ผบ.ทบ.ขอฟังข่าวระเบิดจากตำรวจ อย่ามโนกันเอง

บก.ทบ. 6 ส.ค.- ผู้บัญชาการทหารบกวอนอย่ามโนข่าวระเบิด ให้รอฟังตำรวจ  เชื่อมั่นจับคนร้ายได้ครบ  ห่วงการขยายผลอาจถูกตัดตอน ต้องใช้เวลาสืบ ชี้ คนก่อเหตุเป็นคนกลุ่มเดิม หวังดิสเครดิตรัฐบาล เชื่อคนดีๆ ไม่ทำกัน ขอประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลประเทศเหมือนบ้าน


พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบระเบิดหลายจุดทั่วกรุงเทพฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา ว่า การให้ข่าวทางโซเชียลและสื่อต่างๆ ต้องอ้างอิงตำรวจ โดยเฉพาะการให้ข่าว ต้องติดตามการแถลงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่ามโนกันไปเอง เพราะมีคนทั้งชอบและไม่ชอบก็ต่างมโนกันไป ต้องระวังข่าวปลอม

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีที่ควบคุมหน่วยงานด้านความมั่นคง จะเป็นผู้สั่งการในงานของทหารและตำรวจ และวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนตนก็จะต้องไปดูเรื่องการวางกำลังและการจัดกำลังใหม่กับแม่ทัพภาคที่ 4 ในการดูแลประชาชน 


“นี่คือบ้านเรา ทุกคนต้องช่วยกันดู ช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบวัตถุต้องสงสัยต้องช่วยดูแลกัน  ผมขอร้องสื่อมวลชนให้ถามคำถามในเชิงสร้างสรรค์ หรืออย่าทำให้เกิดการตีความ เพราะบางข่าวพูดอีกอย่าง แต่เสนออีกอย่าง หรือมีการตัดตอนข่าว หากเป็นอย่างนี้ การสัมภาษณ์ก็ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน ไม่มีใครที่ไม่อยากเห็นประเทศตัวเองไม่สงบเรียบร้อย ผมอยากให้ฟังข่าวสารจากความมั่นคงที่ถูกต้องเป็นหลัก”  พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันรัฐบาลพยายามตั้งศูนย์ในการต่อต้านเฟคนิวส์หรือข่าวปลอมขึ้นมา ซึ่งหลายประเทศเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้มาก   มีระบบให้ความรู้กับประชาชน เพราะประชาชนทุกคนถือว่ามีสิทธิ์มีเสียง และมีไมโครโฟนเป็นของตัวเอง นั่นคือโทรศัพท์มือถือ ที่จะสามารถกดอะไรก็ได้ อยู่ที่วิจารณญาณ และจริยธรรมในตัวของตัวเองในสิ่งที่ตัวเองส่งไป ขอให้ตระหนักถึงการรับและแชร์ข้อมูล โดยขอให้ฟังข้อมูลจากเจ้าหน้าที่เป็นหลัก อย่าไปติดตามอะไรที่ไม่มีที่มาที่ไป

เมื่อถามว่า สาเหตุของการก่อเหตุจะเกิดจากสิ่งใด พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า สาเหตุเพราะต้องการทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่น เนื่องจากเกิดเหตุในช่วงที่บ้านเมืองมีผู้นำต่างประเทศมาประชุมงานด้านการต่างประเทศ  ซึ่งเคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้ในการประชุมอาเซียน เมื่อปี 52 ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ที่จ.ภูเก็ต และที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 


เมื่อถามว่า กลุ่มเดิมๆ ที่เคยระบุไว้ ฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามความเคลื่อนไหวคนกลุ่มนี้ตลอดเวลาหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า   ยังไม่สามารถเชื่อมโยงไปถึงคนที่บงการ หรือวางแผนทุกอย่างด้วยหลักกลยุทธ์และยุทธวิธี เพื่อให้มีคนไปดำเนินการปฎิบัติ เหล่านี้เป็นกระบวนการ คนที่บงการส่วนใหญ่จะสืบไปถึงตัวได้ยาก ทำให้เราได้แต่คาดเดา และต้องใช้เวลาในการหาหลักฐาน 

“ขณะนี้มั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถปฎิบัติงานได้เป็นอย่างดี และตอบสนองนายกรัฐมนตรีได้ ในส่วนของกองทัพบก ให้การสนับสนุนเรื่องข้อมูลข่าวสารที่เคยรวบรวมไว้  กลุ่มเดิมที่ผมหมายถึง คือกลุ่มเดิมที่เป็นมาสเตอร์มาย หรือผู้อยู่เบื้องหลัง มีความคิดที่จะก่อเหตุในทุกรูปแบบ  ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการทำระเบิดหรือการทำข่าวปลอม ก็ถือเป็นการบ่อนทำลายประเทศอีกแบบหนึ่งเหมือนกัน” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว

เมื่อถามว่า ใช่ฝ่ายตรงกันข้ามกับรัฐบาลหรือไม่  พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวหา  ส่วนตัวไม่ได้อยู่ในฐานะนักการเมือง และไม่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว จึงพูดในส่วนของความมั่นคงไม่ได้อ้างอิงเกี่ยวกับการเมือง  เราก็คนไทยด้วยกัน หากประเทศเดินไปได้ในทุกเรื่อง ก็น่าจะเกิดความเรียบร้อย แต่การที่ยังมีคนวางแผนบงการ มีความคิดที่ไม่ยอมรับและไม่เคารพกติกา  ตอนนี้ก็ขอให้ไปเล่นกันในสภาฯ  

ต่อข้อถามว่า ผู้วางแผนหรือผู้บงการอยู่ในหรือนอกประเทศ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า มันอยู่ได้ทุกที่ ทุกหนทุกแห่งในโลกหรืออาจจะอยู่ในโลกออนไลน์ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนให้เป็นหูเป็นตา ดูแลบ้านของทุกคน หากเห็นวัตถุต้องสงสัยก็ขอให้แจ้งมา  เพราะประชานถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุด เราต้องช่วยกันดูแลบ้าน เพราะประเทศไทยคือบ้านของพวกเราทุกคน

เมื่อถามว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับผู้ต้องสงสัยได้แล้ว มั่นใจได้หรือไม่ว่าจะสาวไปถึงตัวผู้บงการได้ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ต้องไปขยายผลในการสืบหาตัวผู้กระทำความผิด คงต้องใช้เวลา บางครั้งที่มีการเรียกว่าตัดตอน คงไม่ใช่ง่ายๆ เพราะทุกอย่างมีความลึกลับซับซ้อน ยิ่งนานวันความลึกลับซับซ้อนของขบวนการมีเทคโนโลยีเป็นส่วนช่วยสามารถเข้าถึงง่าย แต่ในทางกลับกันจะสามารถเข้าถึงตัวผู้บงการได้ง่ายด้วยเช่นเดียวกัน

ส่วนที่มีบางฝ่ายเสนอให้ตัดงบฯ ของกองทัพ เพื่อไปซื้อกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมนั้น พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะกล้องวงจรปิดมีจำนวนมากอยู่แล้ว ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการบูรณาการในการใช้งาน เพราะทุกหน่วยงานมีกล้องวงจรปิดทั้งหมด สังเกตว่าบางครั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถติดตามคนร้ายได้จากกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ บางทีต้องใช้ของธนาคาร ร้านสะดวกซื้อ ห้างร้าน ที่เขามีไว้ปกป้องในส่วนของเขาเอง  ตอนนี้มีระบบการออนไลน์แบบบูรณาการ รวมทั้งยังมีกล้องของ กทม. ตำรวจจราจร ทหาร และตำรวจ คือทุกคนมีกล้องวงจรปิดทั้งหมด สามารถมาบูรณาการใช้ได้ และการซื้อกล้องวงจรปิดก็ไม่ใช่ในส่วนงบประมาณของกระทรวงกลาโหม    . – สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]