เปิดชีวิต ‘แม่’ ชีวิตพังหลังติดเหล้า กลับตัวเป็น ‘แม่จิตอาสา’

กทม.8ส.ค.-แม่ชีวิตพังหลังติดเหล้า เผยหันกลับมายึดลูกเป็นแรงบันดาลใจ เปลี่ยนตัวเองเป็นแบบอย่างที่ดี ก่อนผันตัวเป็นจิตอาสาถ่ายทอดประสบการณ์ช่วยเหลือคนอื่น ด้านหนุ่มวัยโจ๋พลิกชีวิตจากด้านมืดสู่เส้นทางใหม่ตอบแทนบุญคุณแม่  


            

มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล  เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) จัดกิจกรรมเนื่องในวันแม่ เพื่อเติมเต็มพลังใจในการสู้ชีวิตของคนเป็นแม่ ภายในงานมีเวทีเสวนา “ฝ่าวิกฤตชีวิตแม่…กว่าจะถึงวันที่ก้าวผ่าน” 


            

นางนัยนา ยลจอหอ  ประธานชุมชนวัดสวัสดิ์วารีสีมาราม เขตดุสิต  แม่ที่ต้องเผชิญมรสุมชีวิต เปิดเผยว่า ชีวิตเกือบพังเพราะเหล้าด้วยสามีเป็นคนชอบดื่มไปไหนมาไหนก็จะดื่มด้วยกันตลอดเพราะคิดว่าเป็นการเสียเปรียบพอเมาแล้วเกิดความหึงหวง ถึงขั้นทะเลาะตบตีกันประจำโดยไม่นึกถึงลูก จนสามีเสียชีวิตจากดื่มเหล้าสูบบุหรี่หนัก จากนั้นอยู่กับลูกมาตลอด ซึ่งปกติเวลาดื่มเหล้าหนักมากเมาแล้วนอนได้ทุกที่ไม่สนใจอะไร เพราะรู้สึกสนุกสนานกล้าแสดงออก

‘จุดเปลี่ยนที่ทำให้เลิกดื่มเหล้าคือลูกเป็นแรงบันดาลใจสำคัญ อยากมีชีวิตอยู่เพื่อลูกซึ่งเป็นเด็กดีมาก ไม่เคยทำให้แม่เสียใจ ทำให้คิดได้ว่าการไม่ดื่มให้ลูกเห็นน่าจะเป็นสิ่งดี ประกอบกับทางมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลเข้ามาให้ข้อมูลและคำปรึกษาเหล้าก่อให้เกิดความรุนแรงครอบครัว ได้รับผล กระทบโดยตรงจากนั้นจึงอยากถ่ายทอดให้คนอื่น เป็นต้นแบบในการชวนคนเข้ามาทำงาน ร่วมกันในโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาจนบางคนสามารถเลิกดื่มเหล้าได้จริง ส่งผลให้มีสุขภาพดีขึ้นการเงินการงานครอบครัวดีขึ้นด้วย ตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่กับลูก มีความสุขมาก สุขภาพก็ดีขึ้นมีเงินเหลือมากขึ้นด้วย อยากสะท้อนชีวิตที่ผ่านมรสุมเลวร้ายของตัวเองให้เป็นวิทยาทานกับคนอื่นๆจึงผันตัวมาทำงานจิตอาสาช่วยเหลือสังคมอย่างทุกวันนี้ และขอฝากว่าการที่คิดว่าเหล้าคือทางออก คือที่พึ่งนั้นไม่จริงเลย เป็นการหลอกตัวเอง สถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายดำดิ่ง  พอขาดสติจะทำอะไรก็ได้ ซึ่งมีแต่เสียหาย” นางนัยนากล่าว


           

นายอัครพงษ์  บุญมี อดีตลูกที่เคยก้าวพลาด กล่าวว่า แม่เลี้ยงตนซึ่งเป็นลูกคนเดียวมาตั้งแต่เล็กจนโต ตนเป็นคนติดเพื่อนไม่ยอมเรียนหนังสือ ชอบไปกินเหล้ามั่วสุมตามห้องเพื่อน จนวันเกิดเหตุเป็นวันเกิดเพื่อน มีการรวมตัวกันกินเหล้า เกิดเรื่องกัน จนเจอข้อหาฆ่าคนตาย  ถูกจับดำเนินคดีและศาลตัดสินจำคุกในวัยเพียง 16 ปี   

“จำได้ว่าในวันแรกที่ติดคุก คนที่ไม่เคยทิ้งไปไหนเลยคือแม่ มาหาเป็นคนแรก น้ำตาแม่ในวันนั้นจำได้ดี รู้เลยว่าวันนั้นแม่ไม่ได้กินอะไรเลย อยู่ในสภาพกินไม่ได้นอนไม่หลับไม่น้อยไปกว่าผมที่อยู่ในคุก ส่วนเพื่อนฝูงที่กินเที่ยวด้วยกันก็ห่างหายไป ทุกครั้งที่แม่มาหารู้เลยว่าไม่มีเงิน แต่แม่จะให้กำลังใจตลอด ไม่เคยซ้ำเติม และบอกเสมอว่าทำผิดต้องยอมรับผิดอย่างลูกผู้ชาย คนเราล้มแล้วลุกขึ้นใหม่ได้ แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่แม่ก็เชื่อมั่นเสมอว่าผมต้องทำได้ ผมอาจไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จใหญ่โตมากมาย แค่มีกิจการงานเฟอร์นิเจอร์เล็กๆ  มีบ้านเป็นของตัวเอง รับเหมางานซ่อมแซมต่อเติมบ้านอยู่บ้าง ไม่ต้องเป็นภาระแม่และพอจะดูแลแม่ได้ตามอัตภาพ สร้างครอบครัวน้อยๆของผมกับลูกและภรรยา วันนี้ดีใจมาก  เป็นโอกาสดีอีกครั้งหนึ่งที่ได้บอกรักแม่ ขอโทษแม่ที่เคยทำผิดพลาดมาและได้กราบเท้าแม่ ตอนนี้รู้แล้วว่าแม่รักเรามากแค่ไหน แม่เป็นกำลังใจสำคัญมากอยู่เคียงข้างตลอดไม่เคยบ่นเคยว่าให้รู้สึกแย่ตั้งแต่วันที่ก้าวพลาดจนถึงวันนี้” นายอัครพงษ์ กล่าว

น.ส.อังคณา อินทสา หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล วิเคราะห์สถานการณ์ความเป็นแม่ ความเป็นเมีย กับภาระที่แบกรับท่ามกลางสังคมชายเป็นใหญ่ ว่า ความรุนแรงในครอบครัวต่อผู้หญิง ทั้งในฐานะความเป็นแม่และความเป็นเมีย เกิดขึ้นทั้งระหว่างสามีภรรยา คู่รักแบบแฟน พ่อแม่ ลูก หรือเครือญาติ  จากการทบทวนปัญหาความรุนแรงในครอบครัวจากหนังสือพิมพ์ของมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ปี 2559 พบว่ามีจำนวน 466 ข่าว ข่าวฆ่ากันตายมากที่สุด รองลงมาข่าวฆ่าตัวตายและข่าวทำร้ายกัน ส่วนอายุผู้ถูกกระทำความรุนแรง คืออายุ 31-40 ปี รองลงมาอายุ41-50 และอายุ 21-30 ปี ซึ่งถือเป็นผู้หญิงอยู่ในวัยทำงานที่มีสถานะความเป็นเมียและความเป็นแม่ 

สำหรับอายุของผู้กระทำ พบว่า อายุ 31-40 ปี ตามด้วยอายุ 41-50 ปีและอายุ 51-40 ปีตามลำดับซึ่งสอดคล้องกับผู้เข้ามาใช้บริการของฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิงมีปัจจัยร่วมจากเครื่องดื่มมึนเมา สารเสพติด และสื่อลามก เหตุการณ์ความรุนแรงส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต สภาวะทางจิตใจ หลายรายสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเอง โทษตัวเอง ทำร้ายตัวเองตลอดเวลา         

น.ส.อังคณา กล่าวว่า ภายใต้สังคมแบบชายเป็นใหญ่ ที่กำหนดให้สถานภาพและตำแหน่งของเพศชายเหนือกว่าเพศหญิงและให้คุณค่าความเป็นชายมากกว่าความเป็นหญิง เครื่องมือสำคัญของการดำรงอยู่และถ่ายทอดวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ คือ ระบบความเป็นเพศที่ได้หล่อหลอมบทบาทหน้าที่ อำนาจ สถานภาพ คุณค่าและความสัมพันธ์ทางเพศที่แตกต่างกันและไม่เท่าเทียมระหว่างเพศ รวมถึงสถาบันต่างๆในสังคม เช่น ความเป็นแม่ที่ต้องเป็นผู้ดูแลทุกคนในครอบครัว ต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่อการถูกกระทำความรุนแรง หรือหลายกรณีเกิดปัญหาลูกถูกคุกคามทางเพศ และแม่ต้องแบกรับการแก้ไขปัญหาเพียงลำพังหรือกล่าวโทษแม่ที่ดูแลคนในครอบครัวไม่ดีโดยยกภาระให้กับผู้หญิงเพียงฝ่ายเดียว และเมื่อผู้หญิงแบ่งเบาภาระของคนในครอบครัวแล้ว ผู้ชายก็ต้องแบ่งเบางานบ้านหรือแบ่งเบาภาระผู้หญิงด้วย

“เมื่อแม่หรือผู้หญิงต้องเจอปัญหาวิกฤตในครอบครัวถูกใช้ความรุนแรงจากสามี ผู้หญิงบางรายลูกถูกข่มขืนจากพ่อ/พ่อเลี้ยง หรือเครือญาติของตนเอง ส่งผลให้ถูกกดดันมากยิ่งขึ้นจากการปกป้องตนเองและปกป้องลูก แม่จึงเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้า เครียด ถูกกดดันจากคนรอบข้าง สังคม จะเห็นได้ว่าผู้หญิงที่อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อความรุนแรงทางเพศเป็นผู้หญิง เป็นแม่ที่อยู่ในวัยทำงาน ทำให้มีผลต่อการขาดประสิทธิภาพใจการทำงาน และส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม หลายรายเลือกหันไปพึ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำมาสู่ปัญหาทวีคูณมากขึ้น เนื่องในโอกาสเทศกาลวันแม่ สังคมควรมีพื้นที่ให้ผู้หญิงหรือแม่ได้มีพื้นที่ระบายความทุกข์ หาทางออก เห็นพลัง เห็นอำนาจภายในตัวเอง และควรมีการส่งเสริมให้ผู้หญิงสามารถลุกขึ้นปกป้องตนเองได้ โดยครอบครัว คนรอบข้างต้องเข้าใจ ไม่ซ้ำเติม สิ่งสำคัญทุกคนในครอบครัวต้องเคารพในความเป็นมนุษย์ ให้เกียรติ ไม่ทำร้ายใช้ความรุนแรงทางร่างกาย อันเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการใช้ชีวิต ขณะที่คนในสังคมต้องไม่เพิกเฉยต่อความรุนแรง หรือมองว่าเป็นเรื่องของคนอื่น เพื่อร่วมกันป้องกันและยุติความรุนแรงให้ลดน้อยลง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

สยองหนุ่มลำปางเสียชีวิตบนรถทัวร์ พบติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ

ลำปาง 17 มิ.ย.- จากเหตุหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิตในรถทัวร์จากโคราชกลับบ้านที่ลำปางโดยที่เพื่อนร่วมทางไม่รู้ ผลชันสูตรพบติดเชื้อในกระแสเลือดจากโรคแบคทีเรียกินเนื้อ ที่เคยระบาดในญี่ปุ่น ซึ่งญาติยืนยันผู้ตายไม่มีโรคประจำตัว แต่เคยเป็นงูสวัดจนลามไปที่หูและพบอาการขาบวมไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนเสียชีวิต ขณะที่แพทย์ระบุหากเกิดแผลมีโอกาสรับเชื้อแบคทีเรียจนเนื้อเน่าได้โดยเฉพาะกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ .-สำนักข่าวไทย

วันแรกห้ามคนไทยไปทำงาน “กาสิโน-สถานบันเทิง” ปอยเปต

กัมพูชา 17 มิ.ย. – ติดตามบรรยากาศวันแรกของการยกระดับมาตรการคุมเข้มการเดินทางข้ามไปที่กาสิโนฝั่งกัมพูชา ที่ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ด่านที่มีมูลค่าการค้าสูงสุดระหว่างไทยและกัมพูชา สำหรับวันแรกของมาตรการยกระดับตามคำสั่งกองกำลังบูรพาที่ห้ามไม่ให้คนไทยข้ามไปบ่อนและคาสิโนฝั่งกัมพูชาทั้งคนที่จะข้ามไปทำงานและเล่นการพนัน ในช่วงเช้าก่อนที่จะทราบมาตรการ พบมีคนไทยจำนวนมากนั่งต่อแถวยาวเหยียดตั้งแต่หน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองยาวไปจนถึงตลาดโรงเกลือระยะทาง 2 กิโลเมตร แต่เมื่อมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงมาตรการที่มีการยกระดับและให้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินปรากฏว่าคนไทยที่นั่งต่อแถวได้แยกย้ายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้หลังการยกระดับคำสั่งของกองกำลังบูรพาพบว่าจากเดิมที่มีคนไทยข้ามไปฝั่งปอยเปตเฉลี่ยวันละ 4,000-5,000 คน วันนี้ปรากฏว่าเป็นคนไทยเดินทางข้ามไปเป็นความบังเอิญที่ตัวเลขทั้งข้ามไปโดย Flowing Pass หรือบัตรผ่านแดนชั่วคราวและข้ามไปโดยพาสปอร์ตมีตัวเลขตรงกันคือมีข้ามไปเพียงอย่างละ 196 คนเท่านั้น โดยมีรายงานว่าสำหรับคนที่ไม่ได้ข้ามไป ถ้าเป็นคนในพื้นที่ที่เคยข้ามไปทำงาน บางส่วนก็กลับไปที่บ้านพัก แต่สำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางข้ามไปกาสิโนฝั่งกัมพูชา บางส่วนก็เดินทางกลับต้นทาง แต่บางส่วนที่หวังว่า อาจมีการผ่อนคลายมาตรการ ก็เปิดรีสอร์ตหรือห้องพักต่างๆ ใกล้เคียงด่านเป็นที่พำนัก ทำให้ขณะนี้รีสอร์ตและโรงแรมต่างๆ ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว มีผู้เข้าพักเต็มในหลายที่ด้วยกัน พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่าได้รับคำสั่งจากกองกำลังบูรพาตั้งแต่ค่ำวานนี้และถือปฏิบัติตั้งแต่เวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา ดังนั้นประชาสัมพันธ์ถึงคนไทยที่อยู่ในฝั่งปอยเปตให้รีบเดินทางกลับมายังฝั่งไทยส่วนคนไทยที่จะเดินทางข้ามไปอย่างกัมพูชาหากไม่จำเป็นขอให้งดการเดินทาง ทั้งนี้สำหรับการรองรับหลังมีการควบคุมบริเวณด่านพรมแดนไม่ข้ามไปยังบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชา พบว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตำรวจตระเวนชายแดนและทหารพรานคุมเข้มตั้งแต่ต้นน้ำ และมีรายงานว่ามีการวางกำลังตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาในเขตจังหวัดสระแก้วเช่น เพื่อป้องกันการลักลอบใช้ช่องทางธรรมชาติเพื่อเข้าไปยังประเทศกัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

บอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท กทม.-บางกิจการ ตจว.

กทม. 17 มิ.ย.-แรงงานเฮ! ก.แรงงาน ขับเคลื่อนสำเร็จ “ปลัดบุญสงค์” เผยบอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท พื้นที่กรุงเทพฯ และบางกิจการในต่างจังหวัด เริ่ม 1 ก.ค.นี้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) ชุดที่ 22 ครั้งที่ 6/2568 มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้น ค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ในหลายพื้นที่และกลุ่มกิจการทั่วประเทศ โดยถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการยกระดับรายได้ให้กับแรงงานไทย ตามแนวทางนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ที่มุ่งให้แรงงานไทยมีค่าจ้างที่เป็นธรรม และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน มติของที่ประชุมในวันนี้ ซึ่งประกอบด้วยกรรมการจากฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง และฝ่ายรัฐบาล รวม 15 คน มีเสียงเห็นชอบ 2 ใน 3 โดยกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ดังนี้•พื้นที่กรุงเทพมหานคร ปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวัน ทั่วพื้นที่•ต่างจังหวัด ปรับค่าแรง 400 บาท […]

นายกฯ เผยพร้อมอพยพคนไทยออกจากกรุงเตหะราน

พรรคเพื่อไทย 17 มิ.ย.-นายกฯ ย้ำความพร้อมหลังสถานทูตฯ สั่งคนไทยอพยพออกจากกรุงเตหะราน ปัดตอบ “อนุทิน” เตรียมเป็นฝ่ายค้าน หากยึดมหาดไทยคืน เมื่อเวลา 16.45 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ออกแถลงการณ์อพยพคนไทยออกจากกรุงเตหะราน หลังจากสถานการณ์ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้ง แต่เดี๋ยวจะเช็กเลย น่าจะอพยพแล้ว เพราะเตรียมการไว้แล้วตั้งแต่เมื่อเช้า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบคำถามถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า หากกระทรวงมหาดไทยไม่ได้อยู่กับพรรคภูมิใจไทย ก็พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน โดยนายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับในทันที.-316.-สำนักข่าวไทย