เปิดชีวิต ‘แม่’ ชีวิตพังหลังติดเหล้า กลับตัวเป็น ‘แม่จิตอาสา’

กทม.8ส.ค.-แม่ชีวิตพังหลังติดเหล้า เผยหันกลับมายึดลูกเป็นแรงบันดาลใจ เปลี่ยนตัวเองเป็นแบบอย่างที่ดี ก่อนผันตัวเป็นจิตอาสาถ่ายทอดประสบการณ์ช่วยเหลือคนอื่น ด้านหนุ่มวัยโจ๋พลิกชีวิตจากด้านมืดสู่เส้นทางใหม่ตอบแทนบุญคุณแม่  


            

มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล  เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) จัดกิจกรรมเนื่องในวันแม่ เพื่อเติมเต็มพลังใจในการสู้ชีวิตของคนเป็นแม่ ภายในงานมีเวทีเสวนา “ฝ่าวิกฤตชีวิตแม่…กว่าจะถึงวันที่ก้าวผ่าน” 


            

นางนัยนา ยลจอหอ  ประธานชุมชนวัดสวัสดิ์วารีสีมาราม เขตดุสิต  แม่ที่ต้องเผชิญมรสุมชีวิต เปิดเผยว่า ชีวิตเกือบพังเพราะเหล้าด้วยสามีเป็นคนชอบดื่มไปไหนมาไหนก็จะดื่มด้วยกันตลอดเพราะคิดว่าเป็นการเสียเปรียบพอเมาแล้วเกิดความหึงหวง ถึงขั้นทะเลาะตบตีกันประจำโดยไม่นึกถึงลูก จนสามีเสียชีวิตจากดื่มเหล้าสูบบุหรี่หนัก จากนั้นอยู่กับลูกมาตลอด ซึ่งปกติเวลาดื่มเหล้าหนักมากเมาแล้วนอนได้ทุกที่ไม่สนใจอะไร เพราะรู้สึกสนุกสนานกล้าแสดงออก

‘จุดเปลี่ยนที่ทำให้เลิกดื่มเหล้าคือลูกเป็นแรงบันดาลใจสำคัญ อยากมีชีวิตอยู่เพื่อลูกซึ่งเป็นเด็กดีมาก ไม่เคยทำให้แม่เสียใจ ทำให้คิดได้ว่าการไม่ดื่มให้ลูกเห็นน่าจะเป็นสิ่งดี ประกอบกับทางมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลเข้ามาให้ข้อมูลและคำปรึกษาเหล้าก่อให้เกิดความรุนแรงครอบครัว ได้รับผล กระทบโดยตรงจากนั้นจึงอยากถ่ายทอดให้คนอื่น เป็นต้นแบบในการชวนคนเข้ามาทำงาน ร่วมกันในโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาจนบางคนสามารถเลิกดื่มเหล้าได้จริง ส่งผลให้มีสุขภาพดีขึ้นการเงินการงานครอบครัวดีขึ้นด้วย ตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่กับลูก มีความสุขมาก สุขภาพก็ดีขึ้นมีเงินเหลือมากขึ้นด้วย อยากสะท้อนชีวิตที่ผ่านมรสุมเลวร้ายของตัวเองให้เป็นวิทยาทานกับคนอื่นๆจึงผันตัวมาทำงานจิตอาสาช่วยเหลือสังคมอย่างทุกวันนี้ และขอฝากว่าการที่คิดว่าเหล้าคือทางออก คือที่พึ่งนั้นไม่จริงเลย เป็นการหลอกตัวเอง สถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายดำดิ่ง  พอขาดสติจะทำอะไรก็ได้ ซึ่งมีแต่เสียหาย” นางนัยนากล่าว


           

นายอัครพงษ์  บุญมี อดีตลูกที่เคยก้าวพลาด กล่าวว่า แม่เลี้ยงตนซึ่งเป็นลูกคนเดียวมาตั้งแต่เล็กจนโต ตนเป็นคนติดเพื่อนไม่ยอมเรียนหนังสือ ชอบไปกินเหล้ามั่วสุมตามห้องเพื่อน จนวันเกิดเหตุเป็นวันเกิดเพื่อน มีการรวมตัวกันกินเหล้า เกิดเรื่องกัน จนเจอข้อหาฆ่าคนตาย  ถูกจับดำเนินคดีและศาลตัดสินจำคุกในวัยเพียง 16 ปี   

“จำได้ว่าในวันแรกที่ติดคุก คนที่ไม่เคยทิ้งไปไหนเลยคือแม่ มาหาเป็นคนแรก น้ำตาแม่ในวันนั้นจำได้ดี รู้เลยว่าวันนั้นแม่ไม่ได้กินอะไรเลย อยู่ในสภาพกินไม่ได้นอนไม่หลับไม่น้อยไปกว่าผมที่อยู่ในคุก ส่วนเพื่อนฝูงที่กินเที่ยวด้วยกันก็ห่างหายไป ทุกครั้งที่แม่มาหารู้เลยว่าไม่มีเงิน แต่แม่จะให้กำลังใจตลอด ไม่เคยซ้ำเติม และบอกเสมอว่าทำผิดต้องยอมรับผิดอย่างลูกผู้ชาย คนเราล้มแล้วลุกขึ้นใหม่ได้ แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่แม่ก็เชื่อมั่นเสมอว่าผมต้องทำได้ ผมอาจไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จใหญ่โตมากมาย แค่มีกิจการงานเฟอร์นิเจอร์เล็กๆ  มีบ้านเป็นของตัวเอง รับเหมางานซ่อมแซมต่อเติมบ้านอยู่บ้าง ไม่ต้องเป็นภาระแม่และพอจะดูแลแม่ได้ตามอัตภาพ สร้างครอบครัวน้อยๆของผมกับลูกและภรรยา วันนี้ดีใจมาก  เป็นโอกาสดีอีกครั้งหนึ่งที่ได้บอกรักแม่ ขอโทษแม่ที่เคยทำผิดพลาดมาและได้กราบเท้าแม่ ตอนนี้รู้แล้วว่าแม่รักเรามากแค่ไหน แม่เป็นกำลังใจสำคัญมากอยู่เคียงข้างตลอดไม่เคยบ่นเคยว่าให้รู้สึกแย่ตั้งแต่วันที่ก้าวพลาดจนถึงวันนี้” นายอัครพงษ์ กล่าว

น.ส.อังคณา อินทสา หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล วิเคราะห์สถานการณ์ความเป็นแม่ ความเป็นเมีย กับภาระที่แบกรับท่ามกลางสังคมชายเป็นใหญ่ ว่า ความรุนแรงในครอบครัวต่อผู้หญิง ทั้งในฐานะความเป็นแม่และความเป็นเมีย เกิดขึ้นทั้งระหว่างสามีภรรยา คู่รักแบบแฟน พ่อแม่ ลูก หรือเครือญาติ  จากการทบทวนปัญหาความรุนแรงในครอบครัวจากหนังสือพิมพ์ของมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ปี 2559 พบว่ามีจำนวน 466 ข่าว ข่าวฆ่ากันตายมากที่สุด รองลงมาข่าวฆ่าตัวตายและข่าวทำร้ายกัน ส่วนอายุผู้ถูกกระทำความรุนแรง คืออายุ 31-40 ปี รองลงมาอายุ41-50 และอายุ 21-30 ปี ซึ่งถือเป็นผู้หญิงอยู่ในวัยทำงานที่มีสถานะความเป็นเมียและความเป็นแม่ 

สำหรับอายุของผู้กระทำ พบว่า อายุ 31-40 ปี ตามด้วยอายุ 41-50 ปีและอายุ 51-40 ปีตามลำดับซึ่งสอดคล้องกับผู้เข้ามาใช้บริการของฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิงมีปัจจัยร่วมจากเครื่องดื่มมึนเมา สารเสพติด และสื่อลามก เหตุการณ์ความรุนแรงส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต สภาวะทางจิตใจ หลายรายสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเอง โทษตัวเอง ทำร้ายตัวเองตลอดเวลา         

น.ส.อังคณา กล่าวว่า ภายใต้สังคมแบบชายเป็นใหญ่ ที่กำหนดให้สถานภาพและตำแหน่งของเพศชายเหนือกว่าเพศหญิงและให้คุณค่าความเป็นชายมากกว่าความเป็นหญิง เครื่องมือสำคัญของการดำรงอยู่และถ่ายทอดวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ คือ ระบบความเป็นเพศที่ได้หล่อหลอมบทบาทหน้าที่ อำนาจ สถานภาพ คุณค่าและความสัมพันธ์ทางเพศที่แตกต่างกันและไม่เท่าเทียมระหว่างเพศ รวมถึงสถาบันต่างๆในสังคม เช่น ความเป็นแม่ที่ต้องเป็นผู้ดูแลทุกคนในครอบครัว ต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่อการถูกกระทำความรุนแรง หรือหลายกรณีเกิดปัญหาลูกถูกคุกคามทางเพศ และแม่ต้องแบกรับการแก้ไขปัญหาเพียงลำพังหรือกล่าวโทษแม่ที่ดูแลคนในครอบครัวไม่ดีโดยยกภาระให้กับผู้หญิงเพียงฝ่ายเดียว และเมื่อผู้หญิงแบ่งเบาภาระของคนในครอบครัวแล้ว ผู้ชายก็ต้องแบ่งเบางานบ้านหรือแบ่งเบาภาระผู้หญิงด้วย

“เมื่อแม่หรือผู้หญิงต้องเจอปัญหาวิกฤตในครอบครัวถูกใช้ความรุนแรงจากสามี ผู้หญิงบางรายลูกถูกข่มขืนจากพ่อ/พ่อเลี้ยง หรือเครือญาติของตนเอง ส่งผลให้ถูกกดดันมากยิ่งขึ้นจากการปกป้องตนเองและปกป้องลูก แม่จึงเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้า เครียด ถูกกดดันจากคนรอบข้าง สังคม จะเห็นได้ว่าผู้หญิงที่อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อความรุนแรงทางเพศเป็นผู้หญิง เป็นแม่ที่อยู่ในวัยทำงาน ทำให้มีผลต่อการขาดประสิทธิภาพใจการทำงาน และส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม หลายรายเลือกหันไปพึ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำมาสู่ปัญหาทวีคูณมากขึ้น เนื่องในโอกาสเทศกาลวันแม่ สังคมควรมีพื้นที่ให้ผู้หญิงหรือแม่ได้มีพื้นที่ระบายความทุกข์ หาทางออก เห็นพลัง เห็นอำนาจภายในตัวเอง และควรมีการส่งเสริมให้ผู้หญิงสามารถลุกขึ้นปกป้องตนเองได้ โดยครอบครัว คนรอบข้างต้องเข้าใจ ไม่ซ้ำเติม สิ่งสำคัญทุกคนในครอบครัวต้องเคารพในความเป็นมนุษย์ ให้เกียรติ ไม่ทำร้ายใช้ความรุนแรงทางร่างกาย อันเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการใช้ชีวิต ขณะที่คนในสังคมต้องไม่เพิกเฉยต่อความรุนแรง หรือมองว่าเป็นเรื่องของคนอื่น เพื่อร่วมกันป้องกันและยุติความรุนแรงให้ลดน้อยลง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย