พล.อ.ประยุทธ์ จัดรายการคืนความสุขให้คนในชาติ


สำนักข่าวไทย 12 ส.ค.-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จัดรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ประจำวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2559

เป็นระยะเวลายาวนาน เกือบ 7 ทศวรรษ ที่ภาพความทรงจำ ที่คุ้นเคยของ ปวงชนชาวไทย คือ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้โดยเสด็จพระราชดำเนิน เคียงคู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงเยี่ยมเยียนราษฎร ในพื้นที่ห่างไกลและถิ่นทุรกันดาร ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ อันเป็นที่มาของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นานัปการ เพื่อความอยู่ดีกินดี ของพสกนิกร ทุกด้าน พระราชดำริสำคัญของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ล้วนสนองพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อยกฐานะความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้น อาทิ ทรงริเริ่มโครงการให้ราษฎร โดยเฉพาะชาวนาในท้องถิ่นชนบท มีอาชีพเสริม โดยใช้เวลาว่างจากการทำนา ทำไร่ มาทำงาน “ศิลปาชีพ” เพื่อช่วยรักษางานช่างศิลป์ ไว้ในวิถีชีวิตชาวบ้าน และสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสินค้า OTOP ประชารัฐ ในปัจจุบัน ซึ่งพี่น้องประชาชนสามารถเข้าเยี่ยมชม ผลงานประดิษฐ์จากฝีมือลูกหลาน ชาวไร่ชาวนา ที่นอกจากจะเป็นการสืบสาน อนุรักษ์ ศิลปะของแผ่นดินให้คงอยู่แล้ว ยังสะท้อนถึงความรัก ความเมตตา ที่สถาบันพระมหากษัตริย์ มีต่อพสกนิกรชาวไทย ผ่านงานศิลป์แขนงต่างๆ ได้ที่งาน “ศิลป์แผ่นดิน” และ “เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์” ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม


อีกทั้ง ด้วยพระอัจฉริยภาพ ที่ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ ในการออกแบบฉลองพระองค์ “ชุดประจำชาติ” จำนวน 8 แบบ เมื่อครั้งโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน ไปเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศ เมื่อ 50 กว่าปีที่ผ่านมา ปัจจุบันรู้จักกันในนาม “ชุดไทยพระราชนิยม” นอกจากนี้ ทรงมีพระราชวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ในการพลิกฟื้นศิลปะชั้นสูงของชาติ โดยทรงส่งเสริม ทั้งงานด้านศิลปะ วรรณศิลป์ และนาฏศิลป์ของไทย อาทิ “โขนพระราชทาน” ให้คืนกลับมาสู่ความนิยม และเป็นที่ภาคภูมิใจของคนไทย อีกครั้งหนึ่ง โดยฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ประยุกต์มาจากชุดไทยพระราชนิยมต้นแบบ และเครื่องโขนพระราชทานดังกล่าว พี่น้องประชาชนสามารถเข้าชมได้ ณ พิพิธภัณฑ์ผ้า ในพระบรมมหาราชวัง

ดังนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นอกจากจะทรงเป็น “แผ่นของแผ่นดิน” แล้ว พระองค์ยังทรงเป็น ประดุจศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ปกปักรักษางานศิลปะของชาติ สมความหมายแห่งพระราชสมัญญา “อัคราภิรักษศิลปิน” เนื่องในมหามงคล ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา 12 สิงหาคม 2559 นี้ ผมขอเชิญชวนปวงพสกนิกร ร่วมกันน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ช่วงเดือนสิงหาคมนี้ มีทัพนักกีฬาไทย 50 กว่าคน เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ “โอลิมปิก 2016” ณ ประเทบราซิล ปัจจุบัน สามารถคว้าเหรียญรางวัล นำความสุขมาสู่ปวงชนชาวไทยแล้ว หลายรายการ ในกีฬายกน้ำหนัก นับตั้งแต่ เหรียญทอง เหรียญแรก จาก “น้องแนน” โสภิตา ธนสาร ตามมาด้วยเหรียญทองและเหรียญเงินของ “น้องฝ้าย” สุกัญญา ศรีสุราช และ “น้องแต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว ในรายการเดียวกัน และ “ดุ่ย” สินธุ์เพชร กรวยทอง ที่ประสบความสำเร็จเช่นกัน ได้เหรียญทองแดงมาครอง แต่ก็ต้องสูญเสียคุณยาย “สุบิน” ไป ซึ่งผมก็ขอให้เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นแรงพลักดัน เป็นกำลังใจให้ “ดุ่ย – สินธุ์เพชร” มุ่งมั่น ฝึกฝนตนเอง ให้ประสบความสำเร็จสูงสุดต่อไป สมดังที่คุณยายสุบินตั้งความหวังไว้ สำหรับนักกีฬาประเภทอื่น ที่กำลังจะทยอยลงสู่สนามการแข่งขัน ผมขอเชิญพี่น้องชาวไทย “ร่วมแรงใจ เชียร์ทัพนักกีฬาไทย คว้าชัยในโอลิมปิก” โดยขอให้นักกีฬาทุกคน ซึ่งเป็นตัวแทนคนไทยทั้งประเทศ ได้แสดงออกถึง “น้ำใจนักกีฬา” และแสดงออกถึง “ความเป็นไทย” ที่งดงาม สู่สายตาชาวโลก ขอให้นักกีฬาทุกคน ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ทำหน้าที่ของตนให้เต็มศักยภาพ มีสมาธิ มีสติ แล้วใช้ปัญญาเป็นเครื่องนำทางสู่ความสำเร็จ ผมเชื่อว่าทุกหัวใจของคนไทย จะเป็นกำลังใจให้ท่าน ไม่ว่าท่านอยู่อยู่ที่ใดในโลก ท่านไม่ได้ไปคนเดียว แต่จะมีทั้งกองเชียร์ติดตามเป็นกำลังใจท่าน ทั้งขอบสนาม ทั้งหน้าจอทีวี คืนนี้..หลังจบรายการนี้ เวลาประมาณ 3 ทุ่ม ผมขอเชิญชวนร่วมเป็นกำลังใจกับ “น้องณี” สุธิยา จิงเฉลิมมิตร ในการแข่งขัน “ยิงปืนเป้าบิน” ประเภทสกีต ซึ่งเป็นอีกความหวังหนึ่งของเรา ด้วยนะครับ

พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่านครับ การที่ชาติไทยของเรา จะสามารถดำรงความเป็นชาติ และมีขีดสามารถในการแข่งขัน ทัดเทียมนานาอารยประเทศ บนโลกที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงได้นั้น เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับ “โครงสร้างพื้นฐานของชาติ” ที่หลายคนมักจะเข้าใจและคุ้นเคย กับโครงสร้างพื้นฐานที่เป็น “รูปธรรม” ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม ทางถนน ทางราง ทางน้ำ ทางทะเล และทางอากาศ หรือโครงสร้างด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ดิจิทัล และการสื่อสาร ด้านไฟฟ้า ด้านประปา และด้านพลังงาน ซึ่งทั้งหมดจำเป็นต้องได้รับการพัฒนา อย่างเป็นระบบ และควรบรรจุไว้ในยุทธศาสตร์ของชาติ ระยะยาว เนื่องจากเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ แต่ที่ผ่านมานั้น แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ถูกบิดเบือน ไม่ปฏิบัติตาม โดยถูกนำไปเป็นข้อต่อรองทางการเมือง ทางธุรกิจ แล้วอ้างว่าเป็นนโยบายพรรคในการหาเสียง เช่น ประชาชนพื้นที่ใดเลือกพรรคของตน เมื่อได้เป็นรัฐบาลแล้ว โครงการพัฒนาต่างๆ ก็จะไปถึงพื้นที่เหล่านั้น ซึ่งขัดแย้งกับหลักธรรมภิบาล ในการบริหารบ้านเมือง ที่ผมเห็นว่ารัฐบาลควรจะบริหารงานเพื่อประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่เพื่อฐานเสียง สิ่งเหล่านี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้อีกต่อไป ตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และตลอด 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการให้เป็นไปตามครรลองที่เหมาะสม เห็นแก่ผลประโยชน์ของประเทศชาติโดยส่วนรวม ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน แอบแฝง เช่น ผลักดันโครงการทางหลวงพิเศษ หมายเลข 6 (บางปะอิน – นครราชสีมา) ที่ค้างคามา กว่า 20 ปี หรือรถไฟฟ้ามหานคร สายสีม่วง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า “ฉลองรัชธรรม” ความหมายว่า เฉลิมฉลองพระราชาที่ปกครองโดยธรรม และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดการเดินรถฯ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา / และอีกหลายโครงการที่เกิดจากการบริหารราชการแบบตรงไปตรงมาของรัฐบาลนี้


สำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่เป็น “นามธรรม” ที่ผมเห็นว่ามีความสำคัญอย่างมาก แต่หลายคนมักมองข้าม คือ โครงสร้างพื้นฐานทาง “จิตใจ” ที่หลอมรวมกันใน “ความเป็นคน” ไปจนถึง “ความเป็นชาติ” อาทิ ภาษา การศึกษา ศิลปะ หัตถกรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม และสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นต้น อันเป็นที่มาของความผูกพัน ความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ เป็นพลังอำนาจของชาติ ที่แม้มองไม่เห็น แต่มีพลัง คล้ายอากาศที่มองไม่เห็น แต่เมื่อมีการรวมตัวกันและเคลื่อนไหว ก็จะเกิดเป็นพายุ อันทรงพลัง หากนำไปใช้ในทางที่ถูก เช่น พลังประชารัฐ และการปฏิรูปต่างๆ ก็จะเกิดคุณประโยชน์แก่ชุมชน สังคม และประเทศชาติโดยรวม แต่หากชี้นำไปใช้ในทางที่ผิด ก็จะเกิดผลในทางตรงกันข้าม เหมือนดังเช่น ก่อน 22 พ.ค. 57 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานที่เป็นนามธรรม จะรวมไปถึงระบบราชการ สวัสดิการ การให้บริการภาครัฐ ที่ต้องสามารถลดความเหลื่อมล้ำ ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยรวมแล้ว คือ การบริหารราชการอย่างมีธรรมาภิบาลนั่นเอง ซึ่งรัฐบาลนี้ ให้ความสำคัญอย่างมาก ตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งสร้างบรรยากาศและวางรากฐาน ด้วยปลูกฝังจิตสำนึก ผ่านกลไก “บวร” บ้าน-วัด-โรงเรียน และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และโครงการ “ประชารัฐ” ต่างๆ อันเป็นนโยบายของรัฐบาลเอง โดยไม่ปล่อยให้ “กระแสทุนนิยม บริโภคนิยม วัตถุนิยม” ครอบงำ กัดกร่อน จิตใจคนไทย ให้มีแต่ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ เพราะวันนี้ ประเทศชาติต้องการความเสียสละ การเห็นแก่ประเทศชาติ ผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ดังนั้น การเสริมสร้างความ “มั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน” ของชาติ เราจำเป็นต้องคำนึงถึงโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรูปธรรมและนามธรรม อย่างสมดุล มีภารกิจ ความท้าทายของชาติ และของโลก ในอนาคต ยังมีอีกมาก ผมจึงขอความร่วมมือ สามัคคี ปรองดอง ของคนทั้งชาติ ในการเดินหน้าประเทศ ในการปฏิรูปประเทศต่อไปครับ

ตัวอย่างที่ดี คือ วันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมา “วันออกเสียงประชามติ” เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ ที่ผมอยากจะเรียกว่า เป็น “รัฐธรรมนูญฯ ฉบับประชาชน” เนื่องจาก “เสียงส่วนใหญ่” ให้การยอมรับ ทั้งรัฐธรรรมนูญและประเด็นคำถามพ่วง โดยมีพี่น้องประชาชน ได้ออกมาแสดง “พลังอันบริสุทธิ์” ด้วยการไปใช้สิทธิ์ในครั้งนี้ เกือบร้อยละ 60 ของจำนวนผู้มีสิทธิ์ออกเสียง ผมเห็นว่า “ความรักชาติและความสามัคคีของคนในชาติ” กลับคืนสู่สังคมไทยแล้ว อย่างค่อยเป็นค่อยไป และนับเป็นความตื่นตัวทางการเมืองของ “เจ้าของอำนาจ” อย่างน่าชื่นชม นอกจากนี้ ผมคิดว่า “เสียงบริสุทธิ์” ที่ปราศจากการชี้นำ หรืออิทธิผลทางการเมือง ย่อมสะท้อนถึงความต้องการ “ที่แท้จริง” ของประชาชน ที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า การปฏิรูปประเทศเพื่ออนาคตของลูกหลาน ดังนั้น ผมขอให้ทุกฝ่ายเคารพการตัดสินใจของประชาชน และขอความร่วมมือกันเดินหน้าประเทศต่อไป อย่างไรก็ตาม “เสียงส่วนน้อย” ก็ยังเป็นเสียงที่มีคุณค่าตามหลักประชาธิปไตย ที่จะต้องได้รับการรับฟัง แล้วนำมาพิจารณา เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคม ได้อย่างปกติสุขครับ ทิศทางประเทศนับจากนี้ไป จะเป็นไปตาม Roadmap ของเรา ที่ คสช. ได้กำหนดไว้ โดย 3 เดือนจากนี้ไป คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจะต้องแก้ไขเพิ่มเติม ในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญฯ ให้สอดคล้องกับประเด็นคำถามพ่วง ตามความเห็นชอบจากประชาชน จากนั้น ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบความถูกต้อง ก่อนที่ผม ในฐานะนายกรัฐมนตรี จะได้นำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อทรงพิจารณาและลงพระปรมาภิไธยต่อไป โดยจะมีวันสำคัญที่จะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ชาติไทย อีก 2 วัน ได้แก่ (1) วันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับใหม่ แก่ประชาชนชาวไทย ประมาณเดือน พ.ย.59 และ (2) วัน เลือกตั้งทั่วไป ช่วงปลายปี 60 โดยผมขอให้เราทุกคน ลบเลือนอดีตที่เจ็บปวดและล้มเหลว ออกจากใจ เก็บไว้เป็นบทเรียน ย้ำเตือนใจ สำหรับการก้าวไปสู่อนาคตที่เริ่มชัดเจน สัมผัสได้ ที่รอเราอยู่ ซึ่งเราจะไขว่คว้าโอกาสนั้นได้มากเพียงใด ขึ้นอยู่กับความสามัคคีของคนในชาติ

ที่กล่าวมานั้น คือ ความชัดเจนและเชื่อถือได้ ที่รัฐบาลและ คสช. มีให้กับประชาชนชาวไทยเสมอมา นับตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาควบคุมสถานการณ์ สำหรับเพื่อนบ้าน พันธมิตร และประชาคมโลก ที่แสดงความเป็นห่วง เฝ้าติดตามสถานการณ์ และให้กำลังใจกับประเทศไทย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น ผมได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินหน้าประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจ ถึงความต้องการของประชาชนตามผลประชามติ เส้นทางสู่การเลือกตั้ง และแผนพัฒนเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ซึ่งเป็นแผนระยะสั้น ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศ ซึ่งเป็นแผนระยะยาว เพื่อความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอันดี รวมทั้งสร้างความเชื่อมือแก่นักลงทุน ทั้งภายในและนอกประเทศด้วยครับ

อีก 1 ปีเศษ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไป และไปจนถึงการส่งมอบภาระหน้าที่ให้กับรัฐบาลใหม่ ผม รัฐบาล และ คสช. ยังคงต้องการความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจกันของคนในชาติ เหมือนที่เคยได้รับ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ในการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงต่างๆ นั้น ต้องการความเข้าใจและปรับตัวเข้าหากัน พูดจากันด้วยความจริงใจ ผมขอให้เชื่อมั่นและไว้วางใจว่า “รัฐบาลนี้จะเป็นรัฐบาลของคนไทยทั้งประเทศ” ที่มุ่งมั่นรักษาความมั่นคง เพื่อพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่งคั่ง อย่างยั่งยืน โดยจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ ให้บังเกิดประโยชน์สูงสุด แก่ประเทศชาติและประชาชนครับ

สุดท้ายนี้ เนื่องจากวันนี้เป็น “วันแม่แห่งชาติ” ผมขอให้ทุกครอบครัวคนไทย ได้แสวงหาความสุข พร้อมหน้ากัน พ่อ-แม่-ลูก ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หากต้องการของขวัญวันแม่สักชิ้น ผมขอแนะนำซื้อหาสินค้า “OTOP ประชารัฐ” โดยชาวกรุงเทพฯ หาซื้อได้ที่งาน “ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ประชารัฐ ก้าวไกล ด้วยพระบารมี” ณ เมืองทองธานี สำหรับผู้ที่เดินทางไปต่างจังหวัด ก็แวะซื้อได้ที่ร้านค้าประชารัฐสุขใจ ในปั๊ม ปตท. หรือร้านค้าที่ร่วมรายการได้ ทั่วประเทศ ทั้งนี้ เป็นโครงการ “ช็อปช่วยชุมชน”ของรัฐบาล นอกจากจะเป็นการสนับสนุนสินค้าไทยและส่งเสริมศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านแล้ว ท่านยังสามารถนำใบเสร็จ มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้อีกด้วยครับ

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร