ประชุมคดีลอบวางระเบิดและวางเพลิง

กทม.5 ส.ค.-   หัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีลอบวางระเบิดและวางเพลิง ประชุมติดตามความคืบหน้า การลงพื้นที่หาข่าว ไล่ตรวจสอบภาพวงจรปิด


ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า การสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีลอบวางระเบิด 9 ลูก รวม 8 จุด เมื่อวันที่ 1 และ 2 สิงหาคม และเหตุเพลิงไหม้ย่านประตูน้ำว่า  ล่าสุดที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เตรียมประชุมสรุปผลจากการลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวรอบ 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา มี พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน เป็นประธานประชุม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ระดมนายตำรวจซึ่งเชี่ยวชาญงานสืบสวนสอบสวน ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวทั้งพยานบุคคล วัตถุพยาน รวมถึงไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตั้งแต่สถานีรถไฟ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ,สถานีรถไฟหัวลำโพง และสถานีขนส่ง ทั้งขาขึ้นและขาล่อง รวมทั้งจุดที่สามารถขึ้น-ลงได้ โดยพบความเคลื่อนไหวบางอย่าง เช่น ผู้ต้องสงสัยมีการเปลี่ยนเสื้อผ้า 3 ชุด 3 จุดในวันเดียว คาดว่าระเบิดถูกนำมาวางพร้อมกันทั้ง 8 จุด จำนวน 9 ลูก ช่วงเช้าของวันที่ 1 สิงหาคม แล้วพบวัตถุระเบิด 2 ลูกที่หน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยเป็นระเบิดปลอม 1 ลูก ระเบิดจริง 1 ลูก  ซึ่งสามารถเก็บกู้ได้ และมีเหตุระเบิดอีก 7 จุดในวันรุ่งขึ้น  เบื้องต้นกลุ่มคนร้ายมีมากกว่า 5 คนแต่จะมากกว่า 10 คนหรือไม่ ขอเวลาตรวจสอบให้ชัดเจน อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี ได้แบ่งหรือจัดกลุ่มเหตุการณ์ ออกเป็น  2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือเหตุลอบวางระเบิดหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นระเบิด 1 ลูก ระเบิดปลอม 1 ลูก , เหตุระเบิดที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อาคารบี ขาเข้าและขาออก จำนวน 2 ลูก, ลอบวางระเบิดหน้าและด้านข้างกองทัพไทย จำนวน 2 ลูก , ลอบวางระเบิดใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ช่องนนทรี จำนวน 1 ลูก,  ลอบวางระเบิดบริเวณลานจอดหน้าตึกมหานคร คิงเพาเวอร์ จำนวจ 1 ลูก และลอบวางระเบิดหน้าสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม กลุ่มที่ 2 คือเหตุเพลิงไหม้ในร้ายจำน่ายตุ๊กตา สยามสแควร์วัน 2 จุด  และเหตุเพลิงไหม้อาคารสำหรับขายของ และเก็บสินค้า รวม 3 จุด อยู่ระหว่างรอผลตรวจพิสูจน์หลักฐาน ว้เชื่อมโยงกับเหตุระเบิด 8 จุดหรือไม่ ส่วนเหตุระเบิดที่พระราม 9 ซอย 57/1ไม่มีความเกี่ยวข้องแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย



ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก