ตร.แย้มข่าวดีเหตุลอบวางระเบิดและเพลิงไหม้

กทม.5 ส.ค.- หัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดและเพลิงไหม้ ระบุได้ภาพผู้ต้องสงสัยครบทุกจุด รอฟังข่าวดีจากทีมโฆษก ตร.


พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีลอบวางระเบิดและเหตุเพลิงไหม้ เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้าคดีว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีเร่งไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และรวมรวมหลักฐานทางคดีให้ได้มากที่สุด คาดมีข่าวดีจากทางโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร็ววันนี้  กรณีมีกระแสข่าวว่า ตำรวจเตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุ อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ ยืนยันว่าได้ภาพจากกล้องวงจรปิดผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุครบทุกจุดแล้ว แต่ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ ต้องเป็นระดับผู้บังคับบัญชาในการให้ข่าวเท่านั้น แต่ยืนยันว่า ทางตำรวจทำคดีนี้เต็มที่ อยากให้เชื่อมั่นการทำงานของตำรวจว่าคดีมีความคืบหน้า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การให้ข้อมูลครั้งนี้ สอดคล้องกับที่มีการรายจากคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ว่าเตรียมยื่นขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 2 ราย ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิด 2 ราย ตามที่ปรากฎภาพจากกล้องวงจรปิด ไปวางระเบิดภายในศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ รายแรกเป็นชาย อายุ 20-30 ปี สวมเสื้อเชิร์ตสีขาว กางเกงขายาวสีน้ำตาล รองเท้าผ้าใบสีดำ  สวมหน้ากากอนามัย ใส่หมวกแก๊ปสีขาว  สะพายกระเป๋าสีดำคาดที่ลำตัว และกระเป๋าสีเขียวคล้องไว้ที่ไหล่ซ้าย  ก่อเหตุวางระเบิดจุดที่ 1 และจุดที่ 2 บริเวณสวนหย่อมหน้าอาคารบี คนร้ายรายที่ 2  เป็นชาย อายุ 20-30 ปี สวมหน้ากากอนามัย เสื้อเชิร์ตแขนยาวสีขาว กางเกงสีเทาดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ สะพายกระเป๋าสีดำที่หลัง ถือกระเป๋าสีส้ม วางระเบิดจุดที่ 3 และจุดที่ 4 บริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพไทย ห่างจากจุดระเบิดอาคารบี ประมาณ 200 เมตร  

ขณะเดียวกัน พนักงานสอบ สน.พญาไท เจ้าของพื้นที่ที่เกิดเหตุ เพลิงไหม้ย่านประตูน้ำ รวม 3 จุด และพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุระเบิดใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีช่องนนทรี และลานจอดรถตึกมหานคร คิงเพาเวอร์ จะนำพยานหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดเข้ามารายงานต่อที่ประชุมช่วงบ่ายวันนี้

ต่อมาคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้เชิญตัวพยาน ที่รับผู้ต้องสงสัยก่อเหตุลอบเพลิงย่านประตูน้ำ เป็นคนขับรถจ้างสาธารณะมาให้ปากคำและชี้รูปผู้ต้องสงสัยก่อเหตุ 1 คน หลังพบชายคนดังกล่าวได้เปลี่ยนเสื้อผ้าภายในรถ ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ปากคำ .-สำนักข่าวไทย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง