นายกฯ ประณามคนก่อเหตุระเบิด “ชั่วร้าย ใจดำ”

รร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้า 5 ส.ค.- นายกฯ ประณามคนก่อเหตุระเบิด “ชั่วร้าย ใจดำ” ทำประเทศวุ่นวายขณะการประชุมสำคัญ ยันรัฐบาลไม่ทำเพื่อดิสเครดิตตัวเอง ขอให้คิดอย่างมีตรรกะ พร้อมแสดงความเห็นใจมารดาผู้ต้องสงสัยเหตุระเบิด ขอฟังความ 2 ฝ่าย ทุกอย่างยึดพยานหลักฐานและเป็นไปตามกฎหมาย


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง ความคืบหน้าการสอบสวนสถานการณ์ระเบิดป่วนกรุง เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2562 ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบ  ทราบว่ามีการเกี่ยวพันกับหลายคน ส่วนสาเหตุในการวางระเบิด ยังไม่ทิ้งสาเหตุใด ต้องมีการตรวจสอบหลายเหตุการณ์  มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะในเรื่องภาคใต้ คงต้องมีการหารือและสอบสวนกันต่อไป 

“ขอให้ใจเย็นๆ วันนี้ได้ทราบถึงตัวผู้เกี่ยวข้อง เป็น 10 คนที่ต้องติดตามตัวมาสอบสวนต่อไป  ไม่กำหนดระยะเวลาทำงาน ขออย่ากดดันเจ้าหน้าที่ในการทำงาน  ผมไม่ได้มุ่งหมายว่า เหตุที่เกิดขึ้นมาจากกลุ่มใด  ยังไม่ตัดประเด็นแรงจูงใจเรื่องใดออกไป เมื่อดูเหตุการณ์ตั้งแต่อดีต จะมีความยึดโยงกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว และว่า เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ ในโลกที่ก็มีให้เห็นอยู่ คนเราแตกต่างกันด้านความคิด  


ส่วนกรณีที่แม่ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับตัวแสดงความเป็นห่วงลูกชายนั้น  นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า แม่ทุกคนห่วงลูกเป็นธรรมดา แต่ก็ต้องตรวจสอบไปตามวัตถุพยานและกล้องซีซีทีวี   ต้องฟังความทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิด ได้ให้กระทรวงสาธารณสุขและตำรวจเข้าไปดูแลแล้ว

นายกรัฐมนตรี  ยังกล่าวประณามคนที่ก่อเหตุระเบิดในครั้งนี้ ว่า เป็นการกระทำที่ชั่วร้าย เพราะถ้าเกิดที่ใดก็ตามก็มีปัญหาหมด โดยเฉพาะเกิดขึ้นในระหว่างที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน  

“คนที่ทำถือว่าใจร้าย ใจดำ เป็นคนที่ใช้ไม่ได้ คนพวกนี้ต้องถูกลงโทษ ที่ทำให้ประเทศวุ่นวาย เพราะขณะนี้ประเทศกำลังเดินหน้า โดยรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย” นายกรัฐมนตรี กล่าว 


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการบูรณาการการทำงานด้านการข่าว การพิสูจน์หลักฐาน รวมทั้ง การชี้แจงข้อมูลร่วมกัน  ส่วนตัวรับฟังทุกคน และชื่นชมกล้องซีซีทีวีทุกตัวที่ใช้งานได้ จนทำให้สามารถตรวจสอบหาความเชื่อมโยงได้ไปถึงหลายกลุ่ม  อย่างไรก็ตาม  ต้องใช้ความร่วมมือจากประชาชน ช่วยกันเฝ้าระวังเป็นหูเป็นตา และแจ้งเบาะแส ถ่ายรูป และเมื่อรูปนั้นตรงกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการก็จะได้รวดเร็ว และเป็นการแบ่งเบาภาระให้ตำรวจด้วย เพราะความปลอดภัยเป็นเรื่องของทุกคน โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวและพื้นที่ธุรกิจ รวมถึง พื้นที่ในการประชุมที่สำคัญที่ต้องช่วยกันดูแล

ต่อกรณีที่คนมองว่า การก่อเหตุระเบิดเป็นฝีมือของรัฐบาล เพื่อต้องการกลบกระแสบ้างอย่างนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือของรัฐบาล เพราะขณะเกิดเหตุมีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ที่เป็นประเทศมหาอำนาจ  ใครจะทำแบบนั้น เว้นแต่เขาทำเพื่อไม่ให้เกิดความน่าเชื่อถือในเวทีต่างประเทศ ขอให้มองมุมนี้บ้าง

“อย่ามองแต่ว่ารัฐบาลจะสร้างสถานการณ์ ที่สำคัญไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร ผมอยู่เฉยๆ ไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ดีกว่าหรือ คิดให้มันมีตรรกกะหน่อย”นายกรัฐมนตรี กล่าว และว่า ขอเตือนเรื่องการแสดงความคิดเห็น ให้ใช้ความระมัดระวัง ที่จะไม่ให้เกิดความขัดแย้ง หรือการให้ข้อมูลข่าวสารใดๆ ที่ทำให้เข้าใจผิด หรือไม่ชอบพอใจกันเป็นการส่วนตัว

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ระเบิดป่วนกรุงที่เกิดขึ้น เป็นการท้าทายหรือสร้างความไม่พอใจ หลังนายกรัฐมนตรีเข้ามาคุมทหารและตำรวจหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องกันกับความไม่พอใจ เพราะตนได้ให้นโยบายตำรวจ เพื่อให้การให้เกิดความชัดเจนในการสืบสวนและสอบสวนต่อไป

ส้วนคำพูดที่ระบุว่า “หากอยากให้บ้านเมืองสงบ ให้เลือกลุงตู่” นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้เป็นคนพูด และมองว่าใครจะเลือกใครก็เป็นเรื่องการเมือง  เพราะที่ผ่านมาตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 

สำหรับการแก้ปัญหาภาคใต้ ต้องให้ความสำคัญมากขึ้นกับการพูดคุยสันติสุขหรือไม่  นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า การพูดคุยต้องใช้ความระมัดระวังอย่างที่สุด  รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียวแบ่งแยกไม่ได้  สิ่งใดรับได้ก็จะทำ  การแก้ไขปัญหาภาคใต้ที่ผ่านมา ได้ทำมาหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องกฎหมาย การพัฒนาและการพาคนกลับบ้าน  เรื่องทั้งหมดต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม  

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาเพื่อหาคนมาทำหน้าหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข แทน พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ อดีตหัวหน้าคณะพูดคุย ที่ไปดำรงตำแหน่งเป็น ส.ว.แล้ว  ขอให้ทุกคนใจเย็นๆ  และในฐานะที่ตนเป็นผอ.รมน. ได้สั่งการให้ศูนย์ต่อต้านการก่อการร้าย (ศตก.) เข้ามาร่วมดูสถานการณ์ภายในประเทศ รวมถึง ดูแลเรื่องการข่าวที่ต้องประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน ต้องขอความร่วมมือให้มากกว่าเดิม ในการเข้า-ออกของประชาชนตามแนวชายแดน    . – สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย