นนทบุรี 9 ส.ค. – รมว.พาณิชย์หารือสภาหอการค้าฯ แก้อุปสรรคการค้าชายแดน เร่งเปิดด่าน มุ่งหนุนเอกชนเป็นทัพหน้าช่วยการส่งออกสินค้าไทย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประชุมร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยพร้อมเครือข่ายหอการค้าไทย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหารืออุปสรรคปัญหาร่วมกันกับผู้บริหารสภาหอการค้าฯ โดยเห็นร่วมกันว่าจะตั้งวอร์รูมระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนซึ่งจะมีผู้แทนของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยด้วย เพื่อติดตามสถานการณ์หาทางออกร่วมกัน เพื่อเดินหน้าการค้าของประเทศไทยสู่ตลาดโลก และมีความเห็นร่วมกันที่จะเร่งรัดการส่งออก โดยจะมีคณะทำงานเจาะลึกการส่งออกทั้งรายสินค้า-บริการและรายตลาด ทั้งนี้ เพื่อให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปสนับสนุนเป็นทัพหนุนและให้เอกชนเป็นทัพหน้าตามแนวที่ให้ไว้
นอกจากนี้ ยังเห็นตรงกันว่าจะมีการเร่งรัดการเจรจาการค้าระหว่างประเทศสำหรับประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นประเทศอาร์เซ็ป (อาเซียน+6) ที่จะเร่งรัดให้จบภายในปีนี้ และเริ่มต้นพื้นการเจรจาเอฟทีเอระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป (อียู) และร่วมกันผลักดันการค้าชายแดน เพราะมีความสำคัญอย่างยิ่งเป็นตลาดใหญ่อัตราการขยายตัวอย่างดี สิ่งที่หอการค้าไทยอยากเห็น คือ เร่งรัดการเปิดด่านเพื่อการค้าชายแดนเป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ตาม จะมีตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อหาทางออกเรื่องกฎหมายระเบียบต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคทางด้านการค้าหรือไม่มีความทันสมัย โดยดำเนินการแก้ไขใช้ช่องทางรัฐสภาฯ ต่อไป นอกจากนี้ ทางสภาหอการค้าฯ ยังได้เสนอตัวเข้ามามีส่วนร่วมในช่องทางการจัดจำหน่ายผลไม้ที่กระทรวงพาณิชย์เพิ่งผ่านการทำข้อตกลง (MOU) กับภาคส่วนต่าง ๆ ไปก็จะเข้ามาเสริมเป็นกำลังสำคัญ โดยใช้หอการค้าจังหวัดต่าง ๆ ภายใต้สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงการค้าชายแดนและข้ามแดน โดยเสนอให้มีการเร่งรัดยกระดับด่านชายแดนที่เป็นด่านสำคัญทางการค้า ทั้ง 6 ด้าน คือ จุดผ่อนปรนบ้านห้วยต้นนุ่น จังหวัดแม่ฮ่องสอน จุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 จุดผ่อนปรนพิเศษสิงขร จุดผ่อนปรนช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี จุดผ่อนปรนช่องสายตะกู จังหวัดบุรีรัมย์ และช่องทางการค้าทางธรรมชาติบ้านท่าเส้น จังหวัดตราด ร่วมถึงผลักดันการขยายช่องทางโลจิสติกส์หรือการลำเลียงสินค้าและการพัฒนาเส้นทางคมนาคมทางฝั่งไทย เนื่องจากมีการพัฒนาทางฝั่งชายแดนเพื่อนบ้าน เช่น พม่าค่อนข้างพร้อมก่อนแล้ว และยังได้หารือในเรื่องอุปสรรคทางค่าเงินและด้านแรงงานด้วยอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย