมู่ 3 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.พังงา หลังได้รับร้องเรียนว่าร้านดังกล่าวเปิดเป็นร้านคาราโอเกะและแอบแฝงค้าประเวณีเด็ก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. จึงได้สืบสวนจนทราบเป็นที่แน่ชัดว่าร้านดังกล่าวมีการลักลอบนำเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี มาแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีจริง จึงแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และร่วมกันวางแผนเพื่อเข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย โดยให้เจ้าหน้าที่ทำทีเป็นนักเที่ยว พร้อมกับสายลับผู้ชายอีก 2 คน เข้าใช้บริการดื่มกินในร้านคาราโอเกะ เมื่อเจ้าหน้าที่มานั่งในร้านพบว่ามีพนักงานร้านเป็นผู้หญิง จำนวน 7 คน และเจ้าของร้านได้แนะนำตัวเด็ก พร้อมทั้งเรียกเด็กมาจำนวน 3 คน เพื่อให้มานั่งกับสายลับ โดยคิดค่าเครื่องดื่ม 100 บาทต่อแก้ว
ต่อมาสายลับได้ติดต่อและตกลงซื้อบริการทางเพศกับ น.ส.เดียร์ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นลูกจ้างภายในร้าน อายุยังไม่ถึง 18 ปี ในราคา 1,500 บาท จากนั้น น.ส.เดียร์ ผู้เสียหาย ได้นำเงินทั้งหมดไปมอบให้แก่เจ้าของร้าน ก่อนขึ้นไปบนห้อง ซึ่งอยู่ชั้น 3 เพื่อให้บริการทางเพศ สายลับจึงให้สัญญาณแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ซึ่งซุ่มดูอยู่ใกล้กับร้านคาราโอเกะ เข้าทำการตรวจค้นจับกุม พร้อมตรวจยึดเงินที่ใช้ในการล่อซื้อจำนวน 1,500 บาท จากเจ้าของร้าน จากนั้นตำรวจได้ขึ้นไปตรวจสอบยังชั้น 3 ภายในร้านดังกล่าว พบว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี อยู่ในสภาพพร้อมให้บริการทางเพศ
น.ส.จิดาภา เจ้าของร้าน ยอมรับว่า ตนรับเงินค่าตัวที่สายลับมอบให้แก่ น.ส.เดียร์ ผู้เสียหาย เพื่อเก็บไว้ให้และนำไปมอบให้ น.ส.เดียร์ จำนวน 1,200 บาท โดยเป็นเงินค่าตัว โดย น.ส.จิดาภา เจ้าของร้าน จะได้ส่วนแบ่งจากผู้เสียหายจากการเป็นธุระจัดหาเพื่อการค้าประเวณีดังกล่าวครั้งละ 300 บาท
น.ส.เดียร์ เล่าว่า ตนเองจะต้องแบ่งค่าตัวเป็นเงินจำนวนคนละ 300 บาท ให้แก่ น.ส.จิดาภา ต่อการขายบริการทางเพศจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัว น.ส.จิดาภา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย