ปลดล็อกกัญชา ติดล็อกกัญชา ตอน 3

กรุงเทพฯ 7 ส.ค.- ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ป่วยที่ใช้น้ำมันกัญชาโดยไม่ผ่านการแนะนำจากแพทย์ จนมีอาการข้างเคียง ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลแล้วหลายราย นโยบายปลดล็อกกัญชาเพื่อการแพทย์เริ่มชัดเจนมากขึ้น แต่แพทย์บางกลุ่มเห็นว่า ควรดำเนินนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไป ติดตามจากรายงานพิเศษ “ปลดล็อกกัญชา ติดล็อกกัญชา” วันนี้นำเสนอเป็นตอนสุดท้าย


นี่เป็นบันทึกการรักษาของคนไข้รายหนึ่ง ที่ถูกส่งตัวมาห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลกลางดึก หลังใช้น้ำมันกัญชาเพียง 1 หยด เพื่อให้หลับ แต่กลับเกิดอาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ


หัวหน้าห้องไอซียู โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่พฤษภาคมจนถึงขณะนี้ พบผู้ป่วยฉุกเฉินที่มารักษาอาการจากการใช้น้ำมันกัญชากว่า 20 คน ส่วนใหญ่มีอาการหลอน คลื่นไส้อาเจียน และแขนขาเกร็ง เพราะสาร THC ในกัญชามีฤทธิ์ต่อจิตประสาท

แพทย์พบข้อมูลว่า คนไข้ซื้อน้ำมันกัญชาทางอินเทอร์เน็ต อ้างรักษาไมเกรน พาร์กินสัน ซึมเศร้า และมะเร็ง ซึ่งมีความเสี่ยงอันตราย เพราะไม่ทราบแหล่งผลิต และไม่มีวิธีใช้ที่ถูกต้อง


แม้ในไทยจะมีการปลดล็อกให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ทั้งแผนปัจจุบัน และแผนไทยที่ผ่านการอบรมจากสาธารณสุขเท่านั้น แต่ในช่วง 3 เดือนมานี้ กรมการแพทย์เก็บข้อมูลมีผู้ป่วยเข้าห้องฉุกเฉินแล้วมากกว่า 20 คน ส่วนที่เข้าโรงพยาบาลเอกชนคาดจะมีตัวเลขมากกว่านี้

แพทย์ด้านเวชศาสตร์ป้องกันเห็นว่า กระแสสังคมที่บางคนเชื่อว่ากัญชาเป็นยาวิเศษรักษาได้ทุกโรค นโยบายรัฐที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่การศึกษาวิจัยเรื่องกัญชาทางการแพทย์ยังไม่ชัดเจน อาจยากที่จะควบคุม เมื่อเดือนมีนาคม คณะกรรมการควบคุมสารเสพติดนานาชาติ หรือ INCB ออกรายงานประจำปีมีข้อความตอนหนึ่งว่า ในบางประเทศที่ปลดล็อกกัญชาทางการแพทย์ เช่น สหรัฐอเมริกา และแคนาดา ต้องเผชิญกับปัญหาทางสาธารณสุข และสังคมหลายเรื่อง รัฐไม่สามารถควบคุมได้ และมีการลักลอบผลิตและจำหน่ายกัญชามากมาย

ในรายงานนั้นยังระบุว่า ในบางประเทศนอกจากการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ ยังสามารถใช้กัญชาได้เสรี และใช้เพื่อสันทนาการ จนเป็นประตูสู่การเสพยาเสพติดชนิดอื่น บุคลากรทางการแพทย์จึงเสนอให้ภาครัฐดำเนินนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไป หรือติดล็อกกัญชาให้เหมาะสม ศึกษาให้แน่ชัด เช่น ในแพทย์แผนปัจจุบัน ต้องวิจัยหลายขั้นตอน จนพิสูจน์ว่ารักษาโรคได้จริง หรือในระหว่างที่ผู้ป่วยใน 4 กลุ่มโรค เช่น ลมชักในเด็ก กล้ามเนื้อแข็งจากระบบประสาท และผู้ป่วยมะเร็งที่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนจากการได้รับเคมีบำบัด และปวดเรื้อรัง ต้องการใช้น้ำมันกัญชา ก็เสนอให้ทำในระบบปิด คือ คัดกรอง เก็บข้อมูลผู้รับน้ำมันกัญชาจากรัฐ และติดตามผลในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน โดยทำแบบบูรณาการทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและผลกระทบเช่นที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว

ช้างพลายขุนเดช

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” ไปสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” สู่สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง จบดราม่า หลังฝากเลี้ยงที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่