นายกฯ ประณามคนก่อเหตุระเบิด “ชั่วร้าย ใจดำ”

รร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้า 5 ส.ค.- นายกฯ ประณามคนก่อเหตุระเบิด “ชั่วร้าย ใจดำ” ทำประเทศวุ่นวายขณะการประชุมสำคัญ ยันรัฐบาลไม่ทำเพื่อดิสเครดิตตัวเอง ขอให้คิดอย่างมีตรรกะ พร้อมแสดงความเห็นใจมารดาผู้ต้องสงสัยเหตุระเบิด ขอฟังความ 2 ฝ่าย ทุกอย่างยึดพยานหลักฐานและเป็นไปตามกฎหมาย


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง ความคืบหน้าการสอบสวนสถานการณ์ระเบิดป่วนกรุง เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2562 ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบ  ทราบว่ามีการเกี่ยวพันกับหลายคน ส่วนสาเหตุในการวางระเบิด ยังไม่ทิ้งสาเหตุใด ต้องมีการตรวจสอบหลายเหตุการณ์  มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะในเรื่องภาคใต้ คงต้องมีการหารือและสอบสวนกันต่อไป 

“ขอให้ใจเย็นๆ วันนี้ได้ทราบถึงตัวผู้เกี่ยวข้อง เป็น 10 คนที่ต้องติดตามตัวมาสอบสวนต่อไป  ไม่กำหนดระยะเวลาทำงาน ขออย่ากดดันเจ้าหน้าที่ในการทำงาน  ผมไม่ได้มุ่งหมายว่า เหตุที่เกิดขึ้นมาจากกลุ่มใด  ยังไม่ตัดประเด็นแรงจูงใจเรื่องใดออกไป เมื่อดูเหตุการณ์ตั้งแต่อดีต จะมีความยึดโยงกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว และว่า เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ ในโลกที่ก็มีให้เห็นอยู่ คนเราแตกต่างกันด้านความคิด  


ส่วนกรณีที่แม่ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับตัวแสดงความเป็นห่วงลูกชายนั้น  นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า แม่ทุกคนห่วงลูกเป็นธรรมดา แต่ก็ต้องตรวจสอบไปตามวัตถุพยานและกล้องซีซีทีวี   ต้องฟังความทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิด ได้ให้กระทรวงสาธารณสุขและตำรวจเข้าไปดูแลแล้ว

นายกรัฐมนตรี  ยังกล่าวประณามคนที่ก่อเหตุระเบิดในครั้งนี้ ว่า เป็นการกระทำที่ชั่วร้าย เพราะถ้าเกิดที่ใดก็ตามก็มีปัญหาหมด โดยเฉพาะเกิดขึ้นในระหว่างที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน  

“คนที่ทำถือว่าใจร้าย ใจดำ เป็นคนที่ใช้ไม่ได้ คนพวกนี้ต้องถูกลงโทษ ที่ทำให้ประเทศวุ่นวาย เพราะขณะนี้ประเทศกำลังเดินหน้า โดยรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย” นายกรัฐมนตรี กล่าว 


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการบูรณาการการทำงานด้านการข่าว การพิสูจน์หลักฐาน รวมทั้ง การชี้แจงข้อมูลร่วมกัน  ส่วนตัวรับฟังทุกคน และชื่นชมกล้องซีซีทีวีทุกตัวที่ใช้งานได้ จนทำให้สามารถตรวจสอบหาความเชื่อมโยงได้ไปถึงหลายกลุ่ม  อย่างไรก็ตาม  ต้องใช้ความร่วมมือจากประชาชน ช่วยกันเฝ้าระวังเป็นหูเป็นตา และแจ้งเบาะแส ถ่ายรูป และเมื่อรูปนั้นตรงกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการก็จะได้รวดเร็ว และเป็นการแบ่งเบาภาระให้ตำรวจด้วย เพราะความปลอดภัยเป็นเรื่องของทุกคน โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวและพื้นที่ธุรกิจ รวมถึง พื้นที่ในการประชุมที่สำคัญที่ต้องช่วยกันดูแล

ต่อกรณีที่คนมองว่า การก่อเหตุระเบิดเป็นฝีมือของรัฐบาล เพื่อต้องการกลบกระแสบ้างอย่างนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือของรัฐบาล เพราะขณะเกิดเหตุมีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ที่เป็นประเทศมหาอำนาจ  ใครจะทำแบบนั้น เว้นแต่เขาทำเพื่อไม่ให้เกิดความน่าเชื่อถือในเวทีต่างประเทศ ขอให้มองมุมนี้บ้าง

“อย่ามองแต่ว่ารัฐบาลจะสร้างสถานการณ์ ที่สำคัญไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร ผมอยู่เฉยๆ ไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ดีกว่าหรือ คิดให้มันมีตรรกกะหน่อย”นายกรัฐมนตรี กล่าว และว่า ขอเตือนเรื่องการแสดงความคิดเห็น ให้ใช้ความระมัดระวัง ที่จะไม่ให้เกิดความขัดแย้ง หรือการให้ข้อมูลข่าวสารใดๆ ที่ทำให้เข้าใจผิด หรือไม่ชอบพอใจกันเป็นการส่วนตัว

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ระเบิดป่วนกรุงที่เกิดขึ้น เป็นการท้าทายหรือสร้างความไม่พอใจ หลังนายกรัฐมนตรีเข้ามาคุมทหารและตำรวจหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องกันกับความไม่พอใจ เพราะตนได้ให้นโยบายตำรวจ เพื่อให้การให้เกิดความชัดเจนในการสืบสวนและสอบสวนต่อไป

ส้วนคำพูดที่ระบุว่า “หากอยากให้บ้านเมืองสงบ ให้เลือกลุงตู่” นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้เป็นคนพูด และมองว่าใครจะเลือกใครก็เป็นเรื่องการเมือง  เพราะที่ผ่านมาตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 

สำหรับการแก้ปัญหาภาคใต้ ต้องให้ความสำคัญมากขึ้นกับการพูดคุยสันติสุขหรือไม่  นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า การพูดคุยต้องใช้ความระมัดระวังอย่างที่สุด  รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียวแบ่งแยกไม่ได้  สิ่งใดรับได้ก็จะทำ  การแก้ไขปัญหาภาคใต้ที่ผ่านมา ได้ทำมาหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องกฎหมาย การพัฒนาและการพาคนกลับบ้าน  เรื่องทั้งหมดต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม  

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาเพื่อหาคนมาทำหน้าหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข แทน พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ อดีตหัวหน้าคณะพูดคุย ที่ไปดำรงตำแหน่งเป็น ส.ว.แล้ว  ขอให้ทุกคนใจเย็นๆ  และในฐานะที่ตนเป็นผอ.รมน. ได้สั่งการให้ศูนย์ต่อต้านการก่อการร้าย (ศตก.) เข้ามาร่วมดูสถานการณ์ภายในประเทศ รวมถึง ดูแลเรื่องการข่าวที่ต้องประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน ต้องขอความร่วมมือให้มากกว่าเดิม ในการเข้า-ออกของประชาชนตามแนวชายแดน    . – สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพร “ปีใหม่-วันเด็ก” ให้นายกฯ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพรปีใหม่ 2568 – วันเด็ก ให้ “นายกฯ พี่อิ๊งค์” มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง อยู่คู่ตึกไทยคู่ฟ้า บริหารประเทศไปนานๆ พร้อมฝากความคิดถึง “อดีตนายกฯ ทักษิณ”

16 บอสดิไอคอน แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.

16 บอส ดิไอคอนกรุ๊ป แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.นี้ ขณะที่ “ทนายวิฑูรย์” เผย “บอสพอล-บอสกันต์” ดีใจ หลัง “แซม-มิน” ได้ปล่อยตัว ส่วนท่าทีทั้งคู่ดูสบายๆ ปกติ ล่าสุดมีรายงาน “บอสวิน” ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว อยู่ระหว่างรอผล

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน รวมถึงดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารและการติดต่อรับศพนายลิม ที่แผนกนิติเวช รพ.วชิรพยาบาล